เส้นเลือดหัวใจสลับขั้ว (Transposition of the great arteries) เป็นความผิดปกติของหัวใจแต่กำเนิดที่หาได้ยาก อาการนี้เกิดขึ้นเมื่อหลอดเลือดหัวใจหลักสองเส้นที่นำเลือดออกจากหัวใจเกิดการสลับขั้วกัน
คำจำกัดความ
เส้นเลือดหัวใจสลับขั้ว คืออะไร
เส้นเลือดหัวใจสลับขั้ว (Transposition of the great arteries) เป็นความผิดปกติของหัวใจแต่กำเนิดที่หาได้ยาก อาการนี้เกิดขึ้นเมื่อหลอดเลือดหัวใจหลักสองเส้นที่นำเลือดออกจากหัวใจเกิดการสลับขั้วกัน
การสลับขั้วของเส้นเลือดหัวใจหลัก เปลี่ยนทางไหลเวียนเลือดทั่วร่างกาย ทำให้ขาดออกซิเจนในเลือดที่ไหลจากหัวใจไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย เมื่อร่างกายขาดเลือดที่มีปริมาณออกซิเจนมากพอ ร่างกายจะไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ และอาจมีโรคแทรกซ้อนรุนแรง หรือเสียชีวิตโดยไม่ได้รับการรักษา
เส้นเลือดหัวใจสลับขั้วมักจะตรวจพบก่อนคลอด หรือภายในไม่กี่ชั่วโมงแรกจนถึงหลายสัปดาห์หลังจากทารกมีชีวิต
เส้นเลือดหัวใจสลับขั้วเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน
เส้นเลือดหัวใจสลับขั้วถือเป็นความผิดปกติของหัวใจแต่กำเนิด ที่เกิดขึ้นทั่วไปมากที่สุดเป็นลำดับที่ 2 และทำให้เกิดปัญหาในทารกแรกเกิด โรคนี้เกิดขึ้นประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ของความผิดปกติของหัวใจที่เกิดขึ้นแต่กำเนิดทั้งหมด โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
อาการ
อาการของเส้นเลือดหัวใจสลับขั้ว
อาการทั่วไปของเส้นเลือดหัวใจสลับขั้ว ได้แก่
- ผิวเขียวคล้ำ
- หายใจถี่
- เบื่ออาหาร
อาจมีอาการที่ไม่ได้ระบุถึงข้างต้น หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการ โปรดปรึกษาแพทย์
เมื่อไหร่ที่ควรพบหมอ
เส้นเลือดหัวใจสลับขั้วมักจะตรวจพบทันทีที่ทารกเกิด หรือระหว่างสัปดาห์แรกของการมีชีวิต
หากสัญญาณหรืออาการไม่ได้เกิดขึ้นในโรงพยาบาล โทรศัพท์หาแผนกฉุกเฉิน หากคุณสังเกตว่าทารกมีผิวเขียวคล้ำ โดยเฉพาะที่ใบหน้าและลำตัว
สาเหตุ
สาเหตุของเส้นเลือดหัวใจสลับขั้ว
เซลล์จะพัฒนาเป็นหัวใจระหว่าง 8 สัปดาห์แรกในช่วงพัฒนาการของทารก ปัญหาจะเกิดขึ้นในช่วงกึ่งกลางของเวลานี้ ทำให้เส้นเลือดเอออร์ตา (Aorta artery) และเส้นเลือดพัลโมนารี (Pulmonary artery) ติดกับห้องหัวใจผิดห้อง
ความผิดปกติของหัวใจแต่กำเนิด อาจมีความเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม ที่ทำให้บางครอบครัวมีปัญหาหัวใจมากกว่าครอบครัวอื่น ส่วนมากแล้วความผิดปกติของหัวใจชนิดนี้จะเกิดขึ้นโดยบังเอิญ และไม่มีเหตุผลที่แน่ชัดของการเกิดขึ้น
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยเสี่ยงของเส้นเลือดหัวใจสลับขั้ว
ปัจจัยเสี่ยงหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดเส้นเลือดหัวใจสลับขั้ว เช่น
- มารดามีประวัติป่วยเป็นหัดเยอรมัน (Rubella) หรือการติดเชื้อไวรัสชนิดอื่นระหว่างตั้งครรภ์
- การได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอระหว่างตั้งครรภ์
- ดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างตั้งครรภ์
- มารดามีอายุมากกว่า 40 ปี
- มารดาเป็นโรคเบาหวานที่ควบคุมได้ยาก
- ทารกเป็นดาวน์ซินโดรม
การวินิจฉัยและการรักษาโรค
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัยอาการเส้นเลือดหัวใจสลับขั้ว
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจในเด็ก (Pediatric cardiologist) และ/หรือกุมารแพทย์จะช่วยดูแลทารกของคุณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจในเด็ก เป็นผู้เชี่ยวชาญการวินิจฉัยและการรักษาความผิดปกติของหัวใจแต่กำเนิด เช่นเดียวกับปัญหาหัวใจอื่นที่อาจเกิดขึ้นหลังจากพ้นช่วงวัยเยาว์ ส่วนกุมารแพทย์เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคที่ส่งผลต่อทารกแรกเกิด ทั้งที่คลอดก่อนกำหนดและคลอดครบกำหนด
ผิวเขียวคล้ำเป็นสิ่งบ่งชี้หลักว่า มีปัญหาเกิดขึ้นกับทารกแรกเกิด แพทย์ที่ดูแลเด็กอาจได้ยินฟู่จากเลือดที่ไหลผ่านหัวใจ (Heart murmur) ระหว่างการตรวจร่างกาย ในกรณีนี้ เสียงดังกล่าวเกิดจากการไหลเป็นจำนวนมากของเลือด ที่ไหลเวียนผ่านช่องที่เปิดอยู่ ทำให้เลือดไหลมารวมกัน เนื่องจากโรคบางชนิดอย่างเช่นโรคผนังกั้นหัวใจห้องล่างรั่ว (Ventricular septal defect) หรือภาวะหลอดเลือดไม่ปิดหลังคลอด (Patent ductus arteriosus)
วิธีวินิจฉัยโรคหัวใจแต่กำเนิดต่างกันตามอายุของเด็ก การตรวจในคลินิกและแล้วแต่ดุลยพินิจของแพทย์ แนะนำให้การทดสอบบางชนิด รวมถึง
- การเอ็กซเรย์หน้าอก การวินิจฉัยที่ใช้รังสีเอ็กซเรย์ที่มองไม่เห็นจะสร้างภาพของเนื้อเยื่อ กระดูกและอวัยวะภายในบนแผ่นฟิล์ม
- การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) การตรวจนี้จะบันทึกสัญญาณไฟฟ้าของหัวใจ แสดงให้เห็นถึงจังหวะที่ผิดปกติ (Arrhythmias) และตรวจพบความตึงเครียดของกล้ามเนื้อหัวใจที่
- การบันทึกภาพหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (echo) วิธีนี้จะประเมินโครงสร้างและการทำงานของหัวใจโดยใช้คลื่นเสียงที่บันทึกบนเซนเซอร์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสร้างภาพเคลื่อนไหวของหัวใจและลิ้นหัวใจ
- การสวนหัวใจและหลอดเลือด การสวนหัวใจและหลอดเลือดเป็นวิธีที่ต้องรุกล้ำเข้าไปในในร่างกาย และทำให้ได้ข้อมูลที่ละเอียดเกี่ยวกับโครงสร้างภายในหัวใจ ระหว่างที่ยาสลบออกฤทธิ์ แพทย์จะใส่ท่อที่เล็ก บางและยืดหยุ่นได้หรือที่เรียกว่าสายสวน (catheter) เข้าไปในเส้นเลือดที่ขาหนีบ และนำไปสู่ภายในหัวใจ การวัดความดันเลือดและออกซิเจน จะทำในห้องหัวใจทั้งสี่ห้อง เช่นเดียวกับหลอดเลือดพัลโมนารีอละเอออร์ตา แพทย์จะฉีดสีย้อมที่มีสีตัดกัน เพื่อให้เห็นภาพโครงสร้างภายในหัวใจชัดเจนยิ่งขึ้น
การรักษาเส้นเลือดหัวใจสลับขั้ว
ทารกทั้งหมดที่มีอาการเส้นเลือดหัวใจสลับขั้วจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อแก้ไขอาการผิดปกติดังกล่าว
ก่อนการผ่าตัด
แพทย์ที่ดูแลทารกอาจแนะนำให้ใช้วิธีที่หลากหลายเพื่อช่วยจัดการโรค ก่อนทำการผ่าตัดเพื่อรักษาความผิดปกติ วิธีเหล่านั้นรวมถึง
- ยาโพรสตาแกลนดินชนิดอีหนึ่ง (Prostaglandin E1) หรือที่เรียกว่ายาอัลโพรสตาดิล (Alprostadil) จะช่วยให้ทางที่เชื่อมระหว่างเอออร์ตาและพัลโมนารีหรือหลอดเลือดแดงดักตัสอาเทอร์ริโอซัส (Ductus arteriosus) เปิดออก และเพิ่มการไหลเวียนเลือด และทำให้การผสมกันระหว่างเลือดที่มีออกซิเจนสูงกับต่ำดีขึ้น จนกระทั่งถึงเวลาทำการผ่าตัด
- การตัดผนังกั้นห้องหัวใจด้านบน (Atrial septostomy) วิธีนี้มักจะทำพร้อมกับการสวนหัวใจและหลอดเลือด เพื่อเพิ่มขนาดของทางเชื่อมตามธรรมชาติ ระหว่างห้องหัวใจด้านบนหรือเอเตรีย (atria) ทำให้มีการผสมกันระหว่างเลือดที่มีออกซิเจนสูงและต่ำ ส่งผลให้การลำเลียงออกซิเจนในร่างกายทารกดีขึ้น
การผ่าตัด
ทางเลือกของการผ่าตัดรวมถึง
- การผ่าตัดย้ายเส้นเลือดหัวใจอาร์เทอรี (Arterial switch operation) เป็นการผ่าตัดโดยทั่วไปที่ใช้เพื่อแก้ไขเส้นเลือดหัวใจสลับขั้ว ศัลยแพทย์จะผ่าตัดภายในสัปดาห์แรกของการมีชีวิต ระหว่างการผ่าตัด เส้นเลือดพัลโมนารีและเอออร์ตาจะย้ายไปอยู่ในตำแหน่งปกติ เส้นเลือดพัลโมนารีอยู่ติดกับหัวใจห้องล่างด้านขวา ส่วนเส้นเลือดเอออร์ตาจะติดกับหัวใจห้องล่างด้านซ้าย เส้นเลือดหัวใจจะถูกนำไปติดกับเส้นเลือดเอออร์ตาอีกครั้ง หากทารกเป็นโรคผนังกั้นหัวใจห้องล่างหรือห้องบนรั่ว รอยรั่วจะถูกปิดระหว่างการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี แพทย์อาจปล่อยให้รอยรั่วเล็กๆ ที่ผนังกั้นหัวใจห้องล่างสมานด้วยตนเอง
- การผ่าตัดย้ายเส้นเลือดหัวใจเอเทรียล (Atrial switch operation) ในการผ่าตัดนี้ ศัลยแพทย์จะสร้างอุโมงค์หรือแผ่นกั้น (Baffle) ระหว่างหัวใจห้องบนสองห้องหรือเอเตรีย นี่จะช่วยเปลี่ยนให้เลือดที่มีออกซิเจนต่ำ ไปยังหัวใจห้องล่างซ้ายและเส้นเลือดพัลโมนารี ส่วนเลือดที่มีออกซิเจนสูงไปยังหัวใจห้องล่างขวาและเส้นเลือดเอออร์ตา ด้วยกระบวนการนี้ หัวใจห้องล่างขวาต้องสูบฉีดเลือดไปยังร่างกาย แทนที่จะเป็นปอดเหมือนกับหัวใจโดยปกติ โรคแทรกซ้อนที่เป็นไปได้ของการผ่าตัดวิธีนี้ รวมถึงหัวใจเต้นผิดจังหวะ แผ่นกั้นอุดตันหรือรั่ว และหัวใจวาย เนื่องจากปัญหาการทำงานของหัวใจห้องล่างขวาในระยะยาว
หลังการผ่าตัด
หลังจากผ่าตัดเพื่อทำให้คืนสภาพปกติ ทารกอาจจำเป็นต้องได้รับการติดตามผลตลอดชีวิต กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจที่เชี่ยวชาญเรื่องโรคหัวใจแต่กำเนิด เพื่อตรวจสุขภาพหัวใจ แพทย์อาจแนะนำให้เด็กหลีกเลี่ยงกิจกรรมบางอย่างเช่น ยกน้ำหนัก เนื่องจากอาจทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น และสร้างแรงตึงเครียดให้กับหัวใจ
คุยกับแพทย์เกี่ยวกับประเภทของกิจกรรมที่เด็กสามารถทำได้ รวมถึงความหนักและความถี่ของกิจกรรม
หลายคนที่เข้ารับการผ่าตัดย้ายเส้นเลือดหัวใจอาร์เทอรี่ ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดเพิ่ม อย่างไรก็ตาม โรคแทรกซ้อนบางชนิดอย่างหัวใจเต้นผิดจังหวะ ลิ้นหัวใจรั่ว หรือปัญหาการสูบฉีดเลือดของหัวใจ อาจจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาเพิ่มเติม
การตั้งครรภ์
หากคุณจำเป็นต้องรักษาอาการเส้นเลือดหัวใจสลับขั้วระหว่างที่ตั้งครรภ์ การรักษาจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อทารกในครรภ์มีสุขภาพดี แต่การดูแลเป็นพิเศษอาจเป็นเรื่องจำเป็น หากคุณคิดว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ โปรดปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและสูตินรีแพทย์ก่อนตัดสินใจ
หากคุณมีโรคแทรกซ้อนอย่างหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือโรคกล้ามเนื้อหัวใจที่รุนแรง การตั้งครรภ์อาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อ ทั้งคุณและทารกในครรภ์ ในบางสถานการณ์ เช่น สำหรับผู้หญิงที่มีโรคแทรกซ้อนเกี่ยวกับความผิดปกติของหัวใจที่รุนแรง ไม่แนะนำให้ตั้งครรภ์ แม้กระทั่งผู้ที่ได้รับการรักษาแล้ว
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตนเอง
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตนเองที่จะช่วยจัดการกับอาการเส้นเลือดหัวใจสลับขั้ว
ไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตนเองต่อไปนี้ อาจช่วยให้คุณจัดการกับอาการเส้นเลือดหัวใจสลับขั้ว
- หาความช่วยเหลือ หาความช่วยเหลือจากสมาชิกในครอบครัวและเพื่อน คุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจของทารกเกี่ยวกับกลุ่มสนับสนุนหรือความช่วยเหลืออื่นที่มีอยู่ใกล้คุณ
- บันทึกประวัติสุขภาพของทารก คุณอาจต้องการที่จะจดการวินิจฉัย ยา การผ่าตัดหรือวิธีอื่น รวมถึงวันที่ทำสิ่งเหล่านี้ ชื่อของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจที่ดูแลทารกของคุณและหมายเลขโทรศัพท์และข้อมูลอื่นๆ ที่สำคัญเกี่ยวกับการรักษาทารก การบันทึกจะช่วยให้คุณจดจำการรักษาที่ทารกได้รับ และมีประโยชน์ต่อแพทย์ที่ไม่ได้คุ้นเคยกับทารก เพื่อให้เข้าใจประวัติสุขภาพของทารก
- ปรึกษาเกี่ยวกับความกังวล คุณอาจกังวลถึงความเสี่ยงของกิจกรรมที่ใช้แรง แม้กระทั่งหลังจากทารกได้รับการผ่าตัดรักษา ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจเกี่ยวกับกิจกรรมที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก หากบางกิจกรรมไม่สามารถทำได้ ให้กำลังเด็กให้ทำกิจกรรมอื่นแทนที่จะสนใจกับสิ่งที่ทำไม่ได้ หากคุณมีความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพทารก โปรดปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจที่รักษาบุตรของคุณ
แม้ว่าทุกสถานการณ์จะแตกต่างกัน จำไว้ว่าเนื่องจากความก้าวหน้าทางการรักษาด้วยการผ่าตัด เด็กที่มีเส้นเลือดหัวใจสลับขั้นจะเติบโตมาและใช้ชีวิตอย่างคล่องแคล่วได้
หากคุณมีคำถามเพิ่มเติม โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อให้ได้ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
[embed-health-tool-heart-rate]