พริมโรส อาจช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ป้องกันผิวแห้ง และลดอาการคันระคายเคืองที่เกิดจากโรคผิวหนังได้ จากการศึกษาในวารสาร International Journal of Cosmetic Science ปี พ.ศ. 2548 ที่ศึกษาเกี่ยวกับน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนังและการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเนื้อเยื่อของผิวในผู้ใหญ่ โดยแบ่งกลุ่มทดลองออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่รับประทานน้ำมันพริมโรส 500 มิลลิกรัม/วัน และกลุ่มที่ได้รับยาหลอก ซึ่งใช้ระยะเวลาการทดสอบ 12 สัปดาห์ พบว่า กลุ่มที่ได้รับประทานน้ำมันพริมโรสมีความชุ่มชื้น ความยืดหยุ่นของผิวเพิ่มขึ้นกว่ากลุ่มผู้ที่รับประทานยาหลอก
-
อาจช่วยรักษาโรคสะเก็ดเงิน
พริมโรสอาจช่วยรักษาโรคสะเก็ดเงินที่เกิดจากการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง ส่งผลให้เซลล์ผิวหนังแบ่งตัวเร็วเกินไปจนผิวหนังเกิดการสะสมเป็นสะเก็ดหนา จากการศึกษาในวารสาร Clinical and Experimental Dermatology ปี พ.ศ. 2537 ที่ศึกษาเกี่ยวกับ ผลของน้ำมันปลาและน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสในการรักษา โรคสะเก็ดเงิน โดยมีในผู้ป่วยเป็นโรคสะเก็ดเงิน 37 ราย ที่เข้าร่วมการทดสอบด้วยการให้รับประทานน้ำมันปลาและน้ำมันอีฟนิ่งพิมโรส พบว่า อาจช่วยบรรเทาอาการสะเก็ดเงินได้อย่างมีนัยสำคัญ
ข้อควรระวังในการใช้พริมโรสเพื่อบำรุงผิว
การใช้พริมโรสในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารปริมาณ 1-8 กรัม/วัน สำหรับผู้ใหญ่ และ 2-4 กรัม/วัน สำหรับเด็ก อาจให้ความปลอดภัย แต่ควรใช้ในระยะเวลาสั้น เนื่องจากยังไม่มีการวิจัยที่รับรองถึงความปลอดภัยหากใช้พริมโรสระยะยาว และอาจส่งผลข้างเคียงทำให้ปวดศีรษะ หายใจลำบาก ผื่นขึ้น ปวดท้อง และท้องร่วงได้
สำหรับสตรีตั้งครรภ์และอยู่ในช่วงให้นมบุตรอาจจำเป็นต้องปรึกษาคุณหมอก่อนใช้พริมโรสเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์และทารกแรกเกิด อีกทั้งยังไม่มีงานวิจัยที่รับรองความปลอดภัยเช่นกัน
นอกจากนี้ พริมโรสอาจทำปฏิกิริยากับยาบางชนิด เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยาลดความดันโลหิต ยารักษาโรคทางจิตเภท ยาต้านอาการชัก และยากล่อมประสาท ดังนั้น ควรแจ้งให้คุณหมอทราบถึงยา รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจส่งผลให้เกิดการตกเลือด อาการชักรุนแรง ลดประสิทธิภาพการดูดซึมยารักษา
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย