เช่นเดียวกับโรคหนองใน โรคหนองในเทียมสามารถเป็นซ้ำได้ ผู้หายขาดจากโรคแล้วควรตรวจโรคซ้ำ 3 หรือ 6 เดือน หลังจากการรักษา
3. ซิฟิลิส
ซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งมีต้นเหตุจากเชื้อแบคทีเรียทรีโพนีมา แพลลิดัม (Treponema Pallidum) ซึ่งเข้าสู่ร่างกายผ่านทางรอยขีดข่วนหรือบาดแผลเล็กๆ บนผิวหนังและเยื่อบุต่างๆ
ซิฟิลิสติดต่อกันได้โดยการสัมผัสกับแผลริมแข็ง (Chancre) หรือแผลเล็ก ๆ ที่ไม่รู้สึกเจ็บ บริเวณอวัยวะเพศ ปาก หรือทวารหนัก อันเป็นอาการของโรค นอกจากนี้ ซิฟิลิสยังติดผ่านเลือดได้ อย่างกรณีใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน และสามารถแพร่จากมารดาสู่ทารกได้
ซิฟิลิสจะแสดงอาการภายใน 2-3 สัปดาห์หลังจากการติดเชื้อ โดยอาการจะแบ่งเป็น 4 ระยะ ดังนี้
- ระยะแรก: ผู้ป่วยจะมีแผลริมแข็ง โดยแผลนี้จะเกิดขึ้นประมาณ 3-6 สัปดาห์แล้วหายไป ก่อนอาการจะเข้าสู่ระยะที่สอง
- ระยะที่สอง: ผู้ป่วยจะมีผื่นแดงตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ร่วมด้วยแผลที่อวัยวะเพศหรือทวารหนัก อาการในระยะนี้สามารถหายเองและกลับมาเป็นใหม่ได้
- ระยะที่แฝง: ในระยะนี้จะไม่พบอาการใด ๆ สามารถพบเชื้อได้เมื่อตรวจเลือด
- ระยะสุดท้าย: เป็นระยะซึ่งอาจเกิดภายใน 1 ปีหรือนานกว่าหลังจากการติดเชื้อ โดยผู้ป่วยอาจมีอาการบาดเจ็บที่สมอง ระบบประสาท ตา หรือหัวใจ
วิธีการรักษา
- สำหรับการรักษาซิฟิลิส คุณหมอจะฉีดเพนนิซิลิน (Penicillin) 1 เข็มแก่คนไข้ และอาจเพิ่มจำนวนโดสขึ้น หากคนไข้ป่วยเป็นโรคนี้มานานแล้ว หรืออาการป่วยอยู่ในระยะหลัง ๆ
- ในกรณีของคนที่แพ้ยาเพนนิซิลิน คุณหมออาจให้ยาปฏิชีวนะชนิดอื่นแทน หรือเลือกให้เพนนิซิลินกับคนไข้ในปริมาณน้อยก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มปริมาณในภายหลัง เพื่อไม่ให้เกิดอาการแพ้
- หากมีการพบซิฟิลิสในหญิงตั้งครรภ์ ทารกที่คลอดออกมาจะถูกตรวจว่าติดโรคหรือไม่ หากติดโรค คุณหมอจะรักษาด้วยยาปฏิชีวนะเช่นเดียวกับแม่ของเด็ก
4. แผลริมอ่อน
แผลริมอ่อนเป็นโรคซึ่งมีต้นเหตุจากเชื้อแบคทีเรียฮีโมฟิลุส ดูเครย์ (Haemophilus Ducreyi) แผลริมอ่อนติดต่อได้ง่าย ผ่านการสัมผัสกับตัวแผลหรือหนองจากแผลริมอ่อน
อาการของโรคจะเริ่มเด่นชัดภายใน 3-7 วันหลังจากการติดเชื้อ โดยจะเกิดตุ่มนิ่มบริเวณอวัยวะเพศหรือถุงอัณฑะของผู้ป่วย ตุ่มนี้ภายหลังจะแตกกลายเป็นแผลและมีหนองข้างใน โดยแผลส่วนมากจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3-5 เซนติเมตร ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมากเมื่อถูกสัมผัสที่แผล
ในบางกรณี แผลริมอ่อนอาจเกิดร่วมกับอาการต่อมน้ำเหลืองบวมบริเวณขาหนีบ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยกำลังต่อสู้กับการติดเชื้ออยู่
วิธีการรักษา
แผลริมอ่อนสามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ อย่างอะซิโธรมัยซิน (Azithromycin) และซิโปรฟลอกซาซิน (Ciprofloxacin) ซึ่งจะทำให้แผลหายภายใน 2 สัปดาห์
ขณะรักษาตัว ผู้ป่วยจำเป็นต้องหยุดมีเพศสัมพันธ์ ดูแลบริเวณรอบ ๆ แผลให้แห้งอยู่เสมอ และเลี่ยงการใส่กางเกงที่รัด เพราะอาจทำให้แผลระคายเคืองได้
5. เริม
เริมเป็นโรคจากเชื้อไวรัสเฮอร์ปีส์ซิมเพล็กซ์ (Herpes Simplex Virus หรือ, HSV) ติดต่อระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ผ่านแผลพุพอง รวมถึงผ่านน้ำลาย (ในกรณีติดเชื้อที่ปาก) และสารคัดหลั่งจากอวัยวะเพศของผู้ติดเชื้อ
อาการของเริมจะแสดงภายใน 4-7 วันหลังติดเชื้อ ผู้ป่วยจะมีอาการปัสสาวะแสบขัด แผลพุพองและอาการคันบริเวณอวัยวะเพศ
วิธีการรักษา
เริมอาจหายได้เองและเป็นซ้ำได้ การรักษาจะแบ่งเป็นกรณีเป็นครั้งแรก และเมื่อเป็นซ้ำ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย