คุณต้องการออกจากระบบใช่หรือไม่
ยา เซเลโคซิบ (Celecoxib) ใช้เพื่อรักษาอาการข้ออักเสบ (arthritis) อาการปวดแบบเฉียบพลัน และอาการปวดประจำเดือน หรือความรู้สึกไม่สบาย เป็นยาในกลุ่มยาบรรเทาอาการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID) เรียกว่า คอก-ทู อินฮิบิเตอร์ (Cox-2 inhibitor) ซึ่งช่วยบรรเทาอาการปวดและอาการบวม (อักเสบ)
การบรรเทาอาการปวดและอาการบวมที่มาจากยาเซเลโคซิบ ช่วยให้คุณจัดการกับกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ หากคุณกำลังรักษาอาการเรื้อรัง อย่าง โรคข้ออักเสบ สอบถามแพทย์เกี่ยวกับการใช้ยาบรรเทาอาการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ และยาอื่นๆ เพื่อรักษาอาการปวดของคุณ (สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในส่วนของคำเตือน)
ยาเซเลโคซิบทำงานโดยการปิดกั้นเอนไซม์ในร่างกายที่ผลิตโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) การลดลงของโพรสตาแกลนดินนั้น ช่วยลดอาการปวดและอาการบวมได้
ยาเซเลโคซิบยังอาจใช้เพื่อรักษาอาการปวดจากโรคเกาต์ได้อีกด้วย
ควรอ่านแนวทางการใช้ยาที่ได้จากเภสัชกร ก่อนเริ่มใช้ยาเซเลโคซิบและทุกครั้งที่ต้องเติมยา หากมีข้อสงสัยใดๆ โปรดสอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
รับประทานยาเซเลโคซิบตามที่แพทย์กำหนด โดยปกติคือวันละ 1-2 ครั้ง เพื่อลดโอกาสในการเกิดอาการท้องไส้ปั่นป่วน อาจรับประทานยาพร้อมกับอาหารได้ ขนาดยาขึ้นอยู่กับสภาวะทางการแพทย์ และการตอบสนองต่อการรักษา รับประทานยาในขนาดยาที่ต่ำที่สุดเท่าที่มีประสิทธิภาพ และใช้นานเท่าที่กำหนดไว้เท่านั้น (สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในส่วนของคำเตือน)
รับประทานยาเซเลโคซิบพร้อมกับน้ำเต็มแก้ว (240 มล.) นอกจากว่าแพทย์จะสั่งแบบอื่น อย่าล้มตัวลงนอนภายใน 10 นาที หลังจากรับประทานยาเซเลโคซิบ
สำหรับโรคอย่างชนิด (เช่น ข้ออักเสบ) อาจต้องใช้ยานี้เป็นประจำเป็นเวลานานถึง 2 สัปดาห์ กว่าที่จะได้รับผลของยาอย่างเต็มที่
ควรรับประทานยานี้ “เท่าที่จำเป็น” (ไม่ได้รับประทานเป็นประจำ) ควรจำไว้ว่า ยาแก้ปวดจะได้ผลดีที่สุด หากรับประทานตั้งแต่เริ่มมีอาการ หากคุณรอจนกระทั่งอาการปวดนั้นแย่ลง ยาอาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่
ยาเซเลโคซิบควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาเซเลโคซิบบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยาเซเลโคซิบลงในชักโครก หรือในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
อย่าใช้ยาเซเลโคซิบก่อนหรือหลังการผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจ (coronary artery bypass graft surgery)
ยานี้อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ หรือการไหลเวียนของเลือดที่รุนแรงถึงชีวิต เช่น โรคหัวใจขาดเลือดฉับพลัน หรือโรคหลอดเลือดสมอง โดยเฉพาะหากคุณใช้เป็นเวลานาน
ยานี้ยังอาจทำให้เกิดผลที่รุนแรงกับกระเพาะหรือลำไส้ ทั้งอาการเลือดออก หรือลำไส้ทะลุ (perforation) อาการเหล่านี้อาจถึงแก่ชีวิต และสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ในขณะที่คุณกำลังใช้ยาเซเลโคซิบ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
ไม่ควรใช้ยานี้หากคุณมีอาการแพ้ยาเซเลโคซิบ หรือหากคุณมีประวัติการแพ้ยาแอสไพริน ยาซัลฟา หรือยาบรรเทาอาการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์อื่นๆ
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยา
ยาเซเลโคซิบจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
รับการรักษาในทันที หากคุณมีสัญญาณของอาการแพ้เหล่านี้
หยุดใช้ยาเซเลโคซิบและติดต่อแพทย์ในทันที หากคุณมีผลข้างเคียงที่รุนแรง ได้แก่
ผลข้างเคียงที่รุนแรงน้อยกว่ามีดังนี้
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ โปรดปรึกษากับแพทย์
ยาเซเลโคซิบอาจเกิดอันตรกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่าคุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
แม้ยาบางชนิดไม่ควรใช้ร่วมกัน แต่ในบางกรณี อาจต้องมีการใช้ยาที่แตกต่างกันสองชนิด แม้ว่าอาจจะมีปฏิกิริยาเกิดขึ้น ในกรณีเหล่านี้ แพทย์อาจต้องเปลี่ยนขนาดยา หรือเพิ่มความระมัดระวังในการใช้อื่นๆ ที่จำเป็น แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยาที่คุณกำลังใช้ ทั้งยาตามใบสั่งหรือยาที่หาซื้อได้เอง
ไม่แนะนำให้ใช้ยานี้ร่วมกับยาดังต่อไปนี้ แพทย์อาจจะไม่ใช้ยานี้รักษาคุณหรือเปลี่ยนยาที่คุณกำลังใช้อยู่
การใช้ยานี้กับยาดังต่อไปนี้โดยปกติแล้วจะไม่แนะนำ แต่อาจจำเป็นต้องใช้ในบางกรณี หากคุณได้รับสั่งยาทั้งสองร่วมกัน แพทย์อาจต้องเปลี่ยนขนาดยาหรือความถี่ในการใช้ยา หนึ่งหรือทั้งสองชนิด
การใช้ยานี้กับยาดังต่อไปนี้อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงบางอย่างได้ แต่การใช้ยาทั้ง 2 ชนิดร่วมกันอาจเป็นการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ หากคุณได้รับสั่งยาทั้ง 2 ร่วมกัน แพทย์อาจต้องเปลี่ยนขนาดยาหรือความถี่ในการใช้ยาหนึ่งหรือทั้งสองชนิด
ยาเซเลโคซิบอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ยาเซเลโคซิบอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ โดยเฉพาะ
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาอาการปวด
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาอาการปวดประจำเดือน
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาอาการข้อเสื่อม
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคข้อรูมาตอยด์
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่จากติ่งเนื้อที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบยึดติด
ขนาดยาสำหรับเด็กโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ในเด็ก
อายุ 2 ปีขึ้นไป
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
อาการของการใช้ยาเกินขนาด ได้แก่
หากคุณลืมรับประทานยาควรรีบรับประทานทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลารับประทานยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปรับประทานยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
Celebrex http://www.webmd.com/drugs/2/drug-16849/celebrex-oral/details. Accessed July 8, 2016.
Celebrex https://www.drugs.com/celebrex.html. Accessed July 8, 2016.
Celecoxib https://www.nlm.nih.gov/medlineplus/druginfo/meds/a699022.html. Accessed July 8, 2016.
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย