SLE คือ อะไร อาการ สาเหตุ และวิธีรักษา

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย เนตรนภา ปะวะคัง


เขียนโดย นนทกร บัณฑิตสินทรัพย์ · แก้ไขล่าสุด 17/05/2022

    SLE คือ อะไร อาการ สาเหตุ และวิธีรักษา

    SLE คือ โรคแพ้ภูมิตัวเอง หรืออาจเรียกว่า “โรคพุ่มพวง” ที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันที่ทำลายเนื้อเยื่อร่างกายของตัวเอง ส่งผลให้เกิดการอักเสบที่อาจสามารถส่งผลกระทบต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น เซลล์เม็ดเลือด ข้อต่อ ผิวหนัง ไต สมอง หัวใจ ปอด โรคแพ้ภูมิตัวเองไม่มีทางรักษาให้หายขาด แต่การรักษาอาจช่วยควบคุมหรือบรรเทาอาการได้

    SLE คืออะไร

    โรค Systemic Lupus Erythematosus หรือ SLE คือ โรคแพ้ภูมิตัวเอง ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือเซลล์เม็ดเลือดขาวทำงานผิดปกติ โดยปกติแล้ว เม็ดเลือดขาวจะมีหน้าที่ในการกำจัดเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอม แต่ผู้ป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเองนั้นระบบภูมิกันกลับไปทำลายเนื้อเยื่อร่างกายของตัวเอง เนื่องจากอาจเข้าใจผิดว่าเป็นเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอม ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง และส่งผลกระทบต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ข้อต่อ ผิวหนัง ไต

    อาการของ SLE

    อาการของ SLE หรือโรคแพ้ภูมิตัวเองอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล โดยอาการที่พบได้ทั่วไป อาจมีดังนี้

    • มีไข้
    • มีแผลบริเวณเพดานปาก
    • มีผื่นสีแดงรูปผีเสื้อบริเวณจมูกและแก้ม หรือตามลำตัว
    • ปวดศีรษะ สับสน มึนงง
    • อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง
    • หายใจถี่ หรือหายใจลำบาก
    • เจ็บหน้าอก
    • ตาแห้ง
    • ผิวไวต่อแสงแดดได้ง่ายกว่าปกติ
    • ผมร่วง
    • ปวดข้อต่อ หรือข้อต่อบวม
    • ความจำเสื่อม หรือสูญเสียความทรงจำ
    • เกล็ดเลือดต่ำ ส่งผลให้ผิวซีด

    ทั้งนี้ หากมีผื่นขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ อ่อนเพลีย ปวดข้อต่อ ปวดศีรษะ มีไข้ต่อเนื่อง ควรไปพบคุณหมอเพื่อเข้ารับการวินิจฉัยและการรักษาตามความเหมาะสม

    สาเหตุของ SLE

    อาจยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของ SLE แต่โรคนี้อาจเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ ได้ดังนี้

    • พันธุกรรม พันธุกรรมที่ส่งต่อกันมาไม่ว่าจะเป็นโรคหรืออาการบางอย่าง อาจเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคแพ้ภูมิตัวเองได้
    • ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ ระบบภูมิกันทำลายเนื้อเยื่อร่างกายของตัวเองแทนที่จะป้องกันเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย

  • การรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาความดันโลหิต ยาต้านอาการชัก
  • การติดเชื้อ การได้รับเชื้อไวรัส หรือเชื้อแบคทีเรียบางชนิด
  • ปัจจัยสิ่งแวดล้อม เช่น แสงแดด ความเครียด สารเคมี สิ่งเหล่านี้อาจเป็นปัจจัยไปกระตุ้นทำให้เกิดอาการโรคแพ้ภูมิตัวเองได้
  • เพศ โรคแพ้ภูมิตัวเองอาจพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
  • การรักษาโรค SLE

    แม้โรคแพ้ภูมิตัวเองยังไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาด แต่อาจควบคุมอาการของโรคได้ด้วยการรับประทานยา เช่น

    • ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ เช่น เมทิลเพรดนิโซโลน (Methylprednisolone) เพื่อช่วยลดการอักเสบ
    • ยาต้านอักเสบชนิดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เช่น นาพรอกเซน (Naproxen) ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) เพื่อรักษาอาการปวด บวม
    • ยากดภูมิคุ้มกัน เพื่อกดหรือยับยั้งการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

    ทั้งนี้ ผู้ป่วยควรรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด งดสูบบุหรี่ เพราะอาจช่วยลดการกำเริบของโรคได้ อีกทั้งควรไปพบคุณหมอเพื่อตรวจร่างกายและอาการของโรคเป็นประจำหรือตามที่คุณหมอนัด

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    เนตรนภา ปะวะคัง


    เขียนโดย นนทกร บัณฑิตสินทรัพย์ · แก้ไขล่าสุด 17/05/2022

    โฆษณา
    โฆษณา
    โฆษณา
    โฆษณา