การดูดไขมัน
วัยรุ่นในปัจจุบันนิยมรูปร่างผอมเพรียว แต่บางคนก็ไม่อยากออกกำลังกายหรือ ไม่อยากกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ผัก ผลไม้ ซ้ำยังชอบกินแต่อาหารไขมันสูง น้ำตาลสูง ซึ่งส่งผลให้น้ำหนักเกินและมีไขมันส่วนเกินทั่วร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณต้นขา หน้าท้อง ก้น จึงเลือกดูดไขมันเพื่อกำจัดไขมันที่ไม่ต้องการออกจากร่างกาย
นอกจากการศัลยกรรมความงามข้างต้นแล้ว วัยรุ่นยังนิยมเข้ารับการรักษาที่ผิวหนังภายนอกแบบไม่ผ่าตัด เช่น การฉีดโบท็อกซ์ การกรอผิว การเลเซอร์รักษาสิว การฉีดวิตามิน การฉีดไขมันบนใบหน้า ซึ่งแม้ความเสี่ยงจะไม่มากเท่าการเสริมความงามที่ต้องผ่าตัด แต่ก็ต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษาเช่นกัน
สิ่งที่วัยรุ่นควรคำนึง ก่อนคิดทำศัลยกรรม
ก่อนจะตัดสินใจทำศัลยกรรมความงาม หรือศัลยกรรมพลาสติก วัยรุ่นต้องเข้าใจก่อนว่า การศัลยกรรมนั้นไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง การสำเร็จในชีวิตไม่ได้เกิดขึ้นเพราะการเปลี่ยนรูปลักษณ์เพียงอย่างเดียว แต่เราต้องพัฒนาตัวเองทั้งความสามารถและความคิดด้วย วัยรุ่นกับการศัลยกรรมไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ก่อนศัลยกรรม วัยรุ่นควรพิจารณาถึงรายละเอียดต่อไปนี้ด้วย
ความเสี่ยงในการศัลยกรรม
การผ่าตัดทุกประเภทย่อมมีความเสี่ยง ตั้งแต่ความเสี่ยงจากการใช้ยาระงับความรู้สึก เช่น ภาวะเพ้อสับสนหลังผ่าตัด ปอดบวม หัวใจวาย ไปจนถึงความยากลำบากในการดูแลแผลผ่าตัดที่มักเป็นรอยช้ำ และวัยรุ่นอาจดูแลแผลได้ไม่ดีพอ จนเกิดเป็นปัญหาลุกลาม เช่น ติดเชื้อ
อีกทั้งข้อมูลจากการศึกษาวิจัยยังเผยว่า ผู้หญิงที่ทำศัลยกรรมพลาสติกประเภทที่ต้องใส่วัสดุเข้าไปในร่างกาย เช่น เสริมจมูก เสริมหน้าอก อาจเจออาการแทรกซ้อนอย่างน้อย 1 อย่างภายในช่วง 3 ปีแรกหลังศัลยกรรม เช่น การติดเชื้อ อาการเลือดคั่ง อาการน้ำคั่งใต้ผิว เนื้อเยื่อพังผืดหดรั้ง แผลเป็นนูน ซึ่งบางครั้งอาจส่งผลเสียร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
ผลเสียจากการศัลยกรรมตั้งแต่วัยรุ่น
การศัลยกรรมพลาสติกอาจก่อให้เกิดผลเสียดังต่อไปนี้
- แผลจากการผ่าตัดมักต้องใช้เวลานานกว่าจะเลือนหรือจางไป ซึ่งหากเป็นการศัลยกรรมบริเวณใบหน้า ก็ยิ่งทำให้เห็นแผลหรือรอยช้ำเด่นชัด และอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของวัยรุ่นได้ และในบางกรณี รอยแผลเป็นก็อาจไม่เลือนหรือจางลง ซ้ำร้ายอาจเป็นแผลนูนที่เห็นเด่นชัด มีขนาดใหญ่ และมีสีออกแดงๆ เหมือนบวมช้ำอยู่ตลอด
- ในบางครั้ง การศัลยกรรมก็ไม่ได้ให้ผลลัพธ์อย่างที่ปรารถนา และอาจทำให้วัยรุ่นไม่พอใจในรูปร่างหน้าตาของตัวเองยิ่งกว่าเดิม
- การศัลยกรรมพลาสติกส่วนใหญ่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และบางครั้งราคาที่เห็นอาจยังไม่รวมค่าหัตถการทางการแพทย์ ค่าบริการโรงพยาบาล ค่ายาระงับความรู้สึก ค่าเวชภัณฑ์ ค่านอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล เป็นต้น ซึ่งเมื่อคิดรวมๆ แล้ว อาจทำให้ยอดค่าใช้จ่ายในการทำศัลยกรรมแต่ละครั้งนั้นสูงมาก
- วัยรุ่นเป็นวัยที่ร่างกายกำลังเจริญเติบโต รูปร่างและหน้าตายังสามารถเปลี่ยนแปลงได้อีก ต่อให้ทำศัลยกรรมไปแล้ว เมื่อเวลาผ่านไป วัยรุ่นก็อาจรู้สึกไม่พอใจและอยากแก้ไขรูปร่างหน้าตาตัวเองอีก และหากทำบ่อยเข้า อาจกลายเสพติดการศัลยกรรม จนทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่าย หรือเผชิญความเสี่ยงจากการศัลยกรรมไม่รู้จบ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย