ขวดนม นับเป็นตัวช่วยสำหรับคุณแม่ในการให้นมทารก โดยเฉพาะคุณแม่ที่ต้องปั๊มนมเก็บไว้ให้ลูกดื่ม โดยสามารถนำน้ำนมที่แช่เก็บไว้ใส่ขวดแล้วให้คุณพ่อหรือคนในบ้านช่วยป้อนนมให้ลูกน้อยได้แทนการดูดจากเต้า เป็นการประหยัดเวลาให้คุณแม่ได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตาม คุณแม่และทุกคนในครอบครัวควรตระหนักถึงข้อมูลสำคัญและข้อควรระวังเกี่ยวกับขวดนมเพื่อที่จะได้มีขวดนมที่ปลอดภัยไว้ใช้กับลูกน้อยนั่นเอง
[embed-health-tool-vaccination-tool]
ข้อดีของการใช้ขวดนม
แม้การดื่มนมแม่จากเต้าโดยตรงเป็นเรื่องที่ดี แต่การใช้ขวดนมมาเป็นตัวช่วยในการให้นมลูก็มีข้อดีเช่นกัน
- สามารถรับรู้ปริมาณอาหารที่ลูกได้รับอย่างแน่นอนในแต่ละครั้งหรือแต่ละวัน โดยกำหนดให้แน่ชัดได้ว่าต้องการให้นมในปริมาณเท่าไหร่ หรือให้นมกี่ขวดจึงจะเพียงพอให้ลูกอิ่ม
- หากลูกต้องดื่มแต่นมแม่จากเต้าอย่างเดียว ในแต่ละครั้งที่เด็กหิว ผู้เป็นแม่จะต้องสละเวลาในการทำกิจกรรมอื่นๆ เพื่อมาให้นมลูก แต่การสลับมาให้ลูกดื่มนมจากขวดนม (โดยภายในอาจเป็นนมผงสำหรับเด็ก หรืออาจเป็นนมแม่ที่มีการปั๊มนมเก็บไว้สำหรับใส่ขวดนม) ก็จะเป็นการประหยัดเวลาให้ผู้เป็นแม่ได้มีเวลาพักผ่อนหรือทำกิจกรรมอื่นๆ โดยให้สมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ คอยดูแลเรื่องการให้นมจากขวดนมแทนได้
- เด็กที่ดื่มนมจากขวดนมจะหิวน้อยกว่าเด็กที่ดื่มนมจากเต้านมแม่ เพราะการดื่มนมจากขวดนมจะใช้เวลาในการย่อยนานกว่าดื่มนมจากเต้านมแม่
ข้อเสียของการใช้ขวดนม
การให้ลูกดื่มนมจากขวดมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อเสียที่คุณไม่ต้องพิจารณาเช่นเดียวกัน
- คุณแม่ที่ให้ลูกดื่มนมจากเต้านมของตนเอง จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ โรคกระดูกพรุน น้อยกว่าคุณแม่ที่ให้ลูกดื่มนมจากขวดนม
- การให้ลูกดื่มนมจากขวดนม (และในขวดนมเป็นนมผงสำหรับเด็ก) จะมีการย่อยที่ช้ากว่าการดื่มนมจากเต้านมของแม่
- ค่าใช้จ่ายในการซื้อขวดนมและนมผงนั้นแพงกว่าการให้ลูกดื่มนมจากเต้านมของแม่
วิธีทำความสะอาดขวดนม
สิ่งสำคัญที่สุดในการให้ลูกดื่มนมจากขวดนมนั่นคือการทำความสะอาดอย่างหมดจดเพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัยของลูกน้อย
- หลังจากที่เด็กดื่มนมจากขวดนมเสร็จ ให้ล้างขวดนมและจุกนมทันทีด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอุปกรณ์สำหรับเด็ก แล้วล้างด้วยน้ำร้อนหรือน้ำอุ่น
- ใช้แปรงสำหรับทำความสะอาดขวดนม และควรแน่ใจว่าทำความสะอาดคราบนมที่ติดอยู่ในขวดนมออกจนหมด
- เมื่อล้างเสร็จแล้วให้ล้างขวดนมอีกครั้งด้วยน้ำสะอาด แล้วนำไปตากให้แห้ง
ข้อห้ามสำหรับขวดนม
หลายคนใช้ขวดนมโดยไม่ทันระวังเพราะคิดว่าการใช้ขวดนมนั้นสะดวกและประหยัดเวลา แต่รู้หรือไม่ว่ามีข้อห้ามอยู่หลายประการเกี่ยวกับการใช้ขวดนม ซึ่งต้องให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่าเรื่องความสะอาด
ไมโครเวฟของต้องห้าม
คุณพ่อคุณแม่มือใหม่หลายคนมักจะนำขวดนมไปอุ่นในไมโครเวฟ จริงๆ แล้วนับเป็นข้อห้ามเด็ดขาด ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่สะดวกสบาย เพราะการนำขวดนมไปอุ่นในไมโครเวฟ จะทำให้ระดับความร้อนนั้นไม่พอดี ถ้าหากว่าเด็กได้รับนมที่ร้อนมากจนเกินไปก็อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทางที่ดีลองเอานมขวดแช่ในน้ำอุ่นแล้วลองหยดน้ำลงบนมือเพื่อตรวจสอบในเบื้องต้นดูว่าอุณภูมิอยู่ในระดับที่พอดีหรือไม่
ไม่ควรให้ดื่มนมในขณะนอนหลับ
ข้อควรระวังอีกข้อหนึ่งก็คือ ระวังไม่ให้เด็กดื่มนมจากขวดนมไปพร้อมๆ กับการนอนหลับ หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องปกติที่ควรทำเพราะจะช่วยให้เด็กนั้นหลับสบายมากยิ่งขึ้น แต่ในความเป็นจริงนั้นถือเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้เด็กเกิดการสำลักนมในขณะนอนหลับ และยังเพิ่มความเสี่ยงในเรื่องของฟันผุอีกด้วย
อย่าใส่ธัญพืชลงในน้ำนม
คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่กลัวว่าลูกจะได้รับสารอาหารจากนมไม่เพียงพอ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เด็กจะได้รับใยอาหารจากนมอย่างเพียงพออยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าน้ำนมนั้นเป็นนมแม่ แต่ถ้าหากว่าใส่ธัญพืชเข้าไปในนมของลูก ก็อาจจะกลายเป็นความเสี่ยงในเรื่องของระบบย่อยอาหาร เนื่องจากเด็กโดยเฉพาะทารกไม่สามารถที่จะเคี้ยวธัญพืชเหล่านั้นได้
นอกจากข้อควรระวังข้างต้นแล้ว ยังมีข้อควรระวังเพิ่มเติมดังนี้
- ในกรณีที่มีการอุ่นนม ควรแน่ใจว่านมที่อุ่นมานั้นไม่ได้ร้อนเกินไปจนเด็กจับขวดนมไม่ได้ หรือน้ำนมในขวดนมนั้นก็ไม่ควรที่จะร้อนมากจนเกินไปด้วยเช่นกัน
- ในทุกครั้งที่มีการอุ่นนม ผู้ปกครองควรระมัดระวังไอน้ำและความร้อน เพราะอาจจะเกิดเหตุน้ำร้อนลวกผิวหรือมือ
- ล้างมือให้สะอาดก่อนจะหยิบจับขวดนม หรืออุปกรณ์สำหรับเด็กชนิดอื่นๆ
- คอยดูแลให้น้ำนมอยู่ในอุณภูมิที่เหมาะสมอยู่เสมอ
- ไม่ควรปล่อยให้ลูกดื่มนมจากขวดนมแค่เพียงลำพัง ควรดูแลลูกในระหว่างที่ดื่มนมจากขวดนมอย่างใกล้ชิดและสม่ำเสมอ
- ทำความสะอาดขวดนมให้สะอาดอยู่เสมอ
ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการใช้ขวดนม
หลายคนเมื่อเริ่มมีการให้ลูกดื่มนมจากขวดนม ก็มักจะเปลี่ยนจากการให้ลูกดื่มนมแม่ มาใช้นมผงสำหรับเด็กโดยชงแล้วนำใส่ขวดนมให้ลูกดื่ม ซึ่งจะดีกว่าไหม หากคุณแม่ปั๊มนมเก็บไว้แล้วนำมาอุ่นใส่ขวดนมให้ลูกดื่ม เพราะจะทำให้ลูกยังได้รับสารอาหารที่มีคุณค่าจากน้ำนมแม่แทบไม่ต่างจากการดื่มจากเต้า ได้ทั้งประโยชน์และประหยัดเวลาอีกด้วย