หากคุณเป็นคนที่ชอบดูวิดีโอบนโลกโซเชียล แน่นอนว่าคลิปวิดีโอการทาน น้ำผึ้งดิบ หรือรวงผึ้งแบบ ASMR ต้องโผล่มาให้คุณเห็นผ่านตากันบ่อย ๆ เป็นแน่ แถมยังมีสีสันน่ากิน พร้อมกับเสียงการเคี้ยวหนึบหนับของรวงผึ้ง อีกทั้งยังสามารถนำมาทานเล่นเป็นของว่าง หรืออาจนำไปผสมกับวัตถุดิบต่าง ๆ เพื่อเพิ่มรสชาติความหวานหอมให้แก่อาหารในเมนูอื่น ๆ เช่น แพนเค้ก ซีเรียล น้ำผลไม้ เป็นต้น นอกจากความอร่อยแล้ว บทความนี้ Hello คุณหมอ จะขอพามารู้จักกับ ประโยชน์ของน้ำผึ้งดิบ ที่ดีต่อสุขภาพมาให้ทุกคนได้ลองอ่านกันค่ะ
น้ำผึ้งดิบ และน้ำผึ้งธรรมดา แตกต่างกันอย่างไร
ข้อแตกต่างของน้ำผึ้งดิบ และน้ำผึ้งธรรมดา ที่คุณนิยมมารับประทานกันในปัจจุบันสังเกตได้ไม่ยาก ดังนี้
น้ำผึ้งดิบ (Raw Honey)
น้ำผึ้งที่ส่งตรงมากจากรังผึ้งของผู้ที่ทำการเลี้ยงไว้ และมักจะออกมากักเก็บน้ำผึ้งพวกเขาเมื่อถึงเวลาอันสมควร พร้อมทั้งมีสีของน้ำผึ้งที่เข้ม และลวดลายของรังผึ้งต่างกัน รวมถึงกระบวนการทำอีกด้วย เพราะน้ำผึ้งดิบที่ผู้ผลิตถูกการกรองมา มักจะนำสิ่งสกปรกออกเพียงแค่เพียงเล็กน้อยออกเท่านั้น โดยจะไม่ผ่านขั้นตอนอะไรมากนักก่อนนำมาบรรจุภัณฑ์ หรือนำมารับประทาน เพื่อคงคุณค่าทางโภชนาการเอาไว้
น้ำผึ้งธรรมดา (Regular Honey)
น้ำผึ้งธรรมดา จะเป็นน้ำผึ้งที่ได้จากการนำไปผ่านเข้าไปกระบวนการต่าง ๆ มากมาย อย่างการใช้ความร้อนฆ่าเชื้อลดแบคทีเรีย เพิ่มพาสเจอร์ไรซ์เพื่อยืดอายุการบริโภค อีกทั้งยังอาจแต่งเติมรสชาติ โดยนำน้ำตาล หรือสารให้ความหวานที่คล้ายคลึงกับน้ำผึ้งลงไป ถึงจะผ่านกระบวนการที่ค่อนข้างสะอาด สร้างความปลอดภัยเวลาเรานำมาประทาน แต่เป็นที่น่าเสียดายเพราะขั้นตอนเหล่านี้อาจทำให้คุณค่าทางโภชนาการในน้ำผึ้งแต่เดิมลดลง
วิธีการเลือกน้ำผึ้งดิบ
เมื่อคุณกำลังมองหาน้ำผึ้งดิบที่จะนำมาทานคู่กับเมนูอาหารของคุณแล้ว โปรดตรวจสอบข้างฉลากบนผลิตภัณฑ์ว่าใช่น้ำผึ้งดิบหรือไม่ โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ผลิตจะทำการเขียนไว้ค่อนข้างชัดเจน ว่าแบบใดคือน้ำผึ้งธรรมดา และแบบใดคือน้ำผึ้งดิบแท้จากฟาร์ม
ถ้าหากคุณยังคงไม่มั่นใจ อาจติดต่อหาซื้อได้โดยตรงจากเกษตรกรโดยตรงได้ ที่สำคัญน้ำผึ้งดิบอาจตกผลึกได้รวดเร็วกว่าน้ำผึ้งธรรมดา ดังนั้นก่อนการเลือกซื้อทุกคนจึงจำเป็นต้องตรวจสอบบรรจุภัณฑ์อย่างละเอียด
ประโยชน์ของการทาน น้ำผึ้งดิบ
แน่นอนว่าสิ่งที่มาจากธรรมชาติแท้ ล้วนไม่มีสารเคมีตกค้างที่อาจส่งผลอันตรายต่อสุขภาพ และทำให้คุณได้รับประโยชน์อย่างที่คุณคาดไม่ถึงจากการทานน้ำผึ้งดิบ ดังนี้
- มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
นักวิจัยเชื่อว่าน้ำผึ้งดิบมีสารประกอบหลายชนิดที่คอยทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยลดความเครียดอ็อกซิเดชันให้แก่ร่างกาย รวมทั้งยับยั้งสาเหตุความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่าง ๆ และโรคมะเร็งได้อีกด้วย
- โภชนาการสูงบำรุงร่างกาย
การที่น้ำผึ้งดิบจะมีคุณค่าทางสารอาหารสูง ล้วนขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม เกสรดอกไม้ และผู้ที่ทำการเพาะเลี้ยง ดังนั้นจึงทำให้มีโภชนาการทางอาหารค่อนข้างมาก โดยประกอบไปด้วย แคลเซียม แมกนีเซียม แมงกานีส โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส ไนอาซิน (niacin) ไรโบฟลาวิน (riboflavin) และ วิตามินต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ สามารถเข้าไปบำรุง ปรับปรุงปัญหาทางสุขภาพบางอย่างของคุณ ให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติได้
- ต้านเชื้อแบคทีเรีย
นับได้ว่าน้ำผึ้งเป็นอาหารที่คอยต้านเชื้อแบคทีเรีย ได้อย่างดี เพราะจุลินทรีย์เหล่านี้อาจเข้าไปทำลาย ขวางการทำงานของอวัยวะภายในของคุณทางด้านระบบย่อยอาหาร จนอาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร อาหารเป็นพิษ ท้องเสีย เป็นต้น
- บรรเทาอาการไอ
คงจะเป็นที่ทราบกันดี เพราะเป็นวิถีโบราณที่ทำกันมาอย่างยาวนานในการนำผึ้งมาช่วยรักษาลดอาการไอ เจ็บคอ และเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเด็ก ๆ อย่างมาก จากการศึกษาพบว่าน้ำผึ้งดิบ สามารถบรรเทาอาการไอของเด็ก ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพเสมือนกับการใช้ยาแก้ไอที่วางขายทั่วไป
สำหรับการบรรเทาอาการไอโดยการใช้น้ำผึ้งนั้น ควรทานในปริมาณ 1 ช้อนชา และหลีกเลี่ยงการทานคู่กับน้ำ ของเหลว หรืออาหารอื่น ๆ เพื่อให้น้ำผึ้งนี้เข้าไปรักษาอย่างเต็มที่โดยไม่มีเศษอาหารรบกวน
ข้อควรรู้ถึงความเสี่ยง ก่อนการทานน้ำผึ้งดิบ
ปกติแล้วน้ำผึ้งดิบปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่อาจจะก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพในบางบุคคล เช่น
- อาจเป็นอันตรายต่อทารก หรือเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 1 ปี เพราะอาจส่งผลให้เกิดโรคโบทูลิซึม (Botulism) โรคที่เกิดจากสารพิษจนทำให้ลูกรักของคุณเกิดเป็นอัมพาตได้
- ก่อให้เกิดอาการแพ้ในบางบุคคลที่มีอาการแพ้ผึ้งหรือผลิตภัณฑ์จากผึ้งได้ เช่น การทานน้ำผึ้งดิบอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการเป็นภูมิแพ้ละอองเกสร เพราะเป็นน้ำผึ้งที่ไม่ผ่านขั้นตอนมากนักจึงทำให้อาจหลงเหลือสิ่งเหล่านี้ปะปน
โดยปรกติการทานน้ำผึ้งดิบในผู้ใหญ่ หรือเด็กที่มีสุขภาพแข็งแรง อาจส่งผลข้างเคียงเล็กน้อยในบางบุคคล เช่น อาเจียน ท้องเสีย ดังนั้นก่อนการรับประทานน้ำผึ้งในปริมาณมาก คุณควรทดสอบดูก่อนว่าหรือปรึกษาแพทย์ว่ามีอาการแพ้หรือไม่ และหลังการรับประทานน้ำผึ้ง หากพบว่ามีอาการรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น โปรดปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงที
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmr]