วุ้นในใบว่านหางจระเข้มีสารประกอบหลายชนิดที่ช่วยต้านการอักเสบ ต้านแบคทีเรีย เช่น แมกนีเซียมแลคเตท (Magnesium Lactate) ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการผลิตฮีสตามีนที่ทำให้เกิดอาการคันและระคายเคืองต่อผิวหนังด้วย อีกทั้งเมื่อร่างกายผลิตฮีสตามีนได้ช้าลง จะช่วยเร่งกระบวนการสมานแผล ว่านหางจระเข้จึงสามารถใช้เพื่อคงความชุ่มชื้น ลดอาการแผลพุพอง และช่วยบรรเทาแผลบนผิวหนังได้
จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Iranian Journal of Medical Sciences เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2562 ศึกษาเรื่อง ผลทดลองทางคลินิกของว่านหางจระเข้ต่อการป้องกันการเกิดแผลและรักษาแผลที่ผิวหนัง พบว่า ว่านหางจระเข้มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและเชื้อแบคทีเรีย จึงนำมาใช้ป้องกันการเกิดแผลที่ผิวหนัง รักษาแผลไหม้ แผลหลังผ่าตัด หัวนมแตก เริมที่อวัยวะเพศ โรคสะเก็ดเงิน แผลเรื้อรัง รวมไปถึงแผลกดทับได้
อาจช่วยรักษาสุขภาพช่องปาก
ว่านหางจระเข้มีสารในกลุ่มสารแอนทราควิโนน (Anthraquinones) หลายชนิด เช่น อีโมดิน (Emodin) กรดอโลอิติก (Aloetic Acid) อะโลอิน (Aloin) ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านจุลชีพ โดยว่านหางจระเข้สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราแคนดิดา อัลบิแคนส์ (Candida Albicans) ซึ่งเป็นเชื้อราที่พบบ่อยที่สุดในช่องปาก ทั้งยังมีสรรพคุณในการรักษาแผลในช่องปากด้วย จากงานวิจัย ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Pediatric Dental Journal เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ศึกษาเรื่อง ผลของน้ำยาบ้วนปากว่านหางจระเข้ต่อการเกิดคราบพลัคและโรคเหงือกอักเสบในเด็ก พบว่า น้ำยาบ้วนปากว่านหางจระเข้มีประสิทธิภาพในการปรับปรุงสุขภาพช่องปาก ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดคราบพลัคและโรคเหงือกอักเสบในเด็กได้
ข้อควรระวังในการบริโภคว่านหางจระเข้
ข้อควรระวังก่อนบริโภคว่านหางจระเข้ อาจมีดังนี้
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย