โรคเบาหวานชนิดที่ 1 เกิดขึ้นจากการที่ตับอ่อนไม่สามารถสร้างอินซูลินขึ้นมาได้มากเพียงพอที่จะจัดการกับน้ำตาลในเลือด พบได้มากในผู้ที่มีอายุน้อย ดังนั้น จึงควรศึกษาวิธีการดูแลผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 เพื่อให้สามารถรับมือกับอาการและช่วยป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
[embed-health-tool-bmi]
วิธีการดูแลผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1
วิธีการดูแลผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 อาจทำได้ดังนี้
- เตือนความจำ จดโน้ตถึงการนัดหมายตรวจสุขภาพประจำปี หรือตามที่แพทย์กำหนดเอาไว้ เพื่อช่วยให้ ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ได้เข้ารับการตรวจสุขภาพตรงตามเวลา
- รับการฉีดวัคซีนให้ครบ
- หลีกเลี่ยงสูบบุหรี่อย่างถาวร
- ลดปริมาณการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากเป็นไปได้ให้หยุดดื่มเลยจะดีเสียกว่า
- ลดระดับความเครียด หรือหากิจกรรมที่ช่วยให้ ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 รู้สึกผ่อนคลาย เพราะความเครียดจะทำให้อินซูลินมีการทำงานที่ผิดปกติ
- ควบคุมความดันโลหิต และระดับคอเลสเตอรอล หรือมีการตรวจเป็นประจำด้วยอุปกรณ์ที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- เลือกอาหารที่เหมาะสม ตามการวางแผนรับประทานอาหารจากคุณหมอ
- สังเกตบาดแผลพุพองบนผิวหนังทั่วทั้งร่างกายของ ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ที่อาจเกิดขึ้นจากโรคเบาหวานชนิดที่ 1
หากผู้ป่วยมีอาการรุนแรงอยู่บ่อยครั้ง คุณหมออาจให้สวมใส่อุปกรณ์ที่ข้อมือ หรือติดอุปกรณ์อย่างเข็มกลัด ที่บ่งชี้ว่าเป็น ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างฉุกเฉินในทันที เมื่อมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น ดังนั้น จึงไม่ควรปล่อยให้ ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ถอดออกตามอำเภอใจ
ภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1
สำหรับ ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 บางกรณีอาจมีภาวะแทรกซ้อนเข้ามาร่วมด้วยอย่างแน่นอน โดยสามารถแบ่งออกเป็นภาวะแทรกซ้อนในระยะสั้น และระยะยาว ดังนี้
ภาวะแทรกซ้อนโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ระยะสั้น ได้แก่
- ระดับน้ำตาลในเลือดสูง
- ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
- ภาวะเลือดเป็นกรด จากการที่ร่างกายสร้างคีโตน (Ketones) มากเกินไป
ภาวะแทรกซ้อนโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ระยะยาว ได้แก่
- โรคหลอดเลือดหัวใจ
- เส้นประสาทเสียหาย
- โรคไต
- จอประสาทตาเสื่อม เสี่ยงเป็นต้อหิน และต้อกระจก
- เซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ
- หัวใจวาย
การรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 1
คุณหมอส่วนใหญ่มักเลือกใช้การรักษา ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ด้วยอินซูลิน และตัว ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ก็อาจต้องได้รับรักษาด้วยวิธีนี้ตลอดทั้งชีวิต โดยคุณหมอจะทำการฉีด หรือสอนการฉีดอินซูลินให้ ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 และผู้ดูแลให้ได้ทราบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตัวอุปกรณ์ด้ามฉีด เข็มฉีด ชนิดยาที่ใช้ วิธีการใช้ วิธีการเก็บรักษา เป็นต้น
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การรักษาด้วยอินซูลินนั้น ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ต้องผ่านการวินิจฉัยสุขภาพจากคุณหมอในการหาสาเหตุเบื้องต้นเสียก่อน ซึ่งอินซูลินที่จะได้รับนั้น สามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ได้ดังนี้
- อินซูลินออกฤทธิ์เร็ว (Rapid Acting) โดยจะเริ่มการทำงานหลังฉีดใต้ผิวหนัง 15 นาที จนถึง 1 ชั่วโมง และยังอาจมีการทำงานต่อไปได้อีก 2-4 ชั่วโมง ก่อนประสิทธิภาพจึงจะค่อย ๆ ลดลง
- อินซูลินออกฤทธิ์สั้น (Short Acting) จะเริ่มการทำงานประมาณ 30 นาที จนถึง 3 ชั่วโมง และยังอาจมีการทำงานต่อไปได้อีก 3-6 ชั่วโมง
- อินซูลินออกฤทธิ์นาน (Long Acting Insulin Analog) จะใช้เวลาหลายชั่วโมงก่อนที่จะเริ่มซึมเข้าสู่กระแสเลือด