ข้อบ่งใช้
ฟีน็อกซีเบนซามีน ใช้สำหรับ
ฟีน็อกซีเบนซามีน (Phenoxybenzamine) ใช้เพื่อรักษาความดันโลหิตสูง และเหงื่อออกมาก เนื่องจากเนื้องอกในต่อมหมวกไต หรือที่เรียกว่าฟีโอโครโมไซโตมา (pheochromocytoma) ยาฟีน็อกซีเบนซามีนอยู่ในกลุ่มยาที่เรียกว่า อัลฟ่า บล็อกเกอร์ (alpha blocker) ยานี้ออกฤทธิ์โดยคลายตัวของหลอดเลือด และทำให้หลอดเลือดกว้างขึ้นเพื่อที่เลือดจะได้ไหลเวียนอย่างสะดวกขึ้น
วิธีการใช้ยา ฟีน็อกซีเบนซามีน
รับประทานยานี้พร้อมอาหารหรือไม่ก็ได้ ตามที่แพทย์สั่ง ปกติแล้วจะเป็น 2- 3 ครั้งต่อวัน ขนาดยาขึ้นอยู่กับโรคและการตอบสนองต่อการรักษา และควรใช้ยานี้เป็นประจำเพื่อให้ได้ผลที่ดีที่สุด เพื่อช่วยจำ รับประทานยานี้ในเวลาเดียวกันของแต่ละวัน สิ่งสำคัญคือ รับประทานยานี้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าคุณจะรู้สึกดีขึ้นแล้ว ผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูงส่วนมากจะไม่ได้รู้สึกป่วย
อย่าหยุดยาทันทีโดยยังไม่ได้ปรึกษาแพทย์ อาการอาจแย่ลงเมื่อหยุดยากะทันหัน อาจจำเป็นต้องค่อยๆ ลดขนาดยา
แจ้งให้แพทย์ทราบ หากยังคงมีอาการต่อเนื่องหรืออาการแย่ลง เช่น ผลการตรวจความดันโลหิตอย่างเป็นประจำเพิ่มขึ้น
การเก็บรักษายาฟีน็อกซีเบนซามีน
คุณควรเก็บยา ฟีน็อกซีเบนซามีน ไว้ในอุณหภูมิห้อง รวมถึงเก็บให้พ้นจากแสงและความชื้น เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับยา คุณไม่ควรเก็บยาฟีน็อกซีเบนซามีนไว้ให้ห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาฟีน็อกซีเบนซามีนแต่ละยี่ห้ออาจมีวิธีเก็บแตกต่างกันไป สิ่งสำคัญคือการอ่านคำแนะนำการเก็บรักษายาบนฉลากผลิตภัณฑ์หรือถามเภสัชกร เพื่อความปลอดภัย คุณควรเก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
คุณไม่ควรทิ้งยาฟีน็อกซีเบนซามีนลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำอย่างนั้น ดังนั้น สิ่งสำคัญคือ ทิ้งยาเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่จำเป็นต้องใช้ยาอีกต่อไป ปรึกษาเภสัชกรเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีทิ้งยาอย่างปลอดภัย
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้ยาฟีน็อกซีเบนซามีน
ก่อนใช้ยาฟีน็อกซีเบนซามีน แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากคุณแพ้ยาชนิดนี้ ยากลุ่มอัลฟ่า บล็อกเกอร์ ชนิดอื่น เช่น ยาเฟนโทลามีน (phentolamine) รวมถึงหากคุณมีอาการแพ้อื่นๆ ยาตัวนี้อาจมีส่วนผสมที่ไม่ได้ออกฤทธิ์ แต่อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้หรือปัญหาอื่นๆ ปรึกษาเภสัชกรเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ เกี่ยวกับประวัติการเจ็บป่วย โดยเฉพาะโรคหลอดเลือด เช่น โรคหลอดเลือดในสมองตีบ โรคหลอดเลือดหัวใจโคโรนารี โรคหัวใจ เช่น ภาวะหัวใจล้มเหลว โรคไต การติดเชื้อที่ปอด ปัญหาที่ตาบางชนิด เช่น โรคต้อกระจก ต้อหิน
ยานี้อาจทำให้คุณวิงเวียนศีรษะ ง่วงซึม หรือมองเห็นไม่ชัดเจน แอลกอฮอล์หรือกัญชาอาจทำให้อาการของคุณรุนแรงยิ่งขึ้น อย่าขับรถ ใช้เครื่องจักร หรือทำกิจกรรมใดๆ ที่จำเป็นต้องอาศัยความตื่นตัว จนกว่าคุณจะแน่ใจว่า คุณสามารถทำสิ่งเหล่านั้นได้อย่างปลอดภัย จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ ปรึกษาแพทย์หากคุณใช้กัญชาเพื่อการรักษาโรค
ก่อนเข้ารับการผ่าตัด (รวมถึงผ่าตัดต้อกระจก หรือต้อหิน) แจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบ หากคุณกำลังใช้ยานี้ หรือเคยใช้ยานี้ รวมถึงยาทั้งหมดที่คุณใช้ รวมถึงยาที่จำหน่ายตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อรับประทานเอง และสมุนไพร
แนะนำให้ผู้สูงอายุใช้ยานี้อย่างระมัดระวัง เนื่องจากผู้สูงอายุอาจตอบสนองต่อผลข้างเคียงมากกว่าคนทั่วไป โดยเฉพาะอาการวิงเวียนศีรษะ ระหว่างตั้งครรภ์ ควรรับประทานยานี้เมื่อจำเป็นเท่านั้น ปรึกษาความเสี่ยงและข้อดีกับแพทย์ แต่ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่ายานี้จะซึมเข้าสู่น้ำนมหรือไม่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนให้นมบุตร
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ไม่มีการศึกษาในผู้หญิงที่เพียงพอ ที่จะระบุความเสี่ยงขณะที่ใช้ยาฟีน็อกซีเบนซามีน ระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เสมอ เพื่อชั่งน้ำหนักระหว่างข้อดีและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ก่อนรับประทานยาฟีน็อกซีเบนซามีน อ้างอิงจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ยาฟีน็อกซีเบนซามีนจัดเป็นยากลุ่มเสี่ยงสำหรับสตรีมีครรภ์
ต่อไปนี้คือประเภทความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา
- A = ไม่เสี่ยง
- B = ไม่ความเสี่ยงในงานวิจัยบางชิ้น
- C = อาจจะมีความเสี่ยงบางอย่าง
- D = พบหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
- X = ห้ามใช้
- N = ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้ยาฟีน็อกซีเบนซามีน
คุณอาจท้องไส้ปั่นป่วน คลื่นไส้ น้ำมูกไหล ง่วงซึม วิงเวียนศีรษะ หรือม่านตาขยาย หากอาการเหล่านี้ไม่หายไปหรือแย่ลง แจ้งให้แพทย์ทราบทันที เพื่อลดความเสี่ยงของอาการวิงเวียนศีรษะและหน้ามืด ค่อยๆ ลุกขึ้นเมื่อเปลี่ยนจากท่านั่งหรือนอนเป็นท่ายืน
โปรดระลึกไว้ว่า แพทย์ได้จ่ายยานี้เนื่องจากได้ตัดสินใจแล้วว่า นี่จะมีประโยชน์ต่อคุณ มากกว่าความเสี่ยงที่เกิดจากผลข้างเคียง หลายคนใช้ยานี้แล้วไม่มีผลข้างเคียงรุนแรงใดๆ
แจ้งให้แพทย์ทราบทันที หากเกิดผลข้างเคียงที่ไม่น่าเกิดขึ้นแต่รุนแรงเหล่านี้ ได้แก่ หายใจเร็ว หน้ามืด หย่อนสมรรถภาพทางเพศ เช่น มีปัญหาเรื่องการหลั่ง อ่อนแรง
สำหรับผู้ชาย ในบางครั้งที่หาได้ยาก คุณผู้ชายอาจรู้สึกเจ็บ หรือเกิดการแข็งตัวของอวัยวะเพศชาย (prolonged erection) 4 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น ให้คุณหยุดใช้ยา และเข้ารับการรักษาทันที หรืออาจมีอาการเกิดขึ้นในระยะยาว
ไม่ค่อยมีอาการแพ้ยาที่รุนแรงเท่าไหร่นัก อย่างไรก็ตาม เข้ารับการรักษาทันทีหากคุณสังเกตเห็นอาการแพ้ที่รุนแรง ได้แก่ เกิดผื่น คันผิว หรือผิวบวม โดยเฉพาะที่ใบหน้า ลิ้นหรือลำคอ วิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรง มีปัญหาเรื่องการหายใจ
ไม่ใช่ทุกคนที่จะแสดงอาการอันเนื่องมาจากผลข้างเคียงเหล่านี้ อาจมีผลข้างเคียงอื่นที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น หากคุณมีความกังวลเรื่องผลข้างเคียง โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
ยาบางชนิดอาจเกิดปฏิกิริยากับยานี้ ได้แก่
- ยารักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (erectile dysfunction-ED)
- ความดันหลอดเลือดปอดสูง (pulmonary hypertension) เช่น ยาซิลเดนาฟิล (sildenafil) หรือยาทาดาลาฟิล (tadalafil)
- ยาเอพิเนฟรีน (epinephrine)
- ยาต้านอัลฟ่าชนิดอื่น เช่น ยาพราโซซิน (prazosin)
- ยาเพื่อรักษาความดันโลหิตสูง เช่น ยาขับปัสสาวะ
- ยากลุ่ม ACE inhibitor
- ยากลุ่มเบต้า บล็อกเกอร์ (beta blocker)
แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากคุณใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ง่วงนอนอย่างยาแก้ปวดโอปิออยด์ (opioid pain) หรือยาแก้ไออย่างยาโคดีน (codeine) และยาไฮโดรโคโดน (hydrocodone) แอลกอฮอล์ กัญชา ยานอนหลับหรือคลายเครียด เช่น ยาอัลปราโซแลม (alprazolam) ยาลอราซีแพม (lorazepam) และยาโซลพิเดม (zolpidem) ยาคลายกล้ามเนื้อ เช่น ยาคาริโซโพดอล (carisoprodol) และยาไซโคลเบนซาพรีน (cyclobenzaprine) หรือยาต้านฮิสตามีนอย่างยาเซทิริซีน (cetirizine) และยาไฮเฟนไฮดรามีน (diphenhydramine)
ตรวจสอบฉลากยา เช่น ยาแก้แพ้ ยาแก้ไอและไข้หวัด เนื่องจากยาอาจมีส่วนผสมที่ทำให้ง่วงซึม ถามเภสัชกรเกี่ยวกับการใช้ยาอย่างปลอดภัย ยาบางอย่างอาจมีส่วนผสมที่ทำให้ความดันสูงขึ้น แจ้งให้เภสัชกรทราบ เกี่ยวกับยาที่ใช้อยู่ และถามวิธีใช้อย่างปลอดภัย โดยเฉพาะอาหารเสริม หรือยาแก้อักเสบชนิดที่ไม่ใช่สเตอรอยด์ เช่น ยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือยานาพรอกเซน (Naproxen)
ยาฟีน็อกซีเบนซามีนอาจเกิดปฏิกิริยาต่อยาตัวอื่น ที่คุณกำลังรับประทานอยู่ และอาจส่งผลให้ยาที่คุณรับประทานออกฤทธิ์ต่างไปจากเดิม หรือเพิ่มความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่รุนแรง เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาที่อาจเป็นไปได้ คุณควรเก็บรายชื่อยาทั้งหมดที่คุณใช้ (รวมถึงยาที่จำหน่ายตามใบสั่งแพทย์ ยาที่จำหน่ายโดยไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ และผลิตภัณฑ์สมุนไพร) และแจ้งให้แพทย์รวมถึงเภสัชกรทราบ เพื่อความปลอดภัย อย่าเริ่ม หรือหยุดรับประทาน รวมถึงเปลี่ยนขนาดยาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากแพทย์
ปฏิกิริยากับอาหารหรือยาอื่น
ยาฟีน็อกซีเบนซามีนอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์ โดยเปลี่ยนฤทธิ์ยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถึงอาหารหรือแอลกอฮอล์ ที่อาจทำปฏิกิริยากับยานี้ก่อนรับประทานยา
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
ยาฟีน็อกซีเบนซามีนอาจส่งผลต่อสุขภาพของคุณ ปฏิกิริยาของยาที่มีต่อร่างกาย อาจทำให้สุขภาพของคุณย่ำแย่ลง หรือเปลี่ยนฤทธิ์ของยา สิ่งสำคัญคือ โปรดแจ้งให้แพทย์และเภสัชกรทราบ เกี่ยวกับสุขภาพและโรคประจำตัวของคุณ
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง ก่อนใช้ยาฟีน็อกซีเบนซามีน
ขนาดยาฟีน็อกซีเบนซามีนสำหรับผู้ใหญ่
ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาเนื้องอกฟีโอโครโมไซโตมา
ขนาดยาเริ่มต้น รับประทานยา 10 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวัน
ขนาดยาที่มีผลต่อการรักษา รับประทานยา 20 – 40 มิลลิกรัม 2 – 3 ครั้งต่อวันจนกว่าจะได้ขนาดยาที่เหมาะสม (วัดโดยการควบคุมความดันโลหิต)
การปรับขนาดยา
ปรับขนาดยาให้เหมาะกับความจำเป็นของผู้ป่วยแต่ละราย ควรเพิ่มขนาดยาวันเว้นวันพร้อมสังเกตผู้ป่วยอย่างระมัดระวัง หลังจากเพิ่มขนาดยาแต่ละครั้ง ควรปรับขนาดยาให้ถึงจุดที่อาการทุเลาลง และ/หรืออาการดีขึ้นตามที่คาดไว้ หรือกระทั่งร่างกายไม่สามารถทนผลข้างเคียงได้
ข้อควรระวัง
แนะนำให้ผู้ป่วยที่หลอดเลือดในสมองแข็งตัวหรือหลอดเลือดแดงตีบ รวมถึงไตได้รับความเสียหายใช้ยาอย่างระมัดระวัง
ฤทธิ์ในการต้านอะดรีนาลีนอาจทำให้การติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจแย่ลง
คำแนะนำอื่น
อาจจำเป็นต้องใช้ร่วมกับยาต้านเบต้าหากหัวใจเต้นเร็วเกินไป
ขนาดยาฟีน็อกซีเบนซามีนสำหรับเด็ก
ไม่ได้มีการกำหนดขนาดยาสำหรับผู้ป่วยที่เป็นเด็ก ยานี้อาจไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก สิ่งที่สำคัญคือ ต้องศึกษาการใช้ยาอย่างปลอดภัยก่อนรับประทาน โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
รูปแบบของยา
ยาฟีน็อกซีเบนซามีนมีรูปแบบดังต่อไปนี้
- แคปซูลสำหรับรับประทาน
กรณีฉุกเฉินหรือ ใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติ ไม่ควรเพิ่มขนาดยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]