สาเหตุที่ทำให้เกิดรอยแผลเป็น
รอยแผลเป็นเกิดจากการที่เนื้อเยื่อผิวได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ และร่องรอยของโรค เช่น แผลเป็นจากสิว อีสุกอีใส แผลไฟไหม้ รอยถลอก หรืออาจเกิดหลังการผ่าตัด ร่างกายจึงสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่มีคุณสมบัติไม่เหมือนเดิมขึ้นมา เพื่อซ่อมแซมและสมานแผลทดแทนเซลล์ผิวเก่า จึงอาจส่งผลให้เกิดแผลเป็น
ประเภทของรอยแผลเป็น
ประเภทของรอยแผลเป็น มีดังนี้
- แผลเป็นหดรั้ง (Contracture Scar) คือแผลเป็นที่เกิดขึ้นเมื่อผิวหนังได้รับความเสียหายในวงกว้าง ส่วนใหญ่เป็นแผลจากไฟไหม้ ทำให้ผิวหนังมีการหดตัว ผิวหนังตึง ผิดรูป และเสียหายลึกลงถึงกล้ามเนื้อและเส้นประสาท ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวได้
- แผลเป็นคีลอยด์ (Keloid scars) คือแผลเป็นที่มีลักษณะนูน หนา และมีขนาดใหญ่กว่าบาดแผล ซึ่งเป็นผลมาจากกระบวนการสมานแผลที่ทำให้เนื้อเยื่อเจริญเติบโตผิดปกติ แผลเป็นคีลอยด์อาจรักษาได้ด้วยการผ่าตัด การฉีดสเตียรอยด์ หรือการแช่แข็งด้วยไนโตรเจนเหลว
- แผลเป็นนูน (Hypertrophic scar) เป็นแผลเป็นนูนที่คล้ายกับคีลอยด์ แต่จะไม่ใหญ่เกินขอบเขตของบาดแผลที่เป็น อาจรักษาได้ด้วยการผ่าตัด การฉีดสเตียรอยด์ หรือการแช่แข็งด้วยไนโตรเจนเหลวเช่นกัน
- แผลเป็นจากสิว หรือหลุมสิว (Acne scars) สิวอักเสบ สิวหัวช้าง หรือสิวหัวหนองขนาดใหญ่อาจส่งผลให้เกิดการอักเสบที่รุนแรง และส่งผลให้เกิดรอยแผลเป็นหรือหลุมสิวได้หลังจากสิวหาย ซึ่งแผลเป็นจากสิวอาจมีลักษณะแตกต่างกันออกไป เช่น หลุมลึก หลุมกว้าง หรืออาจทิ้งรอยดำไว้บนผิว
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย