ควรเข้ารับการรักษาทันทีหากสังเกตว่ามีอาการดังกล่าว เพราะหากปล่อยไว้เป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งองคชาต องคชาตอักเสบ และเสี่ยงทำให้เนื้อบริเวณองคชาตเน่าตายได้
วิธีการรักษา Phimosis คืออะไร
วิธีการรักษาภาวะหนังหุ้มปลายองคชาตตีบ มีดังต่อไปนี้
- ยาสเตียรอยด์ทาเฉพาะที่ เช่น ไฮโดรคอร์ติโซน (Hydrocortisone) ที่มีในรูปแบบเจลครีม เพื่อช่วยให้หนังหุ้มปลายองคชาตอ่อนนุ่มขึ้น ทำให้สามารถดึงกลับได้ง่าย และอาจช่วยลดอาการบวมและอาการอักเสบ ควรทาอย่างน้อย 4 ครั้ง/วัน หรือตามคำแนะนำของคุณหมอ ควรค่อย ๆ ดึงหนังกลับอย่างเบามือหลังจากใช้ยาประมาณ 2 สัปดาห์
- ยาปฏิชีวนะ เช่น ยาอะม็อกซี่ซิลลิน (Amoxicillin) ยาฟลูคลอกซาซิลลิน (Flucloxacillin) ด็อกซีไซคลิน (Doxycycline) อะซิโทรมัยซิน (Azithromycin) ไซโปรฟลอกซาซิน (Ciprofloxacin) อีริโทรไมซิน (Erythromycin) เซฟาเลกซิน (Cephalexin) เพื่อช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะหนังหุ้มปลายองคชาตตีบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
- การผ่าตัดหรือการขลิบ เหมาะสำหรับการรักษาภาวะหนังหุ้มปลายองคชาตตีบในเด็ก โดยคุณหมออาจผ่าตัดหนังหุ้มปลายเพื่อช่วยให้สามารถดึงหนังหุ้มปลายองชาตกลับเข้ามาสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้อาจส่งผลให้เกิดแผลเป็นบริเวณหนังหุ้มปลายที่เสี่ยงต่อการกลับมาเป็นภาวะหนังหุ้มปลายองคชาตตีบได้ ดังนั้น จึงควรปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับการรักษาแผลเป็นและวิธีดูแลแผลผ่าตัดเพื่อลดโอกาสการเกิดแผลเป็น
นอกจากนี้ ควรดูแลสุขอนามัยบริเวณอวัยวะเพศและหนังหุ้มปลายให้สะอาด โดยการล้างทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นและสบู่สูตรอ่อนโยน หลีกเลี่ยงการใช้แป้งฝุ่นและสบู่ที่มีน้ำหอม หลังจากล้างทำความสะอาดควรซับให้แห้งสนิทเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ อีกทั้งควรสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย