ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
ไซโปร® ใช้เพื่อรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ยาไซโปรฟลอกซาซิน (Ciprofloxacin) ไซโปร® อยู่ในกลุ่มของยาปฏิชีวนะควิโนโลน (quinolone antibiotics) ไซโปร® ทำงานโดยหยุดยั้ง การเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย นอกจากนี้ไซโปร® ยังใช้เพื่อรักษาผู้ที่เคยรับเชื้อแอนแทรกซ์ (anthrax) หรือ ใช้ ไซโปร® เพื่อรักษาเชื้อกาฬโรคบางชนิด (plague)
ไซโปร® เป็นยาปฏิชีวนะฟลูออโรควิโนโลน (fluoroquinolone antibiotic) ที่ต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรียภายในร่างกาย แต่สามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง หรือทำให้ไร้สมรรถภาพได้ ไซโปร® ควรใช้ก็ต่อเมื่อไม่สามารถรักษาการติดเชื้อนั้นด้วยยาปฏิชีวนะที่ปลอดภัยกว่าเท่านั้น
ไซโปร® อาจทำให้เส้นเอ็นเกิดอาการบวมหรือฉีกขาด โดยเฉพาะหากคุณอายุมากกว่า 60 ปี หากคุณใช้ยาสเตียรอยด์ (steroid medication) หรือหากคุณรับการปลูกถ่ายไต หัวใจ หรือปอด
การรับประทาน รับประทานยานี้พร้อมกับอาหาร หรือรับประทานแยกต่างหากตามที่แพทย์กำหนด โดยปกติคือวันละสองครั้ง (ทุกๆ 12 ชั่วโมง) ในตอนเช้าและตอนเย็น รับประทานยานี้พร้อมกับดื่มน้ำเปล่า และควรดื่มน้ำให้มากเพื่อให้ไตสามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง
ควรจะกลืนยาเม็ดลงไปทั้งเม็ด เนื่องจากยาอาจจะมีรสขมได้ หากคุณแบ่งยา เคี้ยวยา หรือบดยาก่อนรับประทานรับประทานยานี้อย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนหรือ 6 ชั่วโมง หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจจะผูกติดกับยานี้และลดประสิทธิภาพของยาลงได้
ไซโปร® ควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็งไซโปร® บางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอเพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้ง ไซโปร® ลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ก่อนใช้ยานี้แจ้งให้แพทย์ทราบหาก
ไซโปร® อาจทำให้เกิดเส้นเอ็นเกิดอาการบวมหรือฉีกขาดได้ โดยเฉพาะหากคุณอายุมากกว่า 60 ปี หากคุณใช้ยาสเตียรอยด์ (steroid medication) หรือหากคุณรับการปลูกถ่ายไต หัวใจ หรือปอด
คุณอาจจะไม่สามารถใช้ไซโปร® ได้ หากคุณมีความผิดปกติทางกล้ามเนื้อ โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณมีประวัติเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเอ็มจี (myasthenia gravis)
คุณไม่ควรใช้ไซโปร® หากคุณกำลังใช้ยาทิซานิดีน (tizanidine)
หยุดใช้ไซโปร® และติดต่อแพทย์ในทันที หากคุณมีอาการปวด บวม รอยช้ำ กดเจ็บ แข็งเกร็ง หรือปัญหาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวที่บริเวณข้อต่อใดๆ เฉียบพลัน ควรพักข้อต่อของคุณ จนกว่าคุณจะได้รับการดูแลหรือคำแนะนำทางการแพทย์
อย่าใช้ไซโปร® ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม เช่น นมหรือโยเกิร์ต หรือน้ำผลไม้เสริมแคลเซียม คุณอาจจะดื่มหรือรับประทานผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้จากมื้ออาหารตามปกติ แต่อย่ารับประทานผลิตภัณฑ์เหล่านี้เพียงอย่างเดียว เมื่อกำลังรับประทานไซโปร® เพราะอาจทำให้ยามีประสิทธิภาพน้อยลง
หลีกเลี่ยงการใช้ยาเหล่านี้ภายใน 6 ชั่วโมงก่อน หรือ 2 ชั่วโมงหลังจากใช้ไซโปร® ยาเหล่านี้สามารถทำให้ยาไซโปรฟลอกซาซินมีประสิทธิภาพลดลงอย่างมาก หากใช้ร่วมกัน
ควรหลีกเลี่ยงคาเฟอีนขณะที่กำลังใช้ไซโปร® เนื่องจากอาจทำให้ผลของคาเฟอีนรุนแรงขึ้น
ไซโปร® อาจทำให้ความสามารถในการคิด หรือปฏิกิริยาตอบสนองของคุณลดลงได้ ควรระมัดระวังหากคุณต้องขับรถ หรือทำกิจกรรมที่ต้องการความตื่นตัว
ยาปฏิชีวนะสามารถทำให้เกิดอาการท้องร่วง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อครั้งใหม่ได้ หากคุณมีอาการท้องร่วงไหลเป็นน้ำหรือเป็นเลือด โปรดติดต่อแพทย์ในทันที อย่าใช้ยาแก้ท้องร่วงนอกเสียจากแพทย์จะสั่งให้ทำเช่นนั้น
ควรหลีกเลี่ยงการเปิดรับแสงแดดหรือเตียงอาบแดด ไซโปร® นั้นสามารถทำให้คุณโดนแดดเผาได้ง่ายขึ้น ควรสวมเสื้อผ้าป้องกันและทาครีมกันแดด (SPF 30 ขึ้นไป) ขณะที่คุณอยู่นอกบ้าน โปรดติดต่อแพทย์หากคุณมีอาการแสบร้อน รอยแดง คัน ผดผื่น หรืออาการบวมอย่างรุนแรงหลังจากที่โดนแสงแดด
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
ไซโปร® จัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปอาจมีดังนี้
หยุดใช้ไซโปร® และติดต่อแพทย์ในทันที หากคุณมีอาการ
รับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินทันที หากคุณมีสัญญาณของอาการแพ้ ได้แก่ ลมพิษ หายใจติดขัด บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ หรืออาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ไซโปร® อาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง
เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ ได้แก่
ไซโปร® อาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ รวมถึงการใช้คาเฟอีนร่วมกับยาไซโปรฟลอกซาซิน อาจเพิ่มผลของคาเฟอีนได้
ไม่ควรรับประทานยาไซโปรฟลอกซาซิน กับวิตามินรวมที่มีแร่ธาตุในเวลาเดียวกัน ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแมกนีเซียม อะลูมิเนียม แคลเซียม เหล็ก และ/หรือ แร่ธาตุอื่นๆ อาจจะส่งผลกระทบต่อการดูดซึมยาไซโปรฟลอกซาซินและลดประสิทธิภาพของยา
อย่าใช้ยาไซโปรฟลอกซาซินร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม เช่น นมหรือโยเกิร์ต หรืออาหารที่เสริมแคลเซียม (เช่น ซีเรียล น้ำผลไม้) คุณสามารถรับประทานหรือดื่มผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม หรืออาหารเสริมแคลเซียมได้จากมื้ออาหารตามปกติ แต่ไม่ควรรับประทานเพียงอย่างเดียว ขณะที่กำลังใช้ยาไซโปรฟลอกซาซิน
ไซโปร® อาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
โรคที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ได้แก่
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ผิวและโครงสร้างผิว ขนาดยาที่แนะนำคือ 500–750 มก. / ทุกๆ 12 ชั่วโมง / 7 ถึง 14 วัน
กระดูกและข้อต่อ ขนาดยาที่แนะนำคือ 500–750 มก. / ทุกๆ 12 ชั่วโมง / 4 ถึง 8 สัปดาห์
ติดเชื้อภายในช่องท้องแบบซับซ้อน ขนาดยาที่แนะนำคือ 500 มก. / ทุกๆ 12 ชั่วโมง / 7 ถึง 14 วัน
ท้องร่วงจากการติดเชื้อ ขนาดยาที่แนะนำคือ 500 มก. / ทุกๆ 12 ชั่วโมง / 5 ถึง 7 วัน
ไข้ไทฟอยด์ (Typhoid Fever) ขนาดยาที่แนะนำคือ 500 มก. / ทุกๆ 12 ชั่วโมง / 10 วัน
การติดเชื้อหนองในที่ท่อปัสสาวะและปากมดลูกแบบไม่ซับซ้อน (Uncomplicated Urethral and Cervical Gonococcal Infections) ขนาดยาที่แนะนำคือ 250 mg / หนึ่งครั้ง / หนึ่งครั้ง
เชื้อแอนแทรกซ์จากการสูดดม (หลังได้รับเชื้อ) ขนาดยาที่แนะนำคือ 500 มก. / ทุกๆ 12 ชั่วโมง / 60 วัน /4 ถึง 8 สัปดาห์
กาฬโรค 3 ขนาดยาที่แนะนำคือ 500–750 มก. / ทุกๆ 12 ชั่วโมง / 14 วัน
ต่อมลูกหมากอักเสบจากแบคทีเรียเรื้อรัง (Chronic Bacterial Prostatitis) ขนาดยาที่แนะนำคือ 500 มก. / ทุกๆ 12 ชั่วโมง / 28 วัน
การติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง ขนาดยาที่แนะนำคือ 500–750 มก. / ทุกๆ 12 ชั่วโมง / 7 ถึง 14 วัน
การติดเชื้อที่ระบบทางเดินปัสสาวะ ขนาดยาที่แนะนำคือ 250–500 มก. / ทุกๆ 12 ชั่วโมง / 7 ถึง 14 วัน
โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบแบบไม่ซับซ้อนเฉียบพลัน (Acute Uncomplicated Cystitis) ขนาดยาที่แนะนำคือ 250 มก. / ทุกๆ 12 ชั่วโมง / 3 วัน
โรคไซนัสอักเสบเฉียบพลัน (Acute Sinusitis) ขนาดยาที่แนะนำคือ 500 มก. / ทุกๆ 12 ชั่วโมง / 10 วัน
การติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะแบบซับซ้อนหรือโรคกรวยไตอักเสบ (Pyelonephritis) (ผู้ป่วยอายุตั้งแต่ 1 ถึง 17 ปี) 10 มก./กก. ถึง 20 มก./กก. (ขนาดยาสูงสุด 750 มก. ต่อครั้ง ไม่ควรเกิดขนาดยานี้แม้ว่าผู้ป่วยจะน้ำหนักมากกว่า 51 กก.) / ทุกๆ 12 ชั่วโมง / 10–21 วัน
เชื้อแอนแทรกซ์จากการสูดดม (หลังได้รับเชื้อ) ขนาดยาที่แนะนำคือ 15 มก./กก. (ขนาดยาสูงสุดคือ 500 มก. ต่อครั้ง) / ขนาดยาที่แนะนำคือ / 60 วัน
กาฬโรค ขนาดยาที่แนะนำคือ 15 มก./กก. (ขนาดยาสูงสุดคือ 500 มก. ต่อครั้ง) / ทุกๆ 8 ถึง 12 ชั่วโมง / 10–21 วัน
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
หากคุณลืมรับประทานยา ควรรีบรับประทานทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลารับประทานยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปรับประทานยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด