backup og meta

การกระทบกระเทือนทางศีรษะ (Concussion)

การกระทบกระเทือนทางศีรษะ (Concussion)

การกระทบกระเทือนทางศีรษะ (Concussion)  คือ การได้รับการกระทบกระเทือนที่ส่งผลต่อศีรษะของคุณโดยตรง  ทำให้บริเวณนั้นเกิดการอักเสบ ฟกช้ำ ส่งผลให้ผู้ป่วย มีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้และอาเจียน มองเห็นภาพซ้อน สูญเสียความทรงจำ  โดยการักษานั้นจะขึ้นอยู่กับสาเหตุและอาการของแต่ละบุคคล

 

การกระทบกระเทือนทางศีรษะ คืออะไร

การกระทบกระเทือนทางศีรษะ (Concussion) คืออะไร

การกระทบกระเทือนทางศีรษะ (Concussion)  คือ การได้รับการกระทบกระเทือนที่ส่งผลต่อศีรษะของคุณโดยตรง  ทำให้บริเวณนั้นเกิดการอักเสบ ฟกช้ำ ส่งผลให้ผู้ป่วย มีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้และอาเจียน มองเห็นภาพซ้อน สูญเสียความทรงจำ  โดยการักษานั้นจะขึ้นอยู่กับสาเหตุและอาการของแต่ละบุคคล

ถือเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายบาดเจ็บแล้ว ยังสามารถส่งผลไปยังสมอง จนถึงขั้นอาจทำให้เสียชีวิตได้

พบได้บ่อยเพียงใด

สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย  โดยเฉพาะในวันทารกและวัยเด็ก

อาการ

อาการกระทบกระเทือนทางศีรษะ

สัญญาณและอาการของการกระทบกระเทือนมีอยู่หลายประเภท ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของบาดแผล และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ

ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ได้รับการกระทบกระเทือนทางศีรษะจะส่งผลต่อทั้งทางด้านร่างกายและสภาพจิตใจ โดยมีอาการดังต่อไปนี้

  • สูญเสียความทรงจำ
  • สับสน มึนงง
  • ซึม หรือ อาการซึมเศร้า
  • วิงเวียนศรีษะ  ปวดศีรษะ
  • เห็นภาพซ้อน
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • ปัญหาด้านความสมดุล
  • ปฏิกิริยาตอบโต้ต่อสิ่งเร้าช้ากว่าปกติ

ช่วงระยะเวลาที่กำลังพักฟื้นหลังจากได้รับการกระทบกระเทือนศีรษะนั้น คุณอาจมีอาการดังต่อไปนี้

  • หงุดหงิด
  • อ่อนไหวต่อแสงและเสียงดัง
  • ไม่มีสมาธิ
  • ปวดศีรษะ

ควรไปพบหมอเมื่อใด

หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใด ๆ ตามที่ระบุข้างต้น หรือมีคำถาม โปรดปรึกษาแพทย์ ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ

สาเหตุ

สาเหตุของการกระทบกระเทือนทางศีรษะ

สาเหตุส่วนใหญ่ของการถูกกระทบกระเทือนทางศีรษะเกิดจากหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น การได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์  การถูกทำร้ายร่างกาย

ปัจจัยเสี่ยงของการกระทบกระเทือนทางศีรษะ

มีหลายปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อสุขภาพร่างกายของเรา อย่างเช่น

  • การเล่นกีฬาที่มีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะหากมีอุปกรณ์ในการเล่นที่ไม่ปลอดภัย
  • อยู่ในสถานการณ์เกิดอุบัติเหตุทางเท้าหรือจักรยาน
  • เป็นทหารอยู่ในสนามรบ
  • ตกเป็นเหยื่อในการทารุณกรรมทางร่างกาย
  • หกล้ม หรือถูกกระแทก เกิดขึ้นได้ในเด็กและผู้สูงอายุ
  • เคยถูกกระแทกมาแล้วก่อนหน้านี้

การวินิจฉัยและการรักษา

ข้อมูลที่ได้รับไปนั้นไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ ควรไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรงจะดีกว่า

การวินิจฉัยการกระทบกระเทือนทางศีรษะ

ในเบื้องต้นแพทย์จะทำการสอบถามประวัติและประเมินอาการ นอกจากนี้ยังทำการทดสอบอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น

  • การซีทีแสกน  (Computerized Tomography Scan : CT Scan) เพื่อตรวจสอบความผิดปกติบริเวณสมองอย่างละเอียด
  • การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic ResonanceImaging : MRI) เพื่อวินิจฉัยภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นหลังจากการถูกกระทบกระแทก

การรักษาการกระทบกระเทือนทางศีรษะ

การรักษาจะขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละคน หากผู้ป่วยมีเลือดออกในสมอง อาการสมองบวม หรือได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แพทย์จะทำการผ่าตัด

ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลแพทย์อาจแนะนำให้รับประทานยาบรรเทาอาการปวด เช่น แอสไพริน (Aspirin) หากมีอาการแย่ลงควรมาพบแพทย์ภายใน 24-72 ชั่วโมง

การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตัวเอง

การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตัวเองเพื่อรักษาการกระทบกระเทือนทางศีรษะ

การป้องกันการลดการกระเทือนทางศีรษะสามารถลดความเสี่ยงได้โดยปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังต่อไปนี้

  • ตรวจสอบให้มั่นใจก่อนว่า หมวกกันน็อค หรือชุดที่สวมใส่นั้น มีความเหมาะสมกับกิจกรรม
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกีฬา เพื่อเทคนิคการเล่นกีฬาอย่างปลอดภัย

[embed-health-tool-bmi]

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Concussion. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/concussion/basics/treatment/con-20019272. Accessed December 27, 2016.

Concussion. http://www.webmd.com/brain/tc/traumatic-brain-injury-concussion-overview#3. Accessed December 27, 2016.

Concussion. http://www.healthline.com/health/concussion. Accessed December 27, 2016.

What Should You Do If You Think You Have Had a Concussion? http://www.brainline.org/content/2012/06/what-should-you-do-if-you-think-you-have-had-a-concussion.html. Accessed June 29, 2017.

เวอร์ชันปัจจุบัน

19/06/2020

เขียนโดย วรภพ ไกยเดช

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ

อัปเดตโดย: จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์


บทความที่เกี่ยวข้อง

เผยความลับ! สร้างความแข็งแรงให้กระดูก ง่ายนิดเดียว!

เคล็ดลับกระดูกสมานเร็วขึ้น ควรปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อกระดูกหัก


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย วรภพ ไกยเดช · แก้ไขล่าสุด 19/06/2020

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา