มะม่วง เป็นผลไม้ที่มีรสชาติอร่อยและมีสารอาหารมากมาย โดยเฉพาะ มะม่วงสุก ที่มีรสชาติหวานอร่อย แต่อย่างไรก็ตาม มะม่วงสุกก็มีน้ำตาลค่อนข้างสูง จึงควรกินในปริมาณที่พอดี เพื่อที่จะได้รับประโยชน์สุขภาพของมะม่วง โดยไม่สร้างปัญหาต่อร่างกาย
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ
มะม่วง เป็นผลไม้ที่มีรสชาติอร่อยและมีสารอาหารมากมาย โดยเฉพาะ มะม่วงสุก ที่มีรสชาติหวานอร่อย แต่อย่างไรก็ตาม มะม่วงสุกก็มีน้ำตาลค่อนข้างสูง จึงควรกินในปริมาณที่พอดี เพื่อที่จะได้รับประโยชน์สุขภาพของมะม่วง โดยไม่สร้างปัญหาต่อร่างกาย
มะม่วงสุก 1 ถ้วย (165 กรัม) ให้พลังงาน 107 แคลอรี่ และมีสารอาหารดังนี้
นอกจากนี้มะม่วงยังมีแร่ธาตุทองแดง (คอปเปอร์) แคลเซียม และธาตุเหล็ก รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระซีแซนทิน (zeaxanthin) และเบต้า-แคโรทีน (beta-carotene) อีกด้วย
งานวิจัยโดย Texas AgriLife Research ให้ข้อมูลว่า นักวิทยาศาสตร์ด้านอาหารได้ทดสอบปฏิกิริยาของสารสกัดโพลีฟีนอล (Polyphenol) ในมะม่วงกับเนื้อเยื่อมะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด มะเร็งเม็ดเลือดขาว และมะเร็งต่อมลูกหมาก ผลการศึกษาพบว่า สารสกัดจากมะม่วงส่งผลต่อเซลล์มะเร็งทุกเซลล์ แต่มีประสิทธิผลที่สุดกับเซลล์มะเร็งเต้านมและมะเร็งลำไส้ อย่างไรก็ตามทีมวิจัยยังคงต้องการการศึกษาวิจัยต่อไป
งานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสาร The Official Journal of the Federation of American Societies for Experimental Biology ให้ข้อมูลว่า กลุ่มคนผู้ที่กินมะม่วงทุกวันจะมีอาการท้องผูกดีขึ้นกว่าผู้ที่กินไฟเบอร์ในปริมาณที่เท่ากัน เนื่องจากมะม่วงมีไฟเบอร์และน้ำ ซึ่งจะช่วยป้องกันอาการท้องผูก และทำให้ระบบทางเดินอาหารสุขภาพดีขึ้น
ไฟเบอร์ โพแทสเซียม และวิตามินในมะม่วงจะช่วยป้องกันโรคหัวใจ นอกจากนี้การเพิ่มโพแทสเซียมและลดการกินโซเดียม ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจด้วย
มะม่วงสุกปริมาณ 1 ถ้วยมีวิตามินเอ 25% ของปริมาณวิตามินเอที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน วิตามินเอมีความสำคัญกับการทำงานของร่างกายหลายส่วน โดยเฉพาะดวงตา ผิวและเส้นผม นอกจากนี้ยังช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง และช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน
มะม่วงสุกอุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งจำเป็นต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย มะม่วงสุกปริมาณ 1 ถ้วยมีวิตามินซี 76% ของปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน ซึ่งวิตามินซีมีบทบาทสำคัญในการเติบโตของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และกระดูก รวมถึงช่วยดูดซึมธาตุเหล็กด้วย
งานวิจัยพบว่า มะม่วงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดเมื่อทดลองในสัตว์ทดลอง นอกจากนี้มีงานวิจัยที่เผยแพร่ใน Nutrition and Metabolic ที่พบว่า การกินมะม่วงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ที่เป็นโรคอ้วน
ยังไม่มีงานวิจัยที่ชี้ว่าการกินมะม่วงนำไปสู่การลดน้ำหนัก อย่างไรก็ตามมีนักวิจัยที่ศึกษาผลกระทบของมะม่วงกับเซลล์ไขมันในห้องปฏิบัติการ มะม่วงมีสารโพลีฟีนอล (Polyphenol) และนักวิทยาศาสตร์ได้รายงานว่า สารชนิดนี้ช่วยลดความสามารถในการเพิ่มขึ้นของเซลล์ไขมัน แต่อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ยังคงต้องการการศึกษาต่อไป โดยนักวิจัยได้แนะนำว่า มะม่วงอาจช่วยป้องกันโรคอ้วนและโรคที่เกี่ยวข้องกับความอ้วนได้
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย
ทีม Hello คุณหมอ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย