
ปอดอักเสบ เป็นปฏิกิริยาการแพ้ประเภทหนึ่ง เกิดขึ้นเมื่อสารชนิดหนึ่งๆ เช่น เชื้อราหรือแบคทีเรียทำให้ถุงลมในปอดระคายเคือง สามารถรักษาได้ อย่างไรก็ดี ปอดอักเสบสามารถทำให้เกิดพังผืดหรือความเสียหายที่ปอดอย่างถาวร หากไม่สามารถตรวจเจอได้เร็วพอ
คำจำกัดความ
ปอดอักเสบ คืออะไร
ปอดอักเสบ (Pneumonitis) เป็นปฏิกิริยาการแพ้ประเภทหนึ่ง เกิดขึ้นเมื่อสารชนิดหนึ่งๆ เช่น เชื้อราหรือแบคทีเรียทำให้ถุงลมในปอดระคายเคือง ผู้ที่มีอาการไวต่อสารเหล่านี้โดยเฉพาะจะมีอาการแพ้เกิดขึ้น
ปอดอักเสบสามารถรักษาได้ อย่างไรก็ดี ปอดอักเสบสามารถทำให้เกิดพังผืดหรือความเสียหายที่ปอดอย่างถาวร หากไม่สามารถตรวจเจอได้เร็วพอ
พบได้บ่อยเพียงใด
โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
อาการ
อาการของปอดอักเสบ
ปอดอักเสบเฉียบพลันมักเกิดขึ้นภายในสี่ถึงหกชั่วโมง หลังหายใจรับสารระคายเคืองเข้าไป คุณอาจรู้สึกเหมือนว่าคุณเป็นไข้หวัดใหญ่ หรือมีอาการเจ็บป่วยเกี่ยวกับทางเดินหายใจอื่นๆ โดยมีอาการอย่างเช่น
- มีไข้
- หนาวสั่น
- ปวดกล้ามเนื้อหรือข้อต่อ
- ปวดศีรษะ
หากคุณไม่ได้สัมผัสสารระคายเคืองอีก อาการควรหายไปภายในสองถึงสามวัน หากคุณยังคงได้รับสารระคายเคือง คุณอาจเป็นปอดอักเสบเรื้อรัง ซึ่งเป็นโรคในระยะยาว ผู้ป่วยปอดอักเสบประมาณร้อยละ 5 จะเป็นปอดอักเสบเรื้อรัง
อาการต่างๆ ของปอดอักเสบเรื้อรัง ได้แก่
- ไอแห้ง
- แน่นหน้าอก
- รู้สึกเหนื่อย
- ไม่มีความอยากอาหาร
- น้ำหนักลดลงโดยไม่ตั้งใจ
อาจมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการบางประการที่ไม่ได้กล่าวถึงข้างต้น หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการ โปรดปรึกษาแพทย์
ควรไปพบหมอเมื่อใด
หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใดๆ ตามที่ระบุข้างต้น หรือมีข้อคำถามใดๆ โปรดปรึกษาแพทย์ ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ
สาเหตุ
สาเหตุของปอดอักเสบ
คุณสามารถเป็นปอดอักเสบได้ เมื่อสารต่างๆ ที่หายใจเข้าไปทำให้ถุงลมขนาดเล็ก ที่เรียกว่า alveoli ในปอดมีอาการระคายเคือง เมื่อคุณรับสารเหล่านี้เข้าไป ระบบภูมิคุ้มกันมีปฏิกิริยาตอบสนองด้วยการทำให้เกิดอาการอักเสบ ถุงลมในปอดเต็มไปด้วยเซลล์เม็ดเลือดขาวและในบางครั้งมีของเหลวด้วย อาการอักเสบทำให้ออกซิเจนลำเลียงผ่านถุงลมปอดไปยังกระแสเลือดได้ยากขึ้น
สารต่างๆ ที่สามารถกระตุ้นให้เกิดปอดอักเสบ ได้แก่
- รา
- แบคทีเรีย
- เชื้อรา
- สารเคมีต่างๆ
คุณจะพบสารเหล่านี้ได้ใน
- ขนสัตว์
- ขนหรือมูลนก
- เนยแข็ง องุ่น ข้าวบาร์เลย์ และอาหารอื่นๆ ที่ปนเปื้อน
- ฝุ่นจากไม้
- อ่างน้ำร้อน
- เครื่องทำความชื้น
สาเหตุอื่นๆ ของปอดอักเสบ ได้แก่
- ยาบางชนิด ซึ่งได้แก่ ยาปฏิชีวนะบางชนิด ยาเคมีบำบัด และยารักษาเกี่ยวกับการเต้นของหัวใจ (heart rhythm medicines)
- รังสีรักษาที่หน้าอก
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยเสี่ยงของปอดอักเสบ
คุณมีความเสี่ยงมากขึ้นในการเกิดปอดอักเสบ หากทำงานที่ต้องสัมผัสฝุ่นละอองที่มีสารระคายเคืองต่างๆ ตัวอย่างเช่น ชาวนามักสัมผัสเมล็ดธัญพืช ฟางข้าว และหญ้าแห้งที่มีรา จากการที่โรคปอดอักเสบส่งผลต่อชาวนา ในบางครั้งจึงมีการเรียกว่าโรคปอดชาวนา (farmer’s lung)
ความเสี่ยงอีกประการหนึ่งคือการสัมผัสเชื้อราที่สามารถเติบโตได้ในอ่างน้ำร้อน เครื่องทำความชื้น เครื่องปรับอากาศ และระบบทำความร้อน
ผู้ที่ประกอบอาชีพดังต่อไปนี้ ยังมีความเสี่ยงในการเป็นปอดอักเสบอีกด้วย
- ผู้เลี้ยงนกและสัตว์ปีก
- ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับสัตว์
- ผู้ผสมพันธุ์สัตว์
- ผู้แปรรูปธัญพืชและแป้ง
- ผู้ที่ทำงานเลื่อยไม้
- ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับไม้
- ผู้ผลิตไวน์
- ผู้ผลิตพลาสติก
- ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์
ถึงแม้ว่าคุณไม่ได้ทำงานในด้านดังกล่าวนี้ คุณสามารถสัมผัสเชื้อราและสารกระตุ้นอื่นๆ ในบ้านได้
การสัมผัสสารเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่า คุณจะเป็นปอดอักเสบได้อย่างแน่นอน และคนส่วนใหญ่ที่ได้รับสารเหล่านี้ ก็อาจไม่เป็นปอดอักเสบได้เช่นกัน
ยีนมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นปฏิกิริยาของคุณ ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นปอดอักเสบ มีโอกาสมากกว่าที่จะเป็นปอดอักเสบได้
คุณสามารถเป็นปอดอักเสบเมื่อมีอายุเท่าใดก็ได้ ซึ่งรวมทั้งในวัยเด็กอีกด้วย อย่างไรก็ดี มักวินิฉัยได้มากที่สุดในช่วงอายุ 50 ถึง 55 ปี
การรักษามะเร็งยังสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นปอดอักเสบได้อกด้วย ผู้ที่ใช้ยาเคมีบำบัดบางชนิดหรือได้รับรังสีรักษาที่หน้าอกมีความเสี่ยงมากกว่า
การวินิจฉัยและการรักษา
ข้อมูลที่นำเสนอในที่นี้ ไม่สามารถใช้แทนข้อแนะนำทางการแพทย์ ให้ปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัยโรคปอดอักเสบ
เพื่อวินิจฉัยว่าคุณเป็นปอดอักเสบหรือไม่ ให้ไปปรึกษาแพทย์รักษาปฐมภูมิหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านปอด (Pulmonologist) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านปอดเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่รักษาโรคเกี่ยวกับปอด แพทย์จะสอบถามว่าคุณอาจได้สัมผัสสารใดที่ทำงานหรือที่บ้าน แล้วแพทย์จะทำการตรวจร่างกาย
ในระหว่างการตรวจร่างกาย แพทย์จะฟังเสียงปอดด้วยเครื่องมือฟังเสียง (stethoscope) แพทย์อาจได้ยินเสียงแคร็กหรือเสียงผิดปกติอื่นๆ ในปอด
คุณอาจเข้ารับการตรวจเหล่านี้หนึ่งประการหรือมากกว่า เพื่อวินิจฉัยว่าคุณเป็นปอดอักเสบหรือไม่
- การตรวจออกซิเจน (Oximetry) ใช้เครื่องมือวางลงบนนิ้วมือเพื่อวัดปริมาณออกซิเจนในเลือด
- การตรวจเลือด สามารถตรวจหาแอนติบอดีในเลือดที่ต่อต้านฝุ่น เชื้อรา หรือสารอื่นๆ นอกจากนี้ การตรวจเลือดยังสามารถแสดงให้เห็นว่าคุณมีปฏิกิริยาต่อระบบภูมิคุ้มกันหรือไม่
- การตรวจเอกซเรย์หน้าอกสร้างภาพถ่ายของปอดเพื่อช่วยให้แพทย์ตรวจหพังผืดหรือความเสียหายได้
- การตรวจด้วยคอมพิวเตอร์ (CT scan) สร้างภาพถ่ายของปอดจากมุมต่างๆ สามารถแสดงให้เห็นความเสียหายต่อปอดที่มีความละเอียดมากกว่าการตรวจเอกซเรย์
- การตรวจสมรรถภาพปอดจากอากาศที่หายใจ (Spirometry) เป็นการวัดแรงดันอากาศในขณะที่หายใจเข้าและหายใจออก
- การส่องกล้องตรวจปอด (Bronchoscopy) เป็นการใส่ท่อขนาดเล็กและยืดหยุ่นได้ ที่ติดตั้งกล้องที่ปลายข้างหนึ่ง เข้าไปในปอดเพื่อนำเซลล์ออกมาตรวจ นอกจากนี้ แพทย์ยังอาจใช้น้ำเพื่อชะล้างเซลล์ออกจากปอด เรียกว่า การล้างอวัยวะ (lavage)
- การตรวจตัวอย่างเนื้อเยื่อปอด (Lung biopsy) เป็นกระบวนการนำตัวอย่างเนื้อเยื่อออกจากปอด มีการดำเนินการในขณะที่ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัวจากยาสลบ ตัวอย่างเนื้อเยื่อจะนำไปตรวจหาสัญญาณเตือนของการเกิดพังผืดและการอักเสบ
การรักษาโรคปอดอักเสบ
วิธีที่ดีที่สุดในการบรรเทาอาการคือการหลีกเลี่ยงสารที่กระตุ้นการเกิดปอดอักเสบ หากคุณทำงานท่ามกลางฝุ่นหรือขนนก คุณอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนงานหรือสวมใส่หน้ากากกันฝุ่น
การรักษาดังต่อไปนี้สามารถบรรเทาอาการของปอดอักเสบได้ แต่ไม่ทำให้หายขาด
- ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids): ยาเพรดนิโซน (Prednisone) (Rayos) และยาสเตียรอยด์ (steroid drugs) อื่นๆ บรรเทาอาการอักเสบในปอด ผลข้างเคียง ได้แก่ น้ำหนักเพิ่มขึ้นและมีความเสี่ยงสูงขึ้นในการติดเชื้อ ต้อกระจก (cataracts) และกระดูกเสื่อม (osteoporosis)
- การรักษาด้วยออกซิเจน (Oxygen therapy): หากคุณหายใจลำบากมาก คุณสามารถหายใจรับออกซิเจนผ่านทางหน้ากากหรือท่ออากาศได้
- ยาขยายหลอดลม (Bronchodilators): ยาดังกล่าวขยายหลอดลมเพื่อช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น
หากปอดของคุณได้รับความเสียหายมากเสียจนคุณไม่สามารถหายใจได้ดี ถึงแม้จะได้รับการรักษา คุณอาจต้องเข้ารับการปลูกถ่ายปอด
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตนเอง
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตนเองที่ช่วยจัดการปอดอักเสบ
การวินิจฉัยปอดอักเสบอาจหมายความว่า คุณจะจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์เพื่อปกป้องสุขภาพของคุณ คุณจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นต่างๆ ให้มากที่สุด
ตัวอย่างเช่น หากงานของคุณทำให้คุณสัมผัสสารต่างๆ ที่ทำให้ปอดระคายเคือง ให้ปรึกษาแพทย์และผู้ควบคุมงานเกี่ยวกับวิธีปกป้องตนเอง เช่น การสวมใส่หน้ากากกันฝุ่นละออง หรือหน้ากากกันฝุ่นส่วนบุคคล หากงานอดิเรกทำให้เกิดอาการผิดปกติ คุณอาจจำเป็นต้องหางานอดิเรกอื่นๆ
หากคุณมีข้อสงสัย โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อให้เข้าใจได้ดีขึ้นถึงวิธีการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด