เฉาก๊วย เป็นของหวานที่ช่วยคลายร้อย ทั้งยังมีสรรพคุณทางยา ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาจช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ต้านแบคทีเรีย ป้องกันความดันโลหิตสูง แต่หากรับประทานคู่กับน้ำตาล หรือน้ำเชื่อม ก็อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้ ดังนั้น จึงควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะพอดี
ประโยชน์ของเฉาก๊วย
เฉาก๊วย ถูกทำมาจากต้นเฉาก๊วย (Mesona Chinensis Benth) ซึ่งเป็นพืชตระกูลเดียวกับมิ้นต์ หรือสะระแหน่ ถูกค้นพบได้มากในประเทศจีน และถูกแพร่กระจายออกไปในวงกว้างในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาจนำใช้ปรุงเป็นเครื่องดื่มสมุนไพร การรับประทานเฉาก๊วยไม่ใช่แค่เพื่อความอร่อยเท่านั้น แต่ยังอาจช่วยบำรุงร่างกาย ปรับปรุงสุขภาพภายในต่าง ๆ ได้ดังนี้
ดูแลช่องทางเดินอาหาร เพราะพืชที่นำมาใช้ทำเฉาก๊วยมีสารแอลคาลอยด์ (Alkaloid) วิตามินบี วิตามินซี และสารน้ำตาลบางอย่างประกอบจำนวนมาก จึงอาจทำให้ป้องกันอาการปวดท้อง ท้องร่วง ท้องผูก พร้อมยังมีไฟเบอร์ที่ช่วยกำจัดสิ่งสกปรกภายในช่องทางเดินอาหาร ทำให้ระบบย่อยอาหารมีการทำงานที่ดีขึ้นอีกด้วย
เนื่องด้วยเฉาก๊วยถูกการแปรรูปด้วยพืช จึงอาจทำให้สารอาหารบางส่วนยังคงอยู่ไม่ว่าจะเป็น วิตามินบี 1 ฟอสฟอรัส และไฟเบอร์สูง จึงทำให้ปริมาณแคลอรี่อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างต่ำ เหมาะแก่การนำมารับประทานเพื่อลดน้ำหนัก แต่ถึงอย่างไร ไม่ควรรับประทานเฉาก๊วยแทนอาหารหลักสำคัญ เช่น ข้าว เนื้อสัตว์ โปรตีน เพราะอาจทำให้ร่างกายรับสารอาหารไม่เพียงพอ จนอาจเกิดการเจ็บป่วยได้
ในพันธุ์พืชของเฉาก๊วยมีสารประกอบมากมาย ซึ่ง Bisbenzilsokuinolin Compounds ก็เช่นเดียวกัน ที่อาจควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด หรือลดความเสี่ยงของการเกิดโรคความดันโลหิตสูง อีกทั้งยังอาจปรับปรุงการทำงานของระดับอินซูลิน เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวาน
รักษาไข้ สารประกอบหลากหลายภายในเฉาก๊วย เช่น คาร์โบไฮเดรต พอลิฟีนอล (Polyphenols) ซาโปนิน (Saponins) ล้วนมีคุณสมบัติต่อต้าน หรือกำจัดสารพิษที่เป็นตัวการเข้ามาทำลายระบบการทำงานของร่างกาย รวมทั้งยังช่วยลดอาการของผู้ป่วยที่มีไข้ขึ้นสูงได้
นอกจากเฉาก๊วยในรูปแบบวุ้น ยังสามารถนำใบจากต้นสด ๆ มาสับให้ละเอียด และต้มในน้ำเดือด เพื่อนำมาดื่มเป็นเครื่องดื่มสมุนไพร พร้อมทั้งยังอาจช่วยต้านการเจริญเติบโตของเนื้องอก และยังอาจกำจัดเซลล์มะเร็งได้มากถึง 55%-90% เลยทีเดียว
เฉาก๊วย สามารถส่งผลเสียต่อร่างกาย
หากนิยมนำเฉาก๊วยรับประทานคู่กับน้ำเชื่อม น้ำตาล โปรดระวังเพราะอาจทำให้น้ำตาลในเลือดอยู่ในรับสูงขึ้น และอาจมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคเบาหวาน ดังนั้น ควรรับประทานแต่พอดี หรือใช้น้ำตาลเทียมที่สกัดมาจากหญ้าหวานทดแทน
อีกทั้งกระบวนการแปรรูปจากพืชมาสู่รูปแบบวุ้น ทำให้อาจมีสารปนเปื้อนอย่างสารบอแร็กซ์ (Borax) ซึ่งสารนี้อาจถูกนำมาผสมเพื่อเพิ่มความข้นเหนียวของอาหาร และเป็นการยืดอายุให้อยู่ได้นานขึ้น แต่ถ้ารับประทานเข้าไปปริมาณมากก็อาจก่อให้เกิดผลเสียแก่ร่างกาย จึงควรตรวจสอบฉลากข้างถุงให้ดีเสียก่อน ก่อนการนำเฉาก๊วยมาบริโภคทุกครั้ง