ทาผิวด้วยว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้ถูกนำมาใช้เป็นยารักษาปัญหาผิวหลายประการ เช่น แผลสดภายนอก แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก เนื่องจากมีส่วนประกอบที่ชื่อว่า กลูโคแมนแนน (Glucomannan) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ มีส่วนช่วยเพิ่มปริมาณคอลลาเจนในบาดแผล และสมานแผลได้ การทาว่านหางจระเข้สดหรือเจลว่านหางจระเข้บริเวณรอยดูดอย่างน้อย 2 ครั้ง/วัน จึงอาจช่วยลดอาการบวมของผิวหนังโดยรอบได้ และอาจช่วยให้รอยดูดหายเร็วขึ้น ทั้งนี้ หากใช้ว่านหางจระเข้สด ควรปอกเปลือกออก ล้างให้สะอาด และใช้เพียงส่วนน้ำและวุ้นใสที่อยู่ภายในใบมาทาบริเวณที่เป็นรอยดูด ระวังไม่ให้ยางสีเหลืองสัมผัสผิวหนัง เพราะอาจทำให้รู้สึกคันและระคายเคืองได้
นำสับปะรดมาทาที่รอยช้ำ
สับปะรดมีโบรมีเลน (Bromelain) ที่มีฤทธิ์ต้านอักเสบและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน สามารถใช้เป็นยาสมานแผลและกระตุ้นการไหลเวียนเลือดได้ วิธีลบรอยดูดด้วยสับปะรดทำได้โดยการหั่นสับปะรดเป็นชิ้นบาง ๆ แล้วนำมาทาบริเวณรอยดูด ประมาณ 4-5 ครั้ง/วัน ทั้งนี้ สับปะรดเป็นผลไม้ที่มีความเป็นกรดสูง หากทาแล้วผิวหนังระคายเคืองควรรีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดแล้วหยุดใช้ทันที
ใช้น้ำมันเปปเปอร์มินต์ทาผิว
เปปเปอร์มินต์มีส่วนประกอบของเมนทอล (Menthol) ซึ่งมีสรรพคุณช่วยในการบรรเทาอาการปวดและต้านการอักเสบ อาจช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในบริเวณที่เป็นรอยได้ ทั้งนี้ น้ำมันเปปเปอร์มินต์มีความเข้มข้นสูง อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้ จึงควรใช้น้ำมันเปปเปอร์มินต์ประมาณ 1-2 หยด ผสมกับน้ำมันธรรมชาติชนิดอื่น ๆ เช่น น้ำมันอัลมอนต์ 15 หยด ก่อนนำมาทาบริเวณรอยดูดแล้วนวดเบา ๆ อาจช่วยเร่งให้รอยดูดหายเร็วขึ้นได้
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย