แผลริมอ่อน เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อยในทั้งชายและหญิง โดยสังเกตได้จากแผลบริเวณอวัยวะเพศ ริมฝีปาก ขาหนีบ แผลริมอ่อนเป็นโรคที่อันตราย เพราะอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพและภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น ท่อปัสสาวะอักเสบ รอยแผลเป็นบนหนังหุ้มปลายองคชาต
[embed-health-tool-ovulation]
คำจำกัดความ
แผลริมอ่อน คืออะไร
แผลริมอ่อน คือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียฮีโมฟิลัส ดูเครย์ (Haemophilus ducreyi) สามารถแพร่กระจายได้ผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์ และการสัมผัสกับหนองจากแผลริมอ่อน แล้วนำมือนั้นไปสัมผัสบริเวณอื่น เช่น ดวงตา ปาก หรือร่างกายของผู้อื่น โดยที่ยังไม่ได้ล้างมือ
อาการ
อาการแผลริมอ่อน
- อาการของแผลริมอ่อน สังเกตจากสัญญาณ ดังต่อไปนี้
- ตุ่มบนอวัยวะเพศกลายเป็นแผลพุพอง หลังจากติดเชื้อ 1-2 สัปดาห์
- ตุ่มอาจมีขนาดประมาณ 1-2 นิ้ว
- รู้สึกเจ็บปวด มีเลือดคั่ง และมีหนอง ในแผลพุพอง
- แผลเปื่อย และมีแผลเปิด
- เจ็บบริเวณต่อมน้ำเหลือง อาจเกิดขึ้นกับขาหนีบข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้าง
- ผู้ชายอาจมีอาการเจ็บแผลมากในบริเวณ หนังหุ้มปลาย ถุงอัณฑะ หัวองคชาต สำหรับผู้หญิงอาจเกิดรอยแผลบริเวณอวัยวะเพศภายนอก ช่องคลอด และทวารหนัก
สาเหตุ
สาเหตุแผลริมอ่อน
สาเหตุของแผลริมอ่อนเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียฮีโมฟิลัส ดูเครย์ ผ่านทางมีเพศสัมพันธ์ หรือสัมผัสกับหนองโดยตรงทุกรูปแบบที่อาจแพร่กระจายไปสู่บุคคลอื่น ๆ ได้
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยเสี่ยงแผลริมอ่อน
ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เป็นแผลริมอ่อน และเกิดการแพร่กระจาย คือ
- มีคู่นอนหลายคน
- การไม่สวมใส่ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์
- การสัมผัสกับสารคัดหลั่งของผู้ที่ติดเชื้อ
การวินิจฉัยและการรักษา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาคุณหมอทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัยแผลริมอ่อน
อาการของแผลริมอ่อนคล้ายกับอาการโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ คุณหมออาจวินิจฉัยด้วยการเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อบริเวณที่ได้รับผลกระทบ เพื่อตรวจหาเชื้อแบคทีเรียฮีโมฟิลัส ดูเครย์ และอาจตรวจบริเวณแผลเพื่อเช็กอาการต่อมน้ำเหลืองบวม พร้อมทั้งทดสอบหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ที่อาจแทรกซ้อน
การรักษาแผลริมอ่อน
แผลริมอ่อนรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ ดังต่อไปนี้
- รับประทานยาอะซิโธรมัยซิน (Azithromycin) ในปริมาณ 1 กรัม
- รับประทานซิโปรฟลอกซาซิน (Ciprofloxacin) 500 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 3 วัน
- รับประทานอิริโทรมัยซิน (Erythromycin) 500 มิลลิกรัม 3 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 7 วัน
- เซฟไตรอะโซน (Ceftriaxone) 250 มิลลิกรัม ในรูปแบบฉีดยาเข้าทางกล้ามเนื้อ
สำหรับสตรีตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงระหว่างให้นมบุตร อาจหลีกเลี่ยงการใช้ยาซิโปรฟลอกซาซิน และควรปรึกษาคุณหมอเพื่อเปลี่ยนไปใช้ยาที่เหมาะสม นอกจากนี้ผู้ป่วยควรเข้ารับการตรวจอีกครั้งหลังจากเริ่มการรักษา 3-7 วัน เพื่อให้คุณหมอตรวจอาการของแผลริมอ่อนว่ามีอาการดีขึ้น หรือดื้อยาหรือไม่ เพื่อปรับเปลี่ยนการรักษาใหม่อย่างเหมาะสม
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเอง
การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเองเพื่อป้องกันแผลริมอ่อน
วิธีป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย และลดความเสี่ยงการแพร่กระจายแผลริมอ่อนไปสู่บุคคลอื่น มีดังนี้
- จำกัดจำนวนคู่นอน
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีแผลบริเวณอวัยวะเพศและขาหนีบ
- ใช้ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์
- นอกจากนี้คู่นอนที่มีเพศสัมพันธ์ด้วยภายใน 10 วันก่อนผู้ป่วยจะมีอาการควรได้รับการตรวจและรักษาด้วย