ด้วยสภาพสังคมปัจจุบันที่ทุกอย่างเต็มไปด้วยความเร่งรีบและรวดเร็ว ส่งผลให้การดำเนินชีวิตประจำวันของคนเราจำเป็นต้องรีบเร่งตามไปด้วยอย่างเสียไม่ได้ จนหลายครั้งก็ทำให้เราต้องเลือกที่จะตัดหรือข้ามกิจวัตรประจำวันที่สำคัญหลาย ๆ อย่างไป โดยเฉพาะการรับประทานอาหาร ที่เมื่อยุ่งมาก ๆ เราก็มักจะหลงลืมเวลา ทำให้ กินอาหารไม่ตรงเวลา อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งแม้จะไปทดแทนเอาในมื้อต่อ ๆ ไปได้ แต่การกินอาหารไม่ตรงเวลาเป็นประจำ อาจมีผลเสียต่อสุขภาพได้ วันนี้ Hello คุณหมอ ได้นำข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อสุขภาพเมื่อกินอาหารไม่ตรงเวลามาฝากค่ะ
[embed-health-tool-bmr]
ทำไมเราควร กินข้าวให้ตรงเวลา
การกินอาหารให้ตรงเวลา เป็นเรื่องที่ถือว่ามีความสำคัญต่อระบบร่างกายในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้
เสริมการทำงานของระบบเผาผลาญ
การรับประทานอาหารจะช่วยให้ระบบในร่างกายเริ่มวงจรการทำงานได้เป็นปกติ แต่เมื่ออดอาหาร หรือ กินข้าวไม่ตรงเวลา ไม่ว่าจะในมื้อใดก็ตาม ร่างกายจะรู้สึกขาดพลังงาน ระบบต่าง ๆ ในร่างกายจะเริ่มทำงานช้าลง โดยเฉพาะการเผาผลาญที่จะทำงานช้าลงกว่าปกติ ทำให้เผาผลาญแคลอรีได้น้อย ผู้ที่กำลังลดน้ำหนักหากต้องการลดน้ำหนักอย่างเห็นผลจึงไม่ควรอดอาหาร
เสริมพลังงานแก่ร่างกาย
การกินอาหารให้ตรงเวลา จะช่วยให้ระยะเวลาหลังจากนั้นร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอที่จะไปหล่อเลี้ยงระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ช่วยให้รู้สึกกระฉับกระเฉง มีพลังงานเพียงพอพร้อมต่อการทำกิจกรรม มากไปกว่านั้น ยังช่วยให้มีสมาธิอีกด้วย
ช่วยลดการกินจุกจิก
การรับประทานอาหารให้ตรงเวลาจะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานในแต่ละมื้ออย่างเพียงพอ จะช่วยลดความอยากอาหารในมื้อต่อไป ทำให้ไม่กินจุกจิก หรือกินมากขึ้นในมื้อต่อไปเพื่อทดแทนพลังงานให้แก่ร่างกาย ซึ่งตรงกันข้ามกับการ กินข้าวไม่ตรงเวลา ที่เสี่ยงจะทำให้หิวบ่อย หรือกินจุกจิกมากขึ้น
ป้องกันการขาดสารอาหาร
การรับประทานอาหารให้ตรงเวลาทุกมื้อและทุกวัน จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนและเพียงพอ การอดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง หรือการ กินข้าวไม่ตรงเวลา อาจทำให้ในวันนั้นร่างกายได้รับสารอาหารบางอย่างไม่เพียงพอ และถ้าหากทำจนติดเป็นนิสัย ก็เสี่ยงที่จะประสบกับภาวะขาดสารอาหารบางชนิด เช่น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน หรือวิตามินต่าง ๆ ได้
กินอาหารไม่ตรงเวลา เสี่ยงต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง
การ กินข้าวไม่ตรงเวลา บ่อย ๆ ในระยะยาวอาจมีผลเสียต่อสุขภาพได้หลายประการ ดังนี้
กินข้าวไม่ตรงเวลา มีผลต่อน้ำตาลในเลือด
หากอดอาหาร หรือ กินข้าวไม่ตรงเวลา เป็นประจำ ร่างกายจะไม่ได้รับคาร์โบไฮเดรตซึ่งเป็นพลังงานสำคัญของร่างกาย เมื่อระดับคาร์โบไฮเดรตไม่เพียงพอก็จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดมีความผันผวนเช่นนี้ ก็จะเกิดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน มากไปกว่านั้น สมองยังจำเป็นต้องใช้กลูโคสเพื่อกระตุ้นการทำงานของสมอง หากระดับน้ำตาลในเลือดลดลงจะทำให้สมองทำงานได้ช้าลงด้วย
มีผลต่อระบบย่อยอาหาร
การ กินข้าวไม่ตรงเวลา จะทำให้ระบบการย่อยอาหารผิดปกติ ไม่มีอาหารและสารอาหารให้ระบบทางเดินอาหารและระบบย่อยอาหารได้ทำหน้าที่ตามปกติ เสี่ยงที่จะเป็นโรคกระเพาะอาหาร หรือแผลในกระเพาะอาหาร
ระบบเผาผลาญทำงานช้าลง
การ กินข้าวไม่ตรงเวลา จะทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้ช้าลง เผาผลาญแคลอรีน้อยลง ร่างกายจึงได้รับพลังงานไม่เต็มที่ มีผลให้ระบบต่าง ๆ เกิดความผิดปกติ เช่น ร่างกายรู้สึกเหนื่อยล้า ความเครียด ความดันโลหิตต่ำ ท้องผูก
กินข้าวไม่ตรงเวลา เสี่ยงต่อโรคอ้วน
เมื่ออดอาหาร จะทำให้ความอยากอาหารมื้อต่อไปเพิ่มมากขึ้น เสี่ยงที่แคลอรีจะพุ่งเกินพิกัด และถ้าหากมีพฤติกรรม กินข้าวไม่ตรงเวลา เป็นประจำก็จะมีผลต่อน้ำหนัก ในระยะยาวอาจเสี่ยงต่อโรคอ้วนได้
กินอาหารไม่ตรงเวลา ควรแก้ไขอย่างไร
เราสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารได้ง่าย ๆ ดังนี้
- หากไม่สะดวกรับประทานอาหารมื้อใหญ่ในมื้อนั้น ๆ ให้พยายามแบ่งอาหารออกเป็นมื้อเล็ก ๆ กินหลาย ๆ เวลา เพื่อไม่ให้ร่างกายหิวโหย
- หากมีภารกิจประจำวันที่แสนยุ่งเหยิง ควรพกของว่างติดตัวไว้เสมอ เช่น ผลไม้ ขนมปัง นม โยเกิร์ต เพื่อให้มีอาหารรองท้อง ลดอาการหิวโหยระหว่างวัน
- เน้นของว่างที่มีโปรตีนและไฟเบอร์ เพราะจะทำให้ร่างกายอิ่มได้นานขึ้น
- หากรู้ล่วงหน้าว่าจะไม่มีเวลามากพอในการกินอาหาร ควรเตรียมอาหารหรือของว่างไว้ล่วงหน้า เพื่อจะได้ไม่ต้องอดอาหารในวันนั้น
- อย่าอดอาหาร พยายามรับประทานให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
- ตั้งเวลาเพื่อเตือนว่าถึงเวลาที่ควรกินอาหารแล้ว และควรปฏิบัติตามระยะเวลาที่ตั้งไว้ พยายามอย่า กินข้าวไม่ตรงเวลา บ่อย ๆ เพราะจะติดเป็นนิสัยและแก้ได้ยาก