รองเท้ากัด เป็นการอักเสบของผิวหนังที่ทำให้เกิดแผลพุพอง ซึ่งเกิดจากแรงกดและการเสียดสีระหว่างผิวหนังกับรองเท้า ทำให้มีอาการเจ็บปวด หรือแสบบริเวณแผล ซึ่งอาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน จึงควรรู้วิธีรักษาและวิธีป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงบาดแผลติดเชื้อ
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย
รองเท้ากัด เป็นการอักเสบของผิวหนังที่ทำให้เกิดแผลพุพอง ซึ่งเกิดจากแรงกดและการเสียดสีระหว่างผิวหนังกับรองเท้า ทำให้มีอาการเจ็บปวด หรือแสบบริเวณแผล ซึ่งอาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน จึงควรรู้วิธีรักษาและวิธีป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงบาดแผลติดเชื้อ
รองเท้ากัด ทำให้เกิดแผลพุพองที่เกิดจากแรงเสียดสีและแรงกด เมื่อผิวหนังสัมผัสกับรองเท้าในระหว่างเดิน แรงเสียดสีนั้นอาจส่งผลให้เซลล์ผิวหนังชั้นนอกแยกชั้น และมีของเหลวสะสมภายใน กลายเป็นตุ่มพอง ซึ่งอาจมีอาการรุนแรงขึ้นหากเกิดการเสียดสีรุนแรงหรือผิวหนังมีความชื้น นอกจากนี้ปัญหารองเท้ากัดจนเป็นแผลพุพองอาจเกิดจากสาเหตุอื่นได้อีก ดังนี้
ส่วนใหญ่แผลพุพองที่เกิดจากรองเท้ากัด จะหายเองตามธรรมชาติหากไม่เกิดการเสียดสีซ้ำอีก ทั้งนี้ ไม่ควรเจาะตุ่มพองออกด้วยตัวเอง เนื่องจากตุ่มพองเป็นวิธีป้องกันตามธรรมชาติของร่างกาย ช่วยลดแรงกดทับและช่วยปกป้องเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อราไม่ให้เข้าสู่บาดแผลได้
สำหรับการรักษาเมื่อเกิดตุ่มพองจากรองเท้ากัด มีดังนี้
หากตุ่มพองอักเสบอย่างรุนแรง หรือเปลี่ยนสีเป็นสีเขียว สีเหลือง หรือสีม่วง อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ ควรรีบพบคุณหมอเพื่อหาสาเหตุและทำการรักษาในขั้นต่อไป
สามารถป้องกันการอักเสบของผิวหนังและการเกิดตุ่มพองได้ ดังนี้
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย
สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย