การศัลยกรรมนั้นมีไว้เพื่อช่วยในการตกแต่งร่างกายของเราให้สวยงามขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการศัลยกรรมจมูกให้โด่งขึ้น ศัลยกรรมเสริมหน้าอกให้มีขนาดใหญ่ขึ้น หรือแม้แต่การศัลยกรรมดวงตาให้มีลักษณะที่สวยมากขึ้น การศัลยกรรมเหงือก ก็เป็นอีกหนึ่งหนทางในการช่วยปรับลักษณะของเหงือกให้ดูดีขึ้น และเสริมความมั่นใจของเราได้มากขึ้น วันนี้ Hello คุณหมอ จะพาทุกคนมารู้จักกับการ ศัลยกรรมตกแต่งเหงือก อีกหนึ่งทางเลือก เพื่อรอยยิ้มสวย ให้ทุกคนได้รู้จักกันค่ะ
ศัลยกรรมตกแต่งเหงือก คืออะไร
การศัลยกรรมตกแต่งเหงือก (Gingivoplasty) หรือที่ในบางครั้งอาจจะเรียกว่า การตัดแต่งเหงือก (Gum Contouring) เป็นกระบวนการผ่าตัดศัลยกรรม เพื่อช่วยในการปรับเปลี่ยนลักษณะรูปร่างของเหงือก ให้ออกมาดูสวย และสมบูรณ์แบบมากขึ้น
การศัลยกรรมตกแต่งเหงือกนั้นจะเน้นไปที่การตัดหรือกำจัดชิ้นเนื้อเหงือกส่วนเกินออก เช่น สำหรับผู้ที่มีปัญหายิ้มแล้วเห็นเหงือกเยอะ อาจสามารถทำการศัลยกรรมตกแต่งเหงือก เพื่อผ่าเอาเหงือกส่วนเกินตรงฟันหน้านั้นออกไป ทำให้ฟันดูยาวขึ้น และมีรอยยิ้มที่สวยขึ้นได้
การศัลยกรรมตกแต่งเหงือกนั้นเป็นกระบวนการที่มุ้งเน้นไปที่การศัลกรรมเพื่อความสวยความงาม แต่ในบางกรณีก็อาจจะใช้เพื่อช่วยจัดการกับปัญหาสุขภาพเหงือกได้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทันตแพทย์
ความเสี่ยงจากการทำศัลยกรรมตกแต่งเหงือก
แม้ว่าการศัลยกรรมตกแต่งเหงือกนั้นอาจจะเป็นการผ่าตัดเล็ก ที่ไม่จำเป็นต้องทำการผ่ากรีดเปิดแผลขนาดใหญ่บนร่างกาย แต่การผ่าตัดศัลยกรรมทุกชนิดนั้น ย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยงและผลข้างเคียงบางอย่าง ไม่เว้นแม้กระทั่งการศัลยกรรมตกแต่งเหงือก
ความเสี่ยงที่อาจมาพร้อมกับการทำศัลกรรมตกแต่งเหงือก มีดังนี้
- อาการเลือดไหลไม่หยุด เป็นเวลาอย่างน้อย 48 ชั่วโมงขึ้นไป
- การติดเชื้อ
- อาการปวด
- อาการแพ้ต่อยาชา
โดยปกติแล้ว ผลข้างเคียงจากการศัลยกรรมตกแต่งเหงือกนั้นจะอยู่เพียงไม่นาน แต่หากคุณสังเกตเห็นความผิดปกติ เช่น สัญญาณของการติดเชื้อ อาการบวม หรือเลือดไหลไม่หยุด ควรติดต่อแพทย์เพื่อทำการรักษาในทันที
การดูแลตัวเองหลังการศัลยกรรมตกแต่งเหงือก
หลังจากการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งเหงือกแล้ว คุณควรจะพักรักษาตัวจนกว่าแผลจะหายดี และปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยมีเทคนิคในการดูแลตัวเองที่บ้านดังต่อไปนี้
- เมื่อเกิดอาการปวด สามารถรับประทานยาแก้ปวดที่หาซื้อได้ตามร้านขายยา เช่น ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) หรือ ยาไอบูโพรเฟน (ibuprofen) ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาแอสไพริน (Aspirin) เพราะอาจทำให้เลือดไม่แข็งตัว และเกิดอาการเลือดไหลไม่หยุดได้
- ระมัดระวังขณะแปรงฟัน ควรเลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนอ่อนนุ่ม และแปรงแค่เฉพาะบริเวณฟันเท่านั้น ระวังอย่าให้ไปโดนเหงือก
- หลีกเลี่ยงการรับประทานของที่มีรสเผ็ด อาหารเย็นจัด หรืออาหารร้อนจัดต่าง ๆ
- เลือกรับประทานอาหารอ่อนนุ่ม เช่น ซุป โยเกิร์ต โจ๊ก หรือข้าวต้มนิ่ม ๆ
- ควรงดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์จนกว่าแผลจะหายดี
การดูแลตัวเองหลังการศัลยกรรมด้วยวิธีการเหล่านี้ จะช่วยบรรเทาอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัด อีกทั้งยังอาจช่วยให้แผลผ่าตัดหายได้เร็วขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม คุณควรจะคอยสังเกตหาสัญญาณของความผิดปกติ หรือการติดเชื้อต่าง ๆ และแจ้งให้แพทย์ทราบอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ภายในภายหลัง
[embed-health-tool-bmi]