ปัญหารักแร้ดำ อาจเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การโกนขนรักแร้แบบผิด ๆ เป็นประจำ การใช้ยาบางชนิด การแพ้สารระคายเคือง โรคผิวหนังช้าง (Acanthosis nigricans) ที่อาจกระตุ้นให้ร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้น และส่งผลให้สีผิวคล้ำขึ้น การแก้ไขปัญหารักแร้ดำจึงอาจทำได้โดยการจัดการที่ต้นเหตุ รวมถึงการดูแลผิวอย่างเหมาะสม เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวใต้วงแขนให้กลับมากระจ่างใส และสร้างความมั่นใจในการแต่งตัว ใส่เสื้อแขนกุดได้มากขึ้น
สาเหตุที่ทำให้รักแร้ดำ
รักแร้ดำ เกิดจากการที่ร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้นเนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ ที่เข้ามากระตุ้นจึงส่งผลให้ผิวบริเวณข้อพับต่าง ๆ เช่น ลำคอ ข้อศอก ข้อหนีบ รวมถึงรักแร้ดำคล้ำ โดยปัจจัยที่อาจกระตุ้นให้ร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้น มีดังนี้
โรคผิวหนังช้าง เป็นโรคผิวหนังที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วน เบาหวาน ภาวะดื้ออินซูลิน กลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่หลายใบ โรคลูปัส โรคมะเร็ง โรคอะโครเมกาลี (Acromegaly) และกลุ่มอาการคุชชิง (Cushing Syndrome) ที่ส่งผลกระตุ้นให้ร่างกายผลิตเซลล์เม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้น จนทำให้ผิวหนังชั้นนอกบริเวณรักแร้ ลำคอ หน้าท้อง และขาหนีบมีลักษณะหนาขึ้น และเป็นสีดำคล้ำ ยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด อินซูลิน ยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) และไนอาซิน (Niacin) ที่มีขนาดสูง อาจส่งผลกระทบต่อการผลิตเม็ดสีเมลานิน และทำให้ผิวหนังในบริเวณข้อพับคล้ำขึ้น การแพ้สารระคายเคืองในผลิตภัณฑ์บางอย่าง เช่น ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย โลชั่น ครีม อาจกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานิน และทำให้รักแร้ดำขึ้น พฤติกรรมการโกนขนด้วยมีดโกนหรือดึงด้วยแหนบ การเสียดสีกับใบมีดโกน อาจทำให้ผิวหนังระคายเคือง และกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานิน ส่งผลให้รักแร้ดำคล้ำขึ้น นอกจากนี้ การสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นจนเกินไป ก็อาจส่งผลให้เกิดการเสียดสี และทำให้รักแร้ดำได้เช่นกัน วิธีแก้ไขปัญหารักแร้ดำ
วิธีแก้ไขปัญหารักแร้ดำ อาจทำได้ได้ดังนี้
- การใช้ยา ในรูปแบบครีม ขี้ผึ้ง หรือโลชั่น เช่น ครีมเรตินอยด์ กลุ่มยาอนุพันธ์วิตามินดี กรดไตรคลอโรอะเซติก (Trichloroacetic Acid) ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) กรดซาลิไซลิก (Salicylic acid) กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) เพื่อปรับสภาพผิวบริเวณรักแร้ให้กระจ่างใส
- การรักษาแบบธรรมชาติ โดยนำสารสกัดจากธรรมชาติมามาส์กผิวใต้วงแขน เช่น ขมิ้น น้ำมะนาว น้ำมันปลา สารสกัดจากมิลค์ทิสเทิล (Milk Thistle) ซี่งเป็นสมุนไพรมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยลดความหมองคล้ำให้ดูจางลง
- การกรอผิว เป็นเทคนิคการขจัดเซลล์ผิวด้วยการขัดผิวหนัง เพื่อช่วยรักษาความผิดปกติของผิวหนัง รอยแผลเป็นและรอยดำ โดยการผลัดเซลล์ผิวเก่าออก และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่
- เลเซอร์ ใช้แสงความร้อนสูงเพื่อช่วยลดความหนาของผิวหนังและอาจช่วยลดความหมองคล้ำ ทำให้ผิวบริเวณรักแร้ดูกระจ่างใสขึ้น อีกทั้งยังช่วยชะลอการเจริญเติบโตของเส้นขนใหม่ จึงช่วยลดความจำเป็นในการโกนขนลง และป้องกันไม่ให้ผิวหนังเสียดสีกับมีดโกนมากจนเกิดการระคายเคือง
- ลดน้ำหนัก ผู้ที่เสี่ยงเป็นโรคอ้วนและโรคเบาหวาน ควรควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ด้วยการวางแผนการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และออกกำลังกายตามคำแนะนำของคุณหมอ
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเสริมและยา เนื่องจากยาบางชนิดอาจส่งผลให้ผิวบริเวณตามข้อพับคล้ำขึ้น ดังนั้นจึงควรปรึกษาคุณหมอ เพื่อเปลี่ยนยาตามความเหมาะสม
การดูแลผิวใต้วงแขน
การดูแลผิวใต้วงแขนให้ดูสุขภาพดี อาจทำได้ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการโกนขนด้วยมีดโกน หรือถอนขนด้วยแหนบ หากจำเป็นต้องกำจัดขน ควรใช้สบู่ หรือโฟมทาบริเวณรักแร้ เพื่อลดการเสียดสี และช่วยให้โกนขนง่ายขึ้น และควรทาผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้น เช่น น้ำมัน โลชั่น หลังจากโกนขนเสร็จ หากเป็นไปได้อาจเปลี่ยนวิธีเป็นการแว๊กซ์หรือเลเซอร์กำจัดขนแทน
- ขัดผิวด้วยการสครับเบา ๆ เพื่อขจัดเซลล์ผิวเก่าออก อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
- เลือกสวมเสื้อผ้าที่ไม่รัดแน่นบริเวณรักแร้ เพื่อลดการเสียดสีกับเนื้อผ้า ที่อาจส่งผลให้ผิวหนังระคายเคืองและมีสีที่คล้ำขึ้น
- เลือกผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ครีม และโลชั่น ที่ปราศจจากน้ำหอมหรือสารก่อภูมิแพ้ อาจใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เช่น เบกกิ้งโซดา แอปเปิ้ลไซเดอร์ สารส้ม
- มาส์กใต้วงแขนด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ ได้แก่
- ขมิ้นและมะนาว โดยการนำผงขมิ้นมาผสมกับน้ำมะนาวสดในปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ จากนั้นคนให้ส่วนผสมเข้ากัน พอกบริเวณรักแร้ไว้ 30 นาทีและล้างออก
- น้ำมันฝรั่ง นำมันฝรั่งไปปั่นหรือสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ จากนั้นนำไปเค้นเอาน้ำมันฝรั่งออก และนำน้ำที่ได้มาทาบริเวณรักแร้ ทิ้งไว้ 10 นาที และล้างน้ำออกด้วยน้ำเย็น
- น้ำมันมะพร้าว ทาบริเวณรักแร้ 2-3 หยด และนวดเป็นเวลา 15 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่นและสบู่ ควรทำประมาณ 2-3 ครั้ง/สัปดาห์
- น้ำมันทีทรี (Tea Tree Oil) นำน้ำมันทีทรี 5 หยด ผสมกับน้ำเปล่า 8 ออนซ์ และเทลงในขวดสเปรย์ ฉีดที่บริเวณรักแร้หลังอาบน้ำและปล่อยให้แห้ง ควรเช็ดบริเวณรักแร้ให้แห้งสนิทก่อนฉีด