ภาวะก่อนเป็นเบาหวาน คือ ภาวะที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าเกณฑ์ปกติ แต่ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่เป็นเบาหวาน โดยผู้ที่มีภาวะก่อนเบาหวานหากตรวจระดับน้ำตาลหลังอดอาหารมาอย่างน้อย 8 ชั่วโมง จะมีระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ที่ 100-125 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หรือเมื่อตรวจโดยการทดสอบความทนทานต่อน้ำตาล (75 gm OGTT) ค่าระดับน้ำตาลจะอยู่ระหว่าง 140-199 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
ภาวะก่อนเบาหวานมักไม่มีอาการผิดปกติหรือสัญญาณเตือนใด ๆ เมื่อปล่อยให้ระดับน้ำตาลสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงอาจมีอาการแสดงของโรคเบาหวาน เช่น กระหายน้ำมาก ปัสสาวะบ่อย มองเห็นภาพไม่ชัดดังนั้น จึงควรเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำและศึกษาวิธีป้องกันเบื้องต้น เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน
[embed-health-tool-bmi]
สาเหตุที่ทำให้เกิด ภาวะก่อนเป็นเบาหวาน
ภาวะก่อนเป็นเบาหวาน คือภาวะที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นกว่าระดับปกติ แต่ยังไม่สูงถึงเกณฑ์ของโรคเบาหวาน เป็นผลมาจากการที่ร่างกายจัดการกับน้ำตาลในเลือดได้ไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งอาจเป็นผลมาจากระบบภูมิคุ้มกันโจมตีตับอ่อนทำให้ผลิตอินซูลินไม่เพียงพอ ซึ่งนำไปสู่โรคเบาหวานชนิดที่ 1 หรืออาจเกิดจากร่างกายผลิตอินซูลินเพียงพอแตเซลล์ในร่างกายดื้ออินซูลินทำให้ไม่สามารถนำน้ำตาลในกระแสเลือดมาเผาผลาญเป็นพลังงานได้อย่างเหมาะสมทำให้มีน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งต่อมาจะนำไปสู่โรคเบาหวานชนิดที่ 2
ใครที่เสี่ยงเกิด ภาวะก่อนเป็นเบาหวาน
ผู้ที่อาจมีความเสี่ยงภาวะก่อนเบาหวาน มีดังนี้
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรือมีค่าดัชนีมวลกายตั้งแต่ 23 ขึ้นไป หรือมีรอบเอวเกิน 80 เซนติเมตรในผู้หญิง หรือ 90 เซนติเมตรในผู้ชาย
- ผู้ที่มีระดับคอเลสเตอรอล หรือไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์สูง
- ผู้ที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย มีพฤติกรรมเนือยนิ่ง (sedentary lifestyle) ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกายในชีวิตประจำวัน
- ผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ
- ผู้ที่มีภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ
- ผู้ที่เคยเป็นภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ หรือคลอดบุตรที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า 4 กิโลกรัม
อาการของภาวะก่อนเป็นเบาหวาน
จริง ๆ แล้ว ผู้ที่เพิ่งเริ่มมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง แต่ยังไม่สูงถึงเกณฑ์เป็นเบาหวาน หรือที่เรียกว่า ภาวะก่อนเป็นเบาหวาน มักจะยังไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ ให้สังเกต แต่หากไม่ได้รับการรักษา และดูแลตัวเองไม่ดี อาจทำให้ระดับน้ำตาลเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้มีอาการแสดงอันเนื่องมาจากน้ำตาลในเลือดสูง ดังนี้
- รู้สึกกระหายน้ำมาก
- ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ
- รู้สึกอยากอาหารมากขึ้น หิวบ่อย
- น้ำหนักลดลงอย่างกะทันหัน
- มองเห็นภาพไม่ชัดเจน ตาพร่ามัว
- รู้สึกเพลีย เหนื่อยล้าง่าย
- แผลหายช้า
- ติดเชื้อได้ง่าย เช่น ติดเชื้อที่ผิวหนัง ติดเชื้อในกระแสเลือด ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อตรวจสุขภาพและระดับน้ำตาลในเลือดทันทีหากมีอาการดังกล่าว รวมถึงปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน
การป้องกันภาวะก่อนเป็นเบาหวาน
การดูแลตัวเองเพื่อป้องกัน ภาวะก่อนเป็นเบาหวาน อาจทำได้ดังนี้
- หมั่นตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำ
- เข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี
- รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เน้นการรับประทานผัก ผลไม้ที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ ธัญพืช และไขมันที่ดี
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารแปรรูป เนื้อสัตว์ติดมัน ของหวาน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ผสมน้ำตาล เพราะอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น
- ออกกำลังกายเป็นประจำ แนะนำให้ออกกำลังกายความเหนื่อยระดับปานกลาง เช่น เดิน วิ่ง อย่างน้อยวันละ 30 นาที 5 วัน/สัปดาห์ หรือ 150 นาที/สัปดาห์ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการผลิตอินซูลิน และช่วยให้เซลล์ในร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้ดีขึ้น นำน้ำตาลเป็นเผาผลาญเป็นพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- เลิกสูบบุหรี่ เพราะบุหรี่ส่งผลให้ประสิทธิภาพของอินซูลินลดลง อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคร้ายแรงอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น โรคถุงลมโป่งพอง โรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด