สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก เป็นสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับวัฒนธรรมของไทยมาอย่างเนิ่นนาน Hello คุณหมอ จึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก มาให้ทุกท่านแล้ว ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

น้ำมันสะเดา กับคุณประโยชน์มากมาย แห่งการบำรุงผิวพรรณ

ส่วนใหญ่แล้ว ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบจากสมุนไพร มักให้ผลดีมากกว่าการใช้สารเคมี รวมไปถึง น้ำมันสะเดา นี้ด้วย เพราะน้ำมันสะเดาเป็นสิ่งที่ถูกสกัดจากพืชโดยตรงและผ่านกระบวนการกรอง ฆ่าเชื้อ แต่น้ำมันชนิดนี้จะมีประโยชน์ และวิธีใช้อย่างไรบ้างนั้น ติดตามได้ในบทความที่ Hello คุณหมอ นำมาฝากทุกคนในวันนี้กันได้เลยค่ะ ที่มาของ น้ำมันสะเดา แต่เดิมสะเดานิยมปลูกในประเทศเขตร้อน โดยผู้คนส่วนใหญ่ใช้เป็นสารขับไล่แมลง และศัตรูพืชทั่วไป ต่อมาก็ได้มีการพัฒนาปรับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสะเดาให้เข้ากับยุคสมัยเรื่อย ๆ เช่น แชมพูสำหรับสัตว์เลี้ยง แชมพูกำจัดรังแค น้ำยาบ้วนปาก อาหารเสริม เครื่องสำอาง ครีม รวมไปถึงการนำเมล็ดจากต้นสะเดามาสกัดเป็นน้ำมันสะเดา เพื่อใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ เช่น ใช้เป็นน้ำมันบำรุงผิว น้ำมันสะเดา ช่วยบำรุงผิวด้านใดบ้าง เนื่องจากน้ำมันสะเดามีส่วนผสมมากมายที่ให้ประโยชน์แก่ผิว ไม่ว่าจะเป็น วิตามินอี สารต้านอนุมูลอิสระ แคลเซียม ไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) ลิโมนอยด์ (Limonoids) กรดไขมัน (EFA) ทำให้คุณนั้นมีสุขภาพผิวที่ดีขึ้น ดังนี้ รักษากลาก การเกิดสิว ลดรอยแผลเป็น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน รักษาผิวกร้านแห้ง และลดเลือนริ้วรอย โรคสะเก็ดเงิน ปัจจุบันมีงานศึกษาวิจัยมากมายเกี่ยวกับการใช้น้ำมันสะเดาบำรุงผิว โดยงานศึกษาวิจัยบางชิ้นระบุว่า น้ำมันสะเดาอาจมีส่วนช่วยในการชะลอริ้วรอย และรักษาสิวได้อย่างเห็นผล แต่จากการทดลองในสัตว์ เมื่อปี 2014 พบว่า น้ำมันสะเดาอาจไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ทางด้านการสร้างคอลลาเจน และกำจัดไฝ หูด […]

หมวดหมู่ สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก เพิ่มเติม

ยาสมุนไพร

สำรวจ สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

น้ำมันนกอีมู (Emu Oil)

สรรพคุณของน้ำมันนกอีมูน้ำมันนกอีมูได้จากนกอีมู ซึ่งเป็นนกที่บินไม่ได้ มีลักษณะคล้ายนกกระจอกเทศตัวเล็ก ๆ น้ำมันอีมูได้จากไขมันของนกอีมู ใช้สำหรับทำยา น้ำมันนกอีมูใช้รับประทานเพื่อ: รักษาระดับคอเลสเตอรอล เป็นแหล่งของกรดไขมันไม่อิ่มตัวและไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวสำหรับการลดน้ำหนัก เป็นยาแก้ไอ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 (สุกร) และไข้หวัดใหญ่ บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ปวดข้ออักเสบ ปวดต้นคอ ปวดสะโพก และโรคเกาต์ รักษาบาดแผลบาดแผลและแผลไหม้จากรังสีรักษา ลดรอยฟกช้ำและรอยแตกลาย รอยแผลเป็นและโรคแผลเป็นนูน แผลผ่าตัด รอยแดงจากสิว เกิดจากการขจัดสิ่งสกปรกบนผิวหนัง รักษาเล็บแห้ง เสริมเล็บให้แข็งแรง น้ำมันนกอีมูยังใช้สำหรับ: การดูแลเท้าของนักกีฬา ผื่นผ้าอ้อม แผลพุพอง ริมฝีปากแตก •การไหลเวียนเลือดลมไม่สะดวก โรคผิวหนัง มะเร็งผิว รังแค โรคสะเก็ดเงิน ริ้วรอยหรือจุดด่าง ปกป้องผิวจากแสงแดด ช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์ขึ้น ลดอาการปวด และการระคายเคืองจากโรคงูสวัด แผลกดทับ โรคริดสีดวงทวาร ปวดเส้น เบาหวาน แมลงกัด อาการปวดหู ระคายเคืองตา อาการบวมน้ำเหลือง ผื่น แผลไหม้ รอยฉีกขาด นักนวดบำบัดบางคนใช้น้ำมันอีมูกับผิวลูกค้าเพื่อช่วยในการรักษา นอกจากนี้ น้ำมันนกอีมูยังใช้สูดดมเพื่อรักษาหวัดและไข้หวัดใหญ่ น้ำมันนกอีมูใช้ลดอาการบวมที่ข้อต่อ ป้องกันไม่ให้เท้าแตกหรือเล็บลอก ลดการระคายเคือง ในวงการอุตสาหกรรม น้ำมันนกอีมูใช้เป็นมันหล่อลื่นในเครื่องจักรอุตสาหกรรม ใช้สำหรับขัดเงาไม้และหนัง สำหรับการปรับอากาศและกันซึม กลไกการออกฤทธิ์ยังมีงานวิจัยเกี่ยวกับกลไกการออกฤทธิ์ของน้ำมันนกอีมูไม่มากพอ  ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งนี้ งานวิจัยบางชิ้นระบุว่า น้ำมันอีมูประกอบด้วยสารเคมีที่เรียกว่ากรดไขมัน ซึ่งอาจช่วยลดอาการปวดและบวมได้ (อาการอักเสบ) มีหลักฐานชี้ว่า น้ำมันอีมูรักษาอาการอักเสบรุนแรงอย่างฉับพลันได้ดีกว่าการอักเสบเรื้อรัง และเมื่อนำน้ำมันอีมูไปใช้กับผิว จะมีคุณสมบัติทำให้ผิวมีความชุ่มชื่นและความสวยงาม ข้อควรระวังและคำเตือนสิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้น้ำมันนกอีมู ปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกร หรือ หมอสมุนไพร หาก: กำลังตั้งครรภ์ หรือ อยู่ในช่วงให้นมบุตร […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

พาสเล่ย์ (Parsley)

การใช้พาสเล่ย์ใช้ทำอะไร พาสเล่ย์ใช้เพื่อรักษาปัญหาสุขภาพเหล่านี้ คือ –โรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ(UTIs) –ผิวแตก –รอยฟกช้ำ –เนื้องอก –ปัญหาระบบทางเดินอาหาร –ปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือน –โรคตับ –โรคหอบหืด –ไอ –การเก็บของเหลวและบวม(บวมน้ำ) พาสเล่ย์อาจจะใช้เพื่อประโยชน์อย่างอื่น โปรดปรึกษาแพทย์และเภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม การออกฤทธิ์พาสเล่ย์อาจช่วยกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกอยากอาหาร,ซ่อมแซมระบบย่อยอาหาร,ขับปัสสาวะ,ลดอาการกล้ามเนื้อกระตุก,เพิ่มการไหลเวียนของเลือดประจำเดือน โปรดปรึกษาผูเชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม   ข้อควรระวังและข้อคำเตือนสิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้พาสเล่ย์ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร ถ้าอยู่ในอาการหรือลักษณะดังต่อไปนี้: • ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในระหว่างการมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรจึงควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น • อยู่ในระหว่างใช้ยาชนิดอื่น รวมไปถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยา • แพ้พาสเล่ย์หรือยาอื่น หรืออาหารเสริมอื่น • มีอาการเจ็บป่วย ความผิดปกติ หรือพยาธิสภาพอื่นๆ • มีอาการแพ้ต่าง ๆ เช่น แพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูด หรือเนื้อสัตว์ ข้อบังคับสำหรับอาหารเสริมประเภทสมุนไพรนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อบังคับของการใช้ยา จึงจำเป็นที่จะต้องศึกษาให้มากขึ้นเพื่อความปลอดภัยในการใช้ ทั้งนี้ ก่อนใช้ คุณประโยชน์ของการรับประทานอาหารเสริมประเภทสมุนไพรนี้ต้องมีค่าน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม พาสเล่ย์ปลอดภัยแค่ไหนกำลังตั้งครรภ์และอยู่ระหว่างให้นมบุตร เนื่องจากยังมีข้อมูลทางไม่เพียงพอด้านความปลอดภัยในการรับประทานพาสเล่ย์ในระหว่างมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์ของท่านเสมอเพื่อประเมินคุณประโยชน์และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นก่อนการใช้ การผ่าตัด: พาสเล่ย์อาจทำให้ระดับกลูโคสในเลือดลดต่ำลง และยังสามารถเข้าไปเกี่ยวข้องกับการควบคุมน้ำตาลในเลือดระหว่างขั้นตอนของการผ่าตัดและภายหลังการผ่าตัด หยุดการใช้พาสเล่ย์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนถึงกำหนดการผ่าตัด ผลข้างเคียงผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อใช้พาสเล่ย์ นี่คืออาการทั่วไปบางอาการที่เป็นผลข้างเคียงจากการใช้พาสเล่ย์ –ปฏิกิริยาภูมิแพ้ผิวหนัง –โรคโลหิตจาง –ตับ หรือ ไต มีปัญหา การทาน้ำมันสกัดพาสเล่ย์ลงบนผิวหนังอาจทำให้ผิวหนังกลายเป็นผิวที่มีความไวต่อแสงแดดกว่าปกติส่งผลทำให้เกิดผื่นคัน ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีผลข้างเคียง หากมีข้อสงสัยใดๆเกี่ยวกับผลข้างเคียงของพาสเล่ย์ โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ ปฏิกิริยาระหว่างยา เมื่อรับประทานพาสเล่ย์กับยาเหล่านี้อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างยา –วาฟาริน(คูมาดิน)มีปฏิกิริยาระหว่างยากับพาสเล่ย์ เมื่อรับประทานวาฟารินเจือจางในกระแสเลือดและช่วยการแข็งตัวของเลือดเป็นไปอย่างช้าๆ สัดส่วนของใบต้นพาสเล่ย์ในปริมาณมากอาจทำให้เพิ่มการแข็งตัวของเลือด,รับประทานพาสเล่ย์ควบคู่กับยาวาฟารินอาจทำให้ลดการออกฤทธิ์ของยาวาฟารินที่จะไปทำหน้าที่เจือจางในกระแสเลือดเช่นกัน –ยาขับน้ำ(ยาขับปัสสาวะ)เกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับพาสเล่ย์ ดูเหมือนว่าพาสเล่ย์ออกฤทธิ์คล้ายยาขับน้ำโดยส่งผลให้ร่างกายสูญเสียน้ำ รับประทานพาสเล่ย์ควบคู่กับยาอย่างอื่นที่เป็น”ยาขับน้ำ”อาจส่งผลให้ร่างกายสูญเสียน้ำเป็นจำนวนมาก การสูญเสียน้ำออกจากร่างกายสามารถทำให้คุณมีอาการเวียนศรีษะและความดันโลหิตของคุณจะต่ำมาก ”ยาขับน้ำ”บางตัวรวมถึง คลอโรไทอะไซด์,คลอธาลิโดน,ฟูโรซีไมด์(ลาซิค),ไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ และยาอื่นๆ –แอสไพรินเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับพาสเล่ย์ บางคนที่เป็นคนที่แพ้พาสเล่ย์ แอสไพรินอาจเพิ่มความไวต่อพาสเล่ย์ถ้าคุณเป็นคนที่แพ้พาสเล่ย์ มีแค่รายงานเดียวที่ระบุว่าพบเพียงคนเดียว แต่เพื่อความปลอดภัยถ้าคุณเป็นคนแพ้พาสเล่ย์ห้ามรับประทานแอสไพรินและรับประทานพาสเล่ย์ นอกจากนี้ปัญหาและเงื่อนไขด้านสุขภาพเหล่านี้อาจมีปฏิกิริยาระหว่างยากับลูกพีช เช่น –โรคเบาหวาน พาสเล่ย์อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง เฝ้าดูสัญญาณของน้ำตาลในเลือดต่ำ(ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ)และตรวจน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอถ้าคุณมีอาการเบาหวานและใช้พาสเล่ย์ด้วย –อาการบวมสารน้ำ มีข้อกังวลใจว่าพาสเล่ย์อาจทำให้ร่างกายจับโซเดียม(เกลือ)และนี่สามารถทำให้เกิดอาการความดันโลหิตสูงที่รุนแรงได้ –โรคไต ห้ามรับประทานพาสเล่ย์ถ้าคุณมีโรคไตอยู่ พาสเล่ย์ประกอบด้วยสารดังกล่าวที่ทำให้อาการโรคไตรุนแรงขึ้น ขนาดยาขนาดปกติของการใช้พาสเล่ย์อยู่ที่เท่าไร ใช้พาสเล่ย์ในปริมาณที่บริโภคต่อวัน 6 กรัม น้ำมันหอมระเหยนี้ไม่ควรใช้เพราะเป็นสารพิษ ปริมาณการใช้พาสเล่ย์อาจแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละราย ทั้งนี้ ปริมาณใช้ขึ้นอยู่กับช่วงอายุ สุขภาพและพยาธิสภาพอื่น ๆ อาหารเสริมประเภทสมุนไพรไม่ได้ปลอดภัยเสมอไป […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

กักเกิล (Guggul)

การใช้ประโยชน์กักเกิลใช้เพื่ออะไร?? กักเกิลใช้สำหรับภาวะดังต่อไปนี้ ได้แก่ : ช่วยในการล้างพิษและฟื้นฟู การฟอกเลือด รักษาระดับคอเลสเตอรอล ช่วยเรื่องการจัดควบคุมน้ำหนัก ช่วยให้ประจำเดือนมาปกติ ช่วยในเรื่องระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยในเรื่องโรคผิวหนัง กักเกิลอาจถูกกำหนดไว้สำหรับการใช้งานในส่วนอื่น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากแพทย์หรือเภสัชกรของคุณ กักเกิลทำงานอย่างไร?ยังไม่มีการศึกษาวิจัยที่เพียงพอสำหรับการอธิบายการทำงานของอาหารเสริมประเภทสมุนไพรชนิดนี้ โปรดปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม มีการศึกษาวิจัยบางอย่างได้แสดงให้เห็นว่า จากการศึกษาวิจัยในปี 2009 ในผู้ใหญ่ 43 คนที่มีคอเลสเตอรอลสูงปานกลางพบว่าผู้ที่รับประทานกักเกิลขนาด 2,160 มิลลิกรัม ในรูปแบบแคปซูลทุกวัน มีระดับคอเลสเตอรอลลดลงมากกว่าผู้ที่รับประทานยาหลอก จากการศึกษาหนึ่งในปี 2007 พบ กักเกิลสเตอโรน(guggulsterone) (สารประกอบที่พบในกักเกิล)ในเซลล์ของมนุษย์ซึ่งทำให้เซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากตายได้ โปรดปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ข้อควรระวังและคำเตือนเราควรรู้อะไรบ้างก่อนใช้กักเกิล? ปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาหรือเภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร ในกรณีที่: คุณอยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจาก, ในขณะที่คุณกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร คุณควรจะได้รับยาตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น คุณได้รับยาชนิดอื่นอยู่ กรณีนี้รวมถึงยาทุกชนิดที่ซื้อรับประทานเองโดยไม่มีใบสั่งยาจากแพทย์ คุณมีอาการแพ้สารจาก กักเกิลหรือแพ้ยาชนิดอื่น หรือแพ้สมุนไพรชนิดอื่น คุณมีอาการไม่สบาย, มีอาการผิดปกติ, หรือภาวะทางการแพทย์อื่นๆ เลือดออกผิดปกติ: กักเกิล สามารถชะลอการแข็งตัวของเลือดและอาจทำให้เลือดออกหรือฝกช้ำในคนที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติภาวะที่มีฮอร์โมนอ่อนไหวง่าย เช่นมะเร็งเต้านม, มะเร็งมดลูก,มะเร็งรังไข่,เยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบหรือเนื้องอกในมดลูก: กักเกิล อาจทำหน้าที่เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย หากคุณมีภาวะใดๆที่อาจทำให้มีอาการแย่ลงจากการสัมผัสเอสโตรเจน ไม่ควรใช้กักเกิล ต่อมไทรอยด์พร่อง (ไฮโปรไทรอยด์ดิซึม หรือ ไฮเปอไทรอยด์ดิซึม): กักเกิล อาจแทรกแซงกับการรักษาภาวะเหล่านี้ หากคุณมีเป็นไทรอยด์ไม่ควรใช้ กักเกิล โดยไม่ได้รับการดูแลจากผู้ให้บริการด้านสุขภาพของคุณ คุณมีอาการแพ้ต่าง ๆ เช่น แพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูด หรือเนื้อสัตว์ ข้อบังคับสำหรับอาหารเสริมประเภทสมุนไพรนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อบังคับของการใช้ยา จำเป็นต้องมีการศีกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับความปลอดภัย คุณประโยชน์ของการรับประทานอาหารเสริมประเภทสมุนไพรนี้ต้องมีค่าน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ผู้ทำการรักษาสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กักเกิลปลอดภัยแค่ไหน?การตั้งครรภ์และให้นมบุตร:: กักเกิลอาจไม่ปลอดภัยหากใช้ในระหว่างตั้งครรภ์ ดูเหมือนว่ามันจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและกระตุ้นมดลูก ดังนั้นนักวิจัยบางคนจึงกังวลว่าอาจเป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์ […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

เมล็ดป๊อบปี้ (Poppy Seed)

เมล็ดป๊อบปี้ (Poppy seed) เป็นเมล็ดที่ได้จากต้นป๊อบปี้ ใช้เพื่อช่วยบรรเทาอาการของโรคหอบหืด อาการไอ ท้องผูก ท้องเสียที่เกิดจากการติดเชื้อ นอนไม่หลับ ข้อบ่งใช้เมล็ดป๊อบปี้ ใช้สำหรับ เมล็ดป๊อบปี้ (Poppy seed) เป็นเมล็ดที่ได้จากต้นป๊อบปี้ เราจะรับประทานเมล็ดป๊อบปี้เพื่อช่วยบรรเทาอาการของโรคหอบหืด อาการไอ ท้องผูก ท้องเสียที่เกิดจากการติดเชื้อ นอนไม่หลับ และอาจใช้เพื่อรักษาอาการทางทะลุเชื่อมระหว่างกระเพาะปัสสาวะและลำไส้ (Vesicoenteric fistula) ได้อีกด้วย นอกจากนี้ เมล็ดป๊อบปี้ยังจะนำใช้สำหรับประกอบอาหารเป็นเมนูต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเค้ก ขนมปัง ข้าวต้ม หรือทำเป็นไส้ในของขนมต่างๆ ส่วนน้ำมันเมล็ดป๊อบปี้นั้นจะใช้ในการอุตสาหกรรม เช่น ใช้เพื่อผลิตเป็นสบู่ สี และน้ำยาเคลือบเงา การทำงานของเมล็ดป๊อบปี้ ยังไม่มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการทำงานของเมล็ดป๊อบปี้ที่เพียงพอ แต่อย่างไรก็ตาม เป็นที่คาดกันว่าเมล็ดป๊อบปี้นั้นอาจจะสามารถช่วยป้องกันโรคมะเร็งบางชนิด ไม่ให้ลุกลามขึ้นได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ข้อควรระวังและคำเตือนข้อควรรู้ก่อนใช้เมล็ดป๊อบปี้ เมล็ดป๊อบปี้นั้นอาจจะปลอดภัยสำหรับผู้ใหญ่ หากรับประทานในปริมาณที่สามารถพบได้ในอาหาร สำหรับการใช้งานเพื่อหวังผลทางการรักษานั้น เคยมีการใช้โยเกิร์ตที่มีส่วนผสมของเมล็ดป๊อบปี้ ในปริมาณ 35-250 กรัม พบว่าปลอดภัยต่อการใช้ อย่างไรก็ตาม เมล็ดป๊อบปี้นี้อาจทำให้เกิดอาการแพ้ในบางคนได้ โดยมีอาการคือ อาเจียน ปากและคอบวม ตาบวม ลมพิษ และหายใจไม่ออก การสูดดมเมล็ดป๊อบปี้เข้าไปก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้เช่นกัน ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร เมล็ดป๊อบปี้นี้อาจจะปลอดภัยสำหรับหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร หากรับประทานในปริมาณที่พบได้ในอาหาร […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

แอปเปิลไซเดอร์ วีนีการ์ (Apple Cider Vinegar)

สรรพคุณของแอปเปิลไซเดอร์ เวนิการ์แอปเปิลไซเดอร์ เวนิการ์เป็นน้ำผลไม้ที่หมักจากแอปเปิลบด ใช้เป็นยารักษาโรคได้ โดยใช้แอปเปิลไซเดอร์ เวนิการ์เพียว ๆ หรือผสมกับน้ำผึ้ง ใช้สำหรับโรคกระดูกพรุน การลดน้ำหนัก อาการเจ็บจากตะคริวที่ขา ท้องเสีย เจ็บคอ โรคไซนัส ความดันโลหิตสูง โรคปวดข้อ ช่วยขจัดสารพิษในร่างกาย กระตุ้นความคิด ชะลอวัย ควบคุมความดันโลหิต ลดคลอเรสเตอรอล  และรักษาการติดเชื้อ นอกจากนี้ แอปเปิลไซเดอร์ เวนิการ์ยังใช้ทาผิวเพื่อรักษาสิว ใช้เป็นโทนเนอร์เช็ดผิวหน้า บรรเทาอาการผิวไหม้จากแสงแดด บรรเทาอาการของโรคงูสวัด แมลงกัด ลดรังแค และรักษาอาการติดเชื้อบริเวณช่องคลอด แอปเปิลไซเดอร์ เวนิการ์ใช้ปรุงอาหารได้อีกด้วย กลไกการออกฤทธิ์งานวิจัยเกี่ยวกับกลไกการออกฤทธิ์ของแอปเปิลไซเดอร์ เวนิการ์ยังมีไม่เพียงพอ ควรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ อย่างไรก็ตาม เป็นที่รู้กันว่าแอปเปิลไซเดอร์ เวนิการ์อุดมไปด้วยกรดอะซิติก (Acetic Acid) และสารอาหาร เช่น วิตามินบี และ วิตามินซี แอปเปิลไซเดอร์ เวนิการ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานโดยการเปลี่ยนวิธีลำไส้ดูดซึมอาหาร อีกทั้งยังใช้ถนอมอาหารได้อีกด้วย ข้อควรระวังและคำเตือนสิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้ถ่านกัมมันต์: ปรึกษาแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในกรณีที่: ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในขณะให้นมบุตรนั้น ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น กำลังใช้ยาอื่น ๆ รวมถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ มีอาการแพ้สารในถ่แอปเปิลไซเดอร์ เวนิการ์ ยาอื่น […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

ฮาวทอร์น (Hawthorn)

การใช้Hawthornใช้ทำอะไร? Hawthorn เป็นพืชชนิดหนึ่ง ซึ่งส่วนของใบ, ผลเบอร์รี่, และดอก ใช้เพื่อทำเป็นยาเพื่อรักษา: โรคหัวใจและหลอดเลือด (ตัวอย่างเช่น ภาวะหัวใจล้มเหลว- congestive heart failure (CHF), อาการเจ็บหน้าอก -Chest pain, และภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ- irregular heartbeat) ความดันโลหิตต่ำ ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) คอเลสเตอรอลสูง ภาวะหัวใจล้มเหลว ปัญหาด้านระบบย่อยอาหาร (ตัวอย่างเช่น อาหารไม่ย่อย, ท้องเสีย, และปวดท้อง-stomach pain) ภาวะวิตกกังวล อาการปัสสาวะบ่อย (Increase urine output) ปัญหารอบเดือน พยาธิตัวตืด และ การติดเชื้อในลำไส้อื่นๆ (other intestinal infections) ฝี (Boils), อาการเจ็บ (sores), แผล (ulcers) (เมื่อทาบนผิวหนัง)           Hawthorn ทำงานอย่างไร?เนื่องจากยังมีการศึกษาเกี่ยวกับการทำงานของอาหารเสริมประเภทสมุนไพรนี้ไม่เพียงพอ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพืชชนิดนี้สามารถหาได้จากผู้เชี่ยวชาญด้านสุมนไพรหรือแพทย์ได้   อย่างไรก็ตามงานวิจัยบางส่วนแสดงให้เห็นถึงสรรพคุณของ Hawthorn ในเรื่อง: ช่วยเพิ่มปริมาณเลือดที่ไหลออกจากหัวใจในช่วงที่กล้ามเนื้อหัวใจหดตัว ช่วยขยายหลอดเลือดและและเพิ่มการส่งสัญญาณประสาท ช่วยลดความดันโลหิตด้วยการคลายตัวของหลอดเลือดที่ไกลจากหัวใจออกไป ช่วยลดคอเลสเตอรอล, ไขมันที่ความหนาแน่นต่ำ-low density lipoprotein (LDL,หรือ ไขมันไม่ดี), และ ไตรกลีเซอไรด์ – triglycerides (ไขมันในเลือด) โดยการลดการสะสมของไขมันในตับและหลอดเลือดแดง aorta […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

ผักเชียงดา (Gymnema)

การใช้ประโยชน์ ผักเชียงดาผักเชียงดา (Gymnema)  มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Gymnema inodorum (Lour.) Decne ใช้สำหรับรักษาอาการต่างๆ ดังนี้ โรคเบาหวาน ลดน้ำหนัก กลุ่มอาการเมแทบอลิซึม กระตุ้นการย่อยอาหาร โรคมาลาเรีย ไอ แผลงูกัด ยาระบาย ช่วยขับปัสสาวะ ผักเชียงดาอาจสามารถใช้รักษาอาการอื่นๆ ได้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ การทำงานของผักเชียงดาเป็นอย่างไรผักเชียงดาประกอบด้วยสารที่ช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลในลำไส้ ช่วยเพิ่มปริมาณอินซูลินในร่างกาย และเพิ่ม การเจริญเติบโตของเซลล์ในตับอ่อน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตอินซูลินของร่างกาย กรุณาปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม ข้อควรระวังและคำเตือนเราควรรู้อะไรบ้างก่อนใช้ผักเชียงดา หญิงมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในระหว่างการมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรจึงควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น อยู่ในระหว่างรับประทานยาชนิดอื่น รวมไปถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยา หากเคยมีประวัติแพ้ยาชนิดใดชนิดหนึ่งของผักเชียงดาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นๆ หากมีอาการเจ็บป่วย ความผิดปกติ หรือพยาธิสภาพอื่นๆ หากเคยมีประวัติการแพ้ต่างๆ แพ้อาหาร แพ้สีผสมอาหาร แพ้สารกันบูด หรือแพ้เนื้อสัตว์ ข้อกำหนดสำหรับผักเชียงดานั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่ายาชนิดอื่นๆ ควรศึกษาให้มากเพื่อความปลอดภัยในการใช้ คุณประโยชน์ของการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพรนี้ต้องมีมากกว่าความเสี่ยงก่อนการใช้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาแพทย์   ผักเชียงดามีความปลอดภัยแค่ไหนข้อควรระวังและคำเตือนพิเศษ การตั้งครรภ์และให้นมบุตร: ไม่มีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับการใช้ผักเชียงดาในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร ควรเลี่ยงการใช้เพื่อความปลอดภัย ศัลยกรรม: ส่งผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือด และอาจแทรกแซงการควบคุมน้ำตาลระหว่างการผ่าตัด และหลังขั้นตอนการผ่าตัด หยุดใช้ผักเชียงดาเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนถึงกำหนดการผ่าตัด ผลข้างเคียงเนื่องจากยังไม่ข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยไม่มากพอ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ ปฏิกิริยาระหว่างยาผักเชียงดาอาจมีปฏิกิริยากับยาที่ใช้อยู่ควบคู่กัน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนใช้ ขนาดการใช้ข้อมูลนี้ไม่สามารถเป็นคำสั่งในการใช้ยาได้ ควรปรึกษานักสมุนไพรศาสตร์หรือแพทย์ก่อนการใช้ยาเสมอ ปกติแล้วควรใช้ผักเชียงดาในปริมาณเท่าใดผู้ใหญ่ : ขนาดการใช้ยาต่อครั้งที่แนะนำคือ สารสกัด 200 – 400 มิลลิกรัม ต่อวัน หรือรับประทาน 1 แคปซูล วันละ 2 ครั้ง พร้อมอาหาร ปริมาณการใช้สมุนไพรอาจแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ปริมาณที่คุณใช้ขึ้นอยู่กับอายุสุขภาพและเงื่อนไขอื่น ๆ […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

หญ้าแห้วหมู (Purple Nut Sedge)

การใช้ประโยชน์ หญ้าแห้วหมูหญ้าแห้วหมู ใช้ทำอะไร หญ้าแห้วหมู (Purple Nut Sedge) คือพืชที่มีลักษณะคล้ายกับหญ้า โดยนำส่วนหัวและส่วนที่อยู่เหนือพื้นดินมาใช้เป็นยารักษา ผู้คนรับประทานหญ้าแห้วหมูเพื่อรักษาฟันผุ โรคซึมเศร้า โรคเบาหวาน โรคท้องร่วง การเป็นไข้ โรคอาหารไม่ย่อย ผิวหนังระคายเคือง โรคมาลาเรีย กล้ามเนื้อหดตัว ประจำเดือนมาไม่ปกติ อาการคลื่นไส้ อาการบาดเจ็บ งูกัด โรคระบบทางเดินอาหารรวมถึง โรคลำไส้แปรปรวน อาเจียน น้ำหนักลด ช่วยให้หลับสบาย ลดอาการบวม ช่วยเรื่องการไหลเวียนโลหิตและใช้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ นอกเหนือจากที่กล่าวไปข้างต้น หญ้าแห้วหมูยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์อื่น ๆ ได้ดังนี้ ผู้คนใช้หญ้าแห้วหมูกับผิวหนังเพื่อรักษาสิว รังแค บาดแผลและแผลเปื่อย สำหรับการนำหญ้าแห้วหมูมาใช้ในการประกอบอาหารนั้น หญ้าแห้วหมูมักถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมในแป้ง การทำงานของหญ้าแห้วหมูเป็นอย่างไรเนื่องจากยังมีการศึกษาเกี่ยวกับการออกฤทธิ์ของหญ้าแห้วหมูไม่มากพอ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรหรือแพทย์ อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันว่าหญ้าแห้วหมูมีสารต้านอนุมูลอิสระ หญ้าแห้วหมูอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียรวมถึงชนิดที่ทำให้เกิดฟันผุ นอกจากนี้ยังช่วยสลายไขมันเพื่อช่วยให้น้ำหนักลดลงอีกด้วย ข้อควรระวังและคำเตือนเราควรรู้อะไรบ้างก่อนใช้หญ้าแห้วหมู ควรปรึกษาหรือพบกับแพทย์ เภสัชกร หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพร ถ้าอยู่ในอาการหรือลักษณะดังต่อไปนี้:  ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจาก ในระหว่างการมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น อยู่ระหว่างรับประทานยาชนิดอื่น รวมไปถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยา แพ้หญ้าแห้วหมูในทุกรูปแบบ ยาหรือสมุนไพรชนิดอื่นๆ มีอาการเจ็บป่วย ความผิดปกติ หรือพยาธิสภาพอื่นๆ หากเคยมีประวัติการแพ้ต่างๆ แพ้อาหาร แพ้สีผสมอาหาร แพ้สารกันบูด หรือแพ้เนื้อสัตว์ ข้อบังคับสำหรับอาหารเสริมประเภทสมุนไพรนี้มีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อบังคับของการใช้ยา จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องศึกษาให้มากเพื่อความปลอดภัยในการใช้ คุณประโยชน์ของการใช้สมุนไพรชนิดนี้ต้องมีค่าน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยงก่อนการใช้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรหรือแพทย์ หญ้าแห้วหมูนั้นมีความปลอดภัยแค่ไหนยังไม่มีผลการรับรองถึงความปลอดภัยของหญ้าแห้วหมู ข้อควรระวังและคำเตือนพิเศษการตั้งครรภ์และการให้นมบุตร: […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

ลิโมนีน (Limonene)

สรรพคุณของลิโมนีนลิโมนีนใช้สำหรับ? ลิโมนีน (Limonen) เป็นสารเคมีที่พบได้ในเปลือกผลไม้ตระกูลส้มและในพืชชนิดอื่น ๆ และใช้ทำยา ลิโมนีนใช้เพื่อช่วยลดน้ำหนัก ป้องกันมะเร็ง รักษาโรคมะเร็งและรักษาโรคหลอดลมอักเสบ ลิโมนีนนำมาใช้เป็นสารรสชาติในอาหาร เครื่องดื่มและหมากฝรั่ง ในงานเภสัชกรรม ลิโมนีนนำมาใช้เพื่อช่วยให้ยาทาหรือครีมต่างๆ ซึมเข้าผิวได้ดี ในด้านอุตสาหกรรม ลิโมนีนใช้เป็นกลิ่นหอม ตัวทำละลาย และเป็นส่วนประกอบในเจลล้างมือแบบไม่ต้องใช้น้ำ กลไกการออกฤทธิ์งานวิจัยเกี่ยวกับกลไกการออกฤทธิ์ของลิโมนีนยังมีไม่พอ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันว่าลิโมนีนอาจช่วยป้องกันการก่อตัวของสารก่อมะเร็ง และฆ่าเซลล์มะเร็งในท้องทดลองได้ ข้อควรระวังและคำเตือนสิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้ลิโมนีน  ปรึกษาแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในกรณีที่  ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในขณะให้นมบุตรนั้น ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น กำลังใช้ยาอื่นๆ รวมถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ มีอาการแพ้สารในลิโมนีน ยาอื่นๆ หรืออาหารเสริมอื่นๆ มีโรคอื่นๆ มีความผิดปกติหรือพยาธิสภาพอื่นๆ มีอาการแพ้อื่นๆ เช่น แพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูดหรือเนื้อสัตว์ต่างๆ ข้อกำหนดสำหรับผลิตภัณฑ์จากลิโมนีนนั้น มีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อกำหนดยาอื่นๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย การใช้ผลิตภัณฑ์นี้ต้องมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ลิโมนีนปลอดภัยแค่ไหนลิโมนีนปลอดภัยหากใช้ในปริมาณเทียบเท่าในอาหาร และยังปลอดภัยกับคนส่วนใหญ่ในปริมาณเทียบเท่ายาอีกด้วย เมื่อใช้เป็นเวลา 1 ปี ข้อควรระวังและคำเตือนสำหรับสตรีมีครรภ์และอยู่ในระหว่างให้นมบุตร : ลิโมนีนปลอดภัยหากบริโภคในปริมาณเทียบเท่าในอาหาร แต่ข้อมูลเรื่องความปลอดภัยในการนำลิโมนีนไปใช้ในปริมาณเทียบเท่ายานั้นยังมีไม่เพียงพอ โปรดคำนึงถึงความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการใช้จนกว่าจะมีข้อมูลเพิ่มเติม ผลข้างเคียงเกิดผลข้างเคียงอะไรบ้างเมื่อใช้ลิโมนีน หากกังวลเรื่องผลข้างเคียงของยา ควรปรึกษาแพทย์ที่รักษา ปฏิกิริยาต่างๆเกิดปฏิกิริยาอะไรบ้างเมื่อใช้ลิโมนีนกับยาอื่น ลิโมนีนอาจมีปฏิกิริยากับยาหรือพยาธิสภาพปัจจุบัน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรและแพทย์ก่อนใช้ ผลิตภัณฑ์ที่อาจมีปฏิกิริยาต่อลิโมนีนได้แก่ ตัวยาที่จะถูกแปรสภาพโดยตับ เช่นสารไซโตโครม พี450 2ซี9 (Cytochrome P450 2C9) หรือซีวายพี2ซี9 (CYP2C9) ตัวยาบางชนิดจะถูกแปรสภาพหรือถูกทำลายโดยตับ ลิโมนีนอาจเร่งการทำลายตัวยาในตับ […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

การบูร (True camphor)

สรรพคุณของ True camphorการบูรมักใช้เพื่อทาบนผิวหนังหรือสูดดมเพื่อวัตถุประสงค์เหล่านี้  : บรรเทาอาการปวด ลดอาการคัน รักษาโรคติดเชื้อราของเล็บเท้า, หูด, เริม, ริดสีดวงทวาร และโรคข้อเข่าเสื่อม ลดอาการปวดและบวม รักษาโรคทางเดินหายใจ รักษาอาการของโรคหัวใจ ลดอาการไอ การบูรสามารถใช้เฉพาะที่เป็นยาหยอดหู และรักษาแผลไหม้เบื้องต้น การบูรอาจนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ด้วย ; ขอคำแนะนำจากแพทย์ เภสัชกร หรือเภสัชกรด้านสมุนไพรเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม มันทำงานอย่างไร? ยังไม่มีงานวิจัยที่เพียงพอว่าอาหารเสริมสมุนไพรตัวนี้ทำงานอย่างไร ควรปรึกษาเภสัชกรด้านสมุนไพรหรือแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยบางงานกล่าวว่าสารในการบูรอาจช่วยกระตุ้นประสาทส่วนปลายเพื่อช่วยบรรเทาอาการต่างๆเช่นอาการปวดและอาการคันเมื่อทากับผิวหนัง การบูรยังใช้งานได้กับเชื้อราที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในเล็บเท้า ข้อควรระวังและคำเตือนเราควรรู้อะไรก่อนที่จะใช้การบูร? คุณกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากในขณะที่คุณให้นมบุตรนั้น คุณควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น คุณกำลังใช้ยาอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงยาที่คุณสามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ คุณมีอาการแพ้ต่อมหมวกไต ยาอื่น ๆ หรืออาหารเสริมอื่น ๆ คุณมีโรคอื่น ๆ มีความผิดปกติ หรือมีเงื่อนไขความเจ็บป่วยที่แพทย์ระบุไว้ เช่นระบบภูมิคุ้มกันต่ำ คุณมีอาการแพ้อื่น ๆ เช่นอาหารย้อมสี สารกันบูด หรือสัตว์ ต่างๆ ห้ามใช้การบูรทางปาก เพราะอาจทำให้เกิดแผลไหม้ทางปากและลำคอ คลื่นไส้และอาเจียน จนกระทั่งอาจถึงตายได้ Do not apply camphor oil on burned, injured or broken skin. หากใช้การบูรทางผิงหนังเป็นระยะเวลายาวนานเกินไป อาจถูกกักเก็บในไขมันร่างกาย ทำให้เป็นพิษได้ กฎเกณฑ์สำหรับอาหารเสริมนั้น มีความเข้มงวดน้อยกว่ายาชนิดอื่นๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย การรับประทานผลิตภัณฑ์ นี้ต้องมีประโยชน์มากกว่าที่จะเสี่ยงใช้ ควรปรึกษากับเภสัชกรด้านสมุนไพรหรือแพทย์ของคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม การบูรปลอดภัยแค่ไหนหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร : […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน