Betahistine ยา ใช้เพื่อบรรเทาอาการอาการเวียนศีรษะหรือมึนงง เสียงรบกวนในหู (tinnitus) และอาการของโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน (Ménières disease) ซึ่งเป็นความผิดปกติของหูด้านใน
[embed-health-tool-bmi]
ข้อบ่งใช้
Betahistine ใช้สำหรับ
ยา เบตาฮีสทีน (Betahistine) มักใช้เพื่อบรรเทาอาการอาการเวียนศีรษะหรือมึนงง เสียงรบกวนในหู (tinnitus) และอาการของโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน (Ménières disease) ซึ่งเป็นความผิดปกติของหูด้านใน
เป็นยาในกลุ่มฮีสตามีน อนาล็อก (histamine analogue) ซึ่งคล้ายคลึงกับสารฮีสตามีนที่มีในร่างกาย
ใช้เพื่อช่วยพัฒนาการไหลเวียนของเลือดในหูด้านใน ซึ่งช่วยลดความดันที่สะสมอยู่
โดยปกติแล้ว ยานี้จะใช้เพื่อรักษาอาการเวียนศีรษะ มีเสียงรบกวนในหู และเพื่อรักษาอาการสูญเสียการได้ยินในผู้ที่ป่วยเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
ประโยชน์ของยานี้คือ สามารถช่วยบรรเทาอาการเวียนศีรษะ และเสียงรบกวนในหูได้
ด้านล่างนี้คือวิธีการใช้งานยาเบตาฮีสทีนทั่วไป
เพื่อรักษาอาการเวียนศีรษะ เสียงรบกวนในหูและอาการสูญเสียการได้ยินที่เกี่ยวข้องกับโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
วิธีการใช้ยาเบตาฮีสทีน
รับประทานยานี้ โดยปกติแล้วคือ วันละ 3 ครั้ง ควรรับประทานพร้อมกับอาหาร กลืนยาลงไปทั้งเม็ดพร้อมกับน้ำดื่ม
ใช้ยานี้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากยา
ควรใช้ยาในเวลาเดียวกันทุกวัน เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับคำสั่งห้ามเป็นพิเศษจากแพทย์
อาจต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมง ก่อนที่ยานี้จะออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่
สภาวะทางการแพทย์บางอย่างอาจต้องการขนาดยาต่างกัน ขึ้นอยู่กับที่แพทย์กำหนด
การเก็บรักษา Betahistine
ยาเบตาฮีสทีนควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาเบตาฮีสทีนบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัยโปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยาเบตาฮีสทีนลงในชักโครก หรือท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้ยา เบตาฮีสทีน
ก่อนใช้ยา เบตาฮีสทีน แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากคุณแพ้ยานี้ หรือแพ้ยาในกลุ่มฮีสตามีนอนาล็อกอื่นๆ หรือหากคุณโรคภูมิแพ้อื่นๆ
ไม่ควรใช้ยานี้หากคุณมีสภาวะทางการแพทย์บางอย่าง ก่อนใช้ยานี้ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร ถ้าหากคุณแพ้ต่อยาเบตาฮีสทีน หรือส่วนประกอบอื่นในยานี้ มีความดันโลหิตสูงที่เกิดจากเนื้องอกต่อมหมวกไต (phaeochromocytoma)
ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะหากคุณมีแผลในกระเพาะหรือเคยมีแผลในกระเพาะ โรคหอบหืด ไม่ทนต่อน้ำตาลบางชนิด กำลังตั้งครรภ์ มีแผนที่จะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
ก่อนการผ่าตัดควรแจ้งแพทย์หรือทันตแพทย์ว่า คุณกำลังใช้ยานี้อยู่
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีข้อมูลที่เพียงพอเกี่ยวกับการใช้ยาเบตาฮีสทีน ขณะตั้งครรภ์และให้นมบุตร โปรดปรึกษากับแพทย์ เพื่อพิจารณาระหว่างประโยชน์และความเสี่ยงที่เป็นไปได้ ก่อนใช้ยาเบตาฮีสทีน
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้ Betahistine
- รู้สึกป่วย
- อาหารไม่ย่อย
- ปวดหัว
- คัน
- มีผดผื่นขึ้น (ลมพิษ)
- ท้องไส้ปั่นป่วนเล็กน้อย
- ปวดกระเพาะหรือท้องอืด (การรับประทานยาเบตาฮีสทีนพร้อมกับอาหาร อาจช่วยลดปัญหาที่เกี่ยวกระเพาะเหล่านี้ได้)
- โรคแองจิโอนิวโรติกอีดีมา (Angioneurotic oedema) ซึ่งคืออาการบวมที่ผิว/เนื้อเยื่อ
หากอาการเหล่านี้ไม่ยอมหายไป หรือมีอาการรุนแรง ควรแจ้งต่อแพทย์หรือเภสัชกร
แจ้งแพทย์และหยุดใช้ยาเบตาฮีสทีนในทันที หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ ได้แก่ อาการแพ้ ซึ่งอาจจะรวมถึงอาการบวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือคอ หายใจติดขัด ผดผื่นสีแดงที่ผิวหรือผิวหนังอักเสบคัน
โปรดจำไว้ว่าการที่แพทย์ให้คุณใช้ยาตัวนี้ เนื่องจากคำนวณแล้วว่า ยามีประโยชน์มากกว่าเป็นโทษ และคนที่ใช้ยานี้ส่วนใหญ่ไม่พบผลข้างเคียงที่ร้ายแรงใดๆ
อาการแพ้ที่รุนแรงต่อยานี้นั้นไม่ค่อยจะเกิดขึ้น แต่ควรรับการรักษาพยาบาลในทันที หากคุณมีอาการของการแพ้ที่รุนแรงดังนี้คือ ผดผื่น คัน/บวม (โดยเฉพาะใบหน้า ลิ้น ลำคอ) วิงเวียน หายใจติดขัด
นี่ไม่ใช่ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งหมดของของยานี้ หากคุณสังเกตพบอาการอื่นนอกเหนือจากนี้ ควรติดต่อแพทย์หรือเภสัชกร
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ โปรดปรึกษากับแพทย์
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
ยาดังต่อไปนี้อาจเกิดปฏิกิริยากับยาเบตาฮีสทีน
- ยายับยั้งเอนไซม์โมโนเอมีนออกซิเดส (Monoamine oxidase inhibitors)
- ยาต้านฮิสตามีน (Antihistamines)
ยาเบตาฮีสทีนอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
ยาเบตาฮีสทีนอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ยังไม่ทราบผลกระทบของแอลกอฮอล์ต่อยาเบตาฮีสทีน
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
ยาเบตาฮีสทีนอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาเบตาฮีสทีนสำหรับผู้ใหญ่
ขนาดยานั้นขึ้นอยู่กับอายุ เพศ สภาวะทางการแพทย์ การตอบสนองต่อการรักษา และปฏิกิริยาของยาบางชนิด
ขนาดยาเบตาฮีสทีนสำหรับเด็ก
ยังไม่มีการพิสูจน์ความความปลอดภัยและประสิทธิภาพของขนาดยานี้สำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้น จึงควรทำความเข้าใจกับความปลอดภัยของยาก่อนการใช้ยา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อกับแพทย์หรือเภสัชกร
รูปแบบของยา
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
- ยาเม็ด
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมรับประทานยาควรรีบรับประทานทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลารับประทานยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปรับประทานยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา