ข้อบ่งใช้ พลาเควนนิล®
พลาเควนนิล® (ไฮดรอกซีคลอโรควิน) ใช้สำหรับ
พลาเควนนิล® (Plaquenil®) อยู่ในกลุ่มของยาควิโนลีน (quinolines) ใช้เพื่อรักษาหรือป้องกันโรคมาลาเรีย (malaria) โรคที่เกิดจากการที่เชื้อปรสิตเข้าสู่ร่างกายผ่านทางยุงกัด โรคมาลาเรียนั้นพบได้มากในเขตแอฟริกา อเมริกาใต้ และเอเชียใต้ ยานี้จะไม่ได้ผลกับโรคมาลาเรียทุกสายพันธุ์
พลาเควนนิล® ยังเป็นยาต้านโรครูมาตอยด์ (antirheumatic medicine) และใช้เพื่อรักษาอาการของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (rheumatoid arthritis) และ โรคดิสคอยด์ (discoid) หรือโรคเอสแอลอี (systemic lupus erythematosus)
วิธีการใช้พลาเควนนิล® (ไฮดรอกซีคลอโรควิน)
รับประทานพลาเควนนิล®ตามที่แพทย์กำหนดอย่างเคร่งครัด ควรทำตามวิธีการใช้ยาบนฉลากยาทั้งหมด อย่าใช้ยานี้ในขนาดที่มากกว่า น้อยกว่า หรือนานกว่าที่แนะนำ ในบางครั้งอาจใช้ยาพลาเควนนิลแค่สัปดาห์ละครั้ง ควรเลือกใช้ยาในวันเดียวกันของแต่ละสัปดาห์ หากคุณต้องใช้ยาทุกสัปดาห์
รับประทานพลาเควนนิล®พร้อมกับอาหารหรือนม
เพื่อป้องกันโรคมาลาเรีย รับประทานพลาเควนนิล® 2 สัปดาห์ก่อนเข้าสู่พื้นที่ซึ่งพบโรคมาลาเรียได้มาก ใช้ยาเป็นประจำอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงเวลาที่คุณอยู่ในพื้นที่นั้น และอย่างน้อย 8 สัปดาห์ หลังจากออกจากพื้นที่นั้น
เพื่อรักษาโรคมาลาเรีย แพทย์อาจจะแนะนำให้คุณใช้ยาหนึ่งครั้ง หรือเริ่มต้นใช้ยาที่ขนาดสูง ตามด้วยยาขนาดเล็กอย่างน้อย 2 วันของการรักษา ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์
ใช้พลาเควนนิล®จนครบระยะเวลาที่กำหนดสำหรับโรคมาลาเรีย อาการของคุณอาจจะดีขึ้นก่อนที่การติดเชื้อจะหายไปจนหมด
สวมเสื้อผ้าป้องกัน ยาไล่แมลง และกางมุ้งกันยุงรอบๆ เตียงเพื่อป้องกันยุงกัดที่อาจทำให้เกิดโรคมาลาเรียได้
โปรดติดต่อแพทย์ให้เร็วที่สุด หากคุณเปิดรับเชื้อมาลาเรีย หรือหากคุณเป็นไข้หรือมีอาการป่วยอื่นๆ ขณะที่อยู่ในพื้นที่ซึ่งพบโรคมาลาเรียได้มาก
ไม่มียาใดที่จะสามารถรักษาหรือป้องกันโรคมาลาเรียทุกชนิดได้ 100% เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรใช้ยานี้อย่างต่อเนื่องตามที่กำหนด โปรดติดต่อแพทย์หากคุณเป็นไข้ อาเจียน หรือท้องร่วงขณะที่กำลังรับการรักษา
เมื่อรักษาโรคลูปัส (lupus) หรือโรคข้ออักเสบ (arthritis) มักจะใช้พลาเควนนิล®วันละครั้ง เป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรใช้ยาอย่างต่อเนื่องตามที่กำหนด โปรดปรึกษาแพทย์หากอาการของคุณไม่ดีขึ้นหลังจากผ่านไป 6 เดือนของการรักษา
ขณะที่กำลังใช้พลาเควนนิล® คุณอาจต้องรับการตรวจเลือดและการมองเห็นเป็นประจำ
การเก็บรักษาพลาเควนนิล®(ไฮดรอกซีคลอโรควิน)
พลาเควนนิล® ควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งพลาเควนนิล®ลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้พลาเควนนิล® (ไฮดรอกซีคลอโรควิน)
ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์ทราบหาก
- คุณกำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร เนื่องจากในช่วงที่คุณตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร ควรใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำเท่านั้น
- หากคุณกำลังใช้ยาอื่นอยู่ รวมทั้งยาที่หาซื้อได้เอง เช่น สมุนไพรหรือยาทางเลือกอื่นๆ
- หากคุณแพ้สารออกฤทธิ์หรือไม่มีฤทธิ์ในการรักษาของพลาเควนนิล® หรือยาอื่นๆ
- หากคุณมีอาการป่วย มีความผิดปกติ หรือมีสภาวะทางการแพทย์อื่นๆ
พลาเควนนิล® ไม่ควรใช้เป็นการรักษาระยะยาวสำหรับเด็ก
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
พลาเควนนิล®จัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท N โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
- A= ไม่มีความเสี่ยง
- B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
- C= อาจจะมีความเสี่ยง
- D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
- X= ห้ามใช้
- N= ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้พลาเควนนิล® (ไฮดรอกซีคลอโรควิน)
รับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินทันที หากคุณมีสัญญาณของอาการแพ้ ได้แก่ ลมพิษ หายใจติดขัด บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ
การใช้พลาเควนนิล® เป็นเวลานานหรือใช้ในขนาดยาที่สูงอาจทำห้เกิดความเสียหายที่ไม่สามารถรักษาได้ต่อจอตา หยุดใช้พลาเควนนิล® และติดต่อแพทย์ในทันทีหากคุณมีปัญหากับการโฟกัส หากคุณมองเห็นเส้นแสงหรือแสงวาบ หรือหากคุณสังเกตเห็นอาการบวมหรือเปลี่ยนสีภายในดวงตา
โปรดติดต่อแพทย์ในทันทีหากคุณมีอาการ
- ปวดหัวพร้อมกับปวดหน้าอกและวิงเวียนอย่างรุนแรง หัวใจเต้นเร็วหรือรัว
- หัวใจเต้นช้ามาก ชีพจรอ่อน
- กล้ามเนื้อมีอาการอ่อนแรง ชา หรือเหน็บ
- น้ำตาลในเลือดต่ำ – ปวดหัว หิว เหงื่อออก หงุดหงิด วิงเวียน หัวใจเต้นเร็ว และรู้สึกวิตกกังวลหรือสั่นเทา
- จำนวนเซลล์เม็ดเลือดต่ำ – เป็นไข้ หนาวสั่น เจ็บคอ อ่อนแรงหรือรู้สึกป่วยกะทันหัน เหงือกบวม มีแผลภายในปาก แผลที่ผิวหนัง หัวใจเต้นเร็ว ผิวซีด มีรอยช้ำง่าย เลือดออกผิดปกติ รู้สึกหน้ามืด
ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปอาจมีดังนี้
- ปวดหัว วิงเวียน มีเสียงอื้อในหู
- คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง
- เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
- อารมณ์เปลี่ยนแปลง รู้สึกประหม่าหรือหงุดหงิด
- มีผดผื่นหรือคันที่ผิวหนัง rash or itching
- ผมร่วง
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ หรืออาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
พลาเควนนิล® อาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ได้แก่
- ยาอื่นที่ใช้เพื่อรักษาโรคมาลาเรีย
- ยาปฏิชีวนะหรือยาต้านเชื้อรา
- ยาต้านไวรัสที่ใช้เพื่อรักษาโรคตับอักเสบ (hepatitis) หรือโรคเอดส์/เอชไอวี
- ยาต้านซึมเศร้าหรือยาระงับอาการโรคจิต
- ยาเม็ดคุมกำเนิดหรือการบำบัดทดแทนด้วยฮอร์โมน
- ยารักษาโรคมะเร็ง
- ยาลดคอเลสเตอรอล
- ยาสำหรับโรคหัวใจหรือความดันโลหิต
- ยาแก้ปวดหรือรักษาโรคข้ออักเสบ รวมถึงยาแอสไพริน ยาไทลินอล ยาแอดวิล (Advil) และยาอะลีฟ (Aleve)
- ยารักษาอาการชัก
- ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร
- ยารักษาวัณโรค
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
พลาเควนนิล® อาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
พลาเควนนิล® อาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
โรคที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ได้แก่
- เคยมีความเปลี่ยนแปลงทางการมองเห็นหรือความเสียหายที่จอตาเนื่องจากยาต้านมาลาเรีย
- โรคหัวใจ ความผิดปกติของการเต้นของหัวใจ เช่น prolong QT syndrome
- โรคเบาหวาน
- ความผิดปกติที่กระเพาะอาหาร
- โรคภูมิแพ้ต่อยาควินีน (quinine)
- โรคตับหรือโรคไต
- โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)
- โรคพิษสุรา (Alcoholism)
- ความผิดปกติของเอ็นไซม์ทางพันธุกรรม เช่น โรคพอร์ฟิเรีย (porphyria) หรือภาวะพร่องเอ็นไซม์จี6พีดี (glucose-6-phosphate dehydrogenase deficiency)
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดพลาเควนนิล® (ไฮดรอกซีคลอโรควิน) สำหรับผู้ใหญ่
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคมาลาเรีย
การรักษาอาการกำเริบเฉียบพลัน 800 มก. (620 มก. พื้นฐาน) ตามด้วย 400 มก. (310 มก. พื้นฐาน) ภายใน 6 ถึง 8 ชั่วโมง แล้วตามด้วย 400 มก. (310 มก. พื้นฐาน) วันละครั้งเป็นเวลา 2 วันติดต่อกัน อีกทางเลือกหนึ่งคือรับประทานยาหนึ่งครั้งที่ขนาด 800 มก. (620 มก. พื้นฐาน) ก็เคยมีประสิทธิภาพเช่นกัน
ขนาดยาขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว
- ขนาดยาสำหรับครั้งหนึ่ง 10 มก. พื้นฐาน/กก. (ไม่ควรเกิน 620 มก. พื้นฐาน).
- ขนาดยาสำหรับครั้งที่สอง 5 มก. พื้นฐาน/กก. (ไม่ควรเกิน 310 มก. พื้นฐาน) 6 ชั่วโมงหลังจากรับประทานยาครั้งที่หนึ่ง
- ขนาดยาสำหรับครั้งที่สาม 5 มก. พื้นฐาน/กก. 18 ชั่วโมงหลังจากรับประทานยาครั้งที่สอง
- ขนาดยาสำหรับครั้งที่สี่ 5 มก. พื้นฐาน/กก. 24 ชั่วโมงหลังจากรับประทานยาครั้งที่สาม
ควรรับประทานยาแต่ละครั้งพร้อมกับอาหารหรือนมหนึ่งแก้ว
การรักษาร่วมกับยา 8-อะมิโนควิโนลีน (8-aminoquinoline drug) นั้นจำเป็นสำหรับการรักษาโรคมาลาเรียประเภทไวแว็กซ์ (vivax) และมาลาริแอ (malariae)
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อป้องกันโรคมาลาเรีย
- ระงับอาการ 400 มก. (310 มก. พื้นฐาน) รับประทานในวันเดียวกันทุกสัปดาห์
- การรักษาระงับอาการควรเริ่มต้นตั้งแต่ 2 สัปดาห์ก่อนเปิดรับเชื้อ แต่หากทำไม่ได้ อาจใช้ยาในขนาดยาเริ่มต้นที่ขนาด 800 มก. (620 มก. พื้นฐาน) แบ่งรับประทาน 2 ครั้ง (ห่างกัน 6 ชั่วโมง) ควรดำเนินการรักษาระงับอาการต่อไปหลังจากออกจากพื้นที่นั้น
- ควรรับประทานยาแต่ละครั้งพร้อมกับอาหารหรือนมหนึ่งแก้ว
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
- ขนาดยาเริ่มต้น 400 ถึง 600 มก. (310 ถึง 465 มก. พื้นฐาน) รับประทานวันละครั้ง
- ขนาดยาปกติ 200 ถึง 400 มก. (155 ถึง 310 มก. พื้นฐาน) รับประทานวันละครั้ง
- ควรรับประทานยาแต่ละครั้งพร้อมกับอาหารหรือนมหนึ่งแก้ว
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อโรคเอสแอลอี
โรคดิสคอยด์และโรคเอสแอลอี
- ขนาดยาเริ่มต้น 400 มก. (310 มก. พื้นฐาน.) รับประทานวันละหนึ่งหรือสองครั้งเป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผู้ป่วย
- ขนาดยาปกติ 200 ถึง 400 มก. (155 ถึง 310 มก. พื้นฐาน) รับประทานวันละครั้ง
- ควรรับประทานยาแต่ละครั้งพร้อมกับอาหารหรือนมหนึ่งแก้ว
ขนาดพลาเควนนิล® (ไฮดรอกซีคลอโรควิน) สำหรับเด็ก
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคมาลาเรีย
การรักษาอาการกำเริบเฉียบพลัน
อายุ 1 ปีขึ้นไป
- ขนาดยาสำหรับครั้งหนึ่ง 10 มก. พื้นฐาน/กก. (ไม่ควรเกิน 620 มก. พื้นฐาน).
- ขนาดยาสำหรับครั้งที่สอง 5 มก. พื้นฐาน/กก. (ไม่ควรเกิน 310 มก. พื้นฐาน) 6 ชั่วโมงหลังจากรับประทานยาครั้งที่หนึ่ง
- ขนาดยาสำหรับครั้งที่สาม 5 มก. พื้นฐาน/กก. 18 ชั่วโมงหลังจากรับประทานยาครั้งที่สอง
- ขนาดยาสำหรับครั้งที่สี่ 5 มก. พื้นฐาน/กก. 24 ชั่วโมงหลังจากรับประทานยาครั้งที่สาม
- ควรรับประทานยาแต่ละครั้งพร้อมกับอาหารหรือนมหนึ่งแก้ว
การรักษาร่วมกับยา 8-อะมิโนควิโนลีนนั้นจำเป็นสำหรับการรักษาโรคมาลาเรียประเภทไวแว็กซ์และมาลาริแอ
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อป้องกันโรคมาลาเรีย
การระงับอาการ
- อายุ 1 ปีขึ้นไป 5 มก. พื้นฐาน/กก. ของน้ำหนักตัว (ไม่ควรเกิน 310 มก. พื้นฐาน) รับประทานยาในวันเดียวกันทุกสัปดาห์
- การรักษาระงับอาการควรเริ่มต้นตั้งแต่ 2 สัปดาห์ก่อนเปิดรับเชื้อ แต่หากทำไม่ได้ อาจใช้ยาในขนาดยาเริ่มต้นที่ขนาด 10 มก. พื้นฐาน/กก. (ไม่เกิน 620 มก. พื้นฐาน) แบ่งรับประทาน 2 ครั้ง (ห่างกัน 6 ชั่วโมง) ควรดำเนินการรักษาระงับอาการต่อไปหลังจากออกจากพื้นที่นั้น
- ควรรับประทานยาแต่ละครั้งพร้อมกับอาหารหรือนมหนึ่งแก้ว
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อโรคผิวหนังและกล้ามเนื้ออักเสบ (Dermatomyositis)
โรคผิวหนังและกล้ามเนื้ออักเสบในเด็ก (Juvenile Dermatomyositis)
- อายุ 1.5 ถึง 15 ปี รับประทาน 7 มก./กก. ต่อวัน (เสริมกับการรักษาโรคผิวหนังและกล้ามเนื้ออักเสบในเด็กชุดแรก หากผู้ป่วยมีอาการผื่นผิวหนังที่รุนแรงและจำเป็นต้องใช้ยาสเตียรอยด์ในขนาดสูง)
- ควรรับประทานยาแต่ละครั้งพร้อมกับอาหารหรือนมหนึ่งแก้ว
รูปแบบของยา
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
- ยาเม็ดไฮดรอกซีคลอโรควิน ซัลเฟต (hydroxychloroquine sulfate) 200 มก.
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]