backup og meta

ดินเบนโทไนท์ กับประโยชน์ที่มีค่ามากกว่าเป็นแค่ดิน

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย · แก้ไขล่าสุด 11/08/2020

    ดินเบนโทไนท์ กับประโยชน์ที่มีค่ามากกว่าเป็นแค่ดิน

    โดยปกติแล้ว ในผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวและเครื่องสำอางมักจะมี ดินเบนโทไนท์ เป็นส่วนผสมอยู่ด้วย แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าดินเบนโทไนท์นั้นมีประโยชน์อย่างไรบ้าง และมันสามารถช่วยอะไรในด้านของร่างกายและด้านความสวยความงามได้บ้าง ดังนั้น ทาง Hello คุณหมอ จึงได้นำเรื่องนี้มานำเสนอให้ได้ติดตามกัน

    ทำความรู้จักกับ ดินเบนโทไนท์ (Bentonite Clay)

    ดินเบนโทไนท์ (Bentonite Clay) เป็นดินธรรมชาติ ที่มีเนื้อละเอียด ดินนี้บางครั้งถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์หรือเครื่องสำอาง โดยใช้ผสมกับน้ำ แล้วนำมาทา เพื่อรักษาผื่นและสิว เป็นต้น บางคนมักจะใช้ดินเบนโทไนท์ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกบนผิวหนัง เช่น ล้างสารพิษตางๆ ออกจากร่างกาย

    ดินเบนโทไนท์มีอยู่ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลายชนิด นอกจากนั้นยังมักพบใน แชมพูสระผม โลชั่น มาสก์หน้า ยาสีฟัน และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เป็นต้น นอกจากนั้น ยังมีบางคนที่นำมันมาเติมลงในอาหารหรือเครื่องดื่ม จุดประสงค์ก็เพื่อบรรเทาปัญหาทางเดินอาหาร รักษาแก๊สในกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการท้องเสีย หรือกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย จากการศึกษาจำนวนมาก พบว่า แม้ดินเบนโทไนท์จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพผิว แต่การวิจัยส่วนใหญ่มักจะใช้เพียงเซลล์หรือสัตว์ในการวิจัยเท่านั้น ดังนั้น ยังจำเป็นที่จะต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม เพื่อหาประโยชน์ที่แท้จริง รวมถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในมนุษย์อีกด้วย

    ประโยชน์ของ ดินเบนโทไนท์ (Bentonite Clay) ที่คุณอาจไม่เคยรู้

    ดินเบนโทไนท์มีความสามารถในการดูดซับ มันจะสามารถดึงดูดอนุภาพ เช่น สิ่งสกปรกบนผิว ได้ นอกจากนั้น มันยังมีประโยชน์อีกหลายๆ อย่าง ดังนี้

    ขจัดสารพิษออกจากร่างกาย

    บางคนนำดินเบนโทไนท์มาบริโภค เพื่อกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย จากการศึกษาที่หลากหลายชี้ให้เห็นว่า มันอาจลดผลกระทบของสารพิษ ได้ ตัวอย่างจากการศึกษา เช่น การศึกษาในลูกไก่ พบว่า ดินเบนโทไนท์สามารถลดผลกระทบของสารพิษที่เรียกว่า อะฟลาท็อกซินบี 1 (Aflatoxin B1) ซึ่งมาจากราบางชนิด

    ลูกไก่ที่ได้รับผลิตภัณฑ์จากดินเบนโทไนท์เข้มข้นจะได้รับพิษน้อยกว่าตัวที่ไม่ได้รับดินเบนโทไนท์เลย นอกจากนั้น หากนำดินเบนโทไนท์เติมลงในอ่างอาบน้ำ 1-2 ถ้วย แล้วแช่ตัวลงไป มันจะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย ทั้งยังช่วยลดอาการบวมและบรรเทาอาการอักเสบได้ แต่ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังต้องทำการวิจัยเพิ่มเติมอีกมา ก่อนที่จะยืนยันได้ว่า ดินเบนโทไนท์นั้นปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับในกับมนุษย์ได้

    ชำระล้างรูขุมขน

    ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามในลอสแอนเจลิส กล่าวเอาไว้ว่า ดินเบนโทไนท์สามารถทำความสะอาดรูขุมขนได้ เนื่องจากเมื่อนำไปผสมกับของเหลวแล้ว มันจะทำหน้าที่เหมือนแม่เหล็กและฟองน้ำที่สามารถจับสิ่งสกปรกบนผิวหนังที่มีประจุเป็นบวก เช่น โลหะหนัก ไขมันส่วนเกิน และแบคทีเรีย ดินเบนโทไนท์ไม่ได้ใช้ล้างสารพิษเพียงอย่างเดียว แต่มันยังมีส่วนผสมที่สามารถบำรุงผิวได้อีกด้วย

    รักษาผิวมันและสิว

    พลังดูดซับของดินเบนโทไนท์ อาจเป็นประโยชน์ในการรักษาสิวและผิวมัน มันสามารถช่วยขจัดความมัน หรือน้ำมันออกจากผิว นอกจากนั้นยังอาจช่วยในเรื่องของสิวอักเสบได้ด้วย การใช้มาสก์ที่มีส่วนผสมของดินเบนโทไนท์ จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกออกจากผิว เพื่อรักษาสิว ลดความเสี่ยงของการเกิดสิว และการติดเชื้อที่ผิวหนัง

    ขัดผิวอย่างอ่อนโยน

    ดินเบนโทไนท์ สามารถขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ขจัดผิวที่เป็นขุย ลดความแห้งกร้าน จึงทำให้ผิวนุ่มนวลและเรียบเนียนขึ้น ซึ่งการใช้ดินเบนโทไนท๊ในการขัดผิวก็เพียงแค่นำมาผสมเข้ากับน้ำ จากนั้น นำมาทาลงบนหน้า แล้วใช้นิ้วมือลูบไล้เบาๆ เป็นวงกลม แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น เพียงเท่านี้ก็สามารถขัดผิวได้อย่างอ่อนโยนแล้ว

    รักษาพิษจากไม้เลื้อย

    หลายคนแพ้พืชตระกูลยูรุชิออล (Urushiol) เนื่องจากน้ำมันที่ผลิตจากพืชตระกูลนี้มักจะมีพิษ เมื่อผิวหนังของคุณสัมผัสกับพิษของพืชตะกูลยูรุชิออล หรือพิษจากต้นพอยซันไอวี (Poison Ivy) มันจะเกิดผื่นขึ้น ซึ่งนั่นเป็นปฏิกิริยาการแพ้ โดยผื่นคันที่เกิดจากการแพ้นั้น จะมีลักษณะเป็นผื่นแดง ทั้งยังทำให้เกิดการระคายเคืองและคันอย่างรุนแรง จากการศึกษาในปี 1995 พบว่า ดินเบนโทไนท์ สามารถรักษาผื่นที่เกิดจากพิษและสามารถรักษาอาการที่เกิดขึ้นหลังจากเกิดอาการแพ้ได้อย่างรวดเร็ว

    รักษากลาก โรคสะเก็ดเงิน และโรคผิวหนัง

    ดินเบนโทไนท์ถูกนำมาใช้ทั้งภายในและภายนอก มันใช้ในการรักษาแบบดั้งเดิมมานานหลายศตวรรษแล้ว ดินเบนโทไนท์สามารถนำมาใช้ในการรักษาอาการระคายเคืองและผื่นผิวหนัง ซึ่งบางครั้งอาจจะเกิดจากการเป็นกลาก โรคสะเก็ดเงิน ผิวหนังอักเสบ พิษจากไม้เลื้อย และแมลงกัดต่อย ไม่เพียงเท่านั้น มันยังสามารถดึงเอาเชื้อราและแบคทีเรียออกจากผิวหนังได้ด้วย จากการวิจัยในวารสาร Antimicrobial Chemotherapy แสดงให้เห็นว่า ดินเบนโทไนท์นั้นสามารถทำหน้าที่เป็นยาปฏิชีวนะ โดยเฉพาะช่วยในการบรรเทาการอักเสบและเร่งการรักษาตัวเองของร่างกายจากอาการที่เกิดจากโรคติดเชื้อได้ด้วย

    ช่วยลดน้ำหนัก

    ดินเบโทไนท์อาจเป็นอาหารเสริมที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังพยามลดน้ำหนัก การศึกษาหนึ่งในหนูพบว่า การบริโภคผลิตภัณฑ์จากดินเบนโทไนท์ช่วยลดน้ำหนักในหมู่หนูที่ได้รับอาหารที่มีไขมันสูงได้ แต่ทั้งนี้การลดปริมาณแคลอรี่ และการเพิ่มระดับการออกกำลังกาย ก็ยังเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอยู่ดี

    ทำความสะอาดเส้นผม

    ดินเบนโทไนท์เป็นประโยชน์ต่อหนังศีรษะและเส้นผม เนื่องจากมันช่วยล้างและขจัดสารพิษ ทั้งยังช่วยซับน้ำมันส่วนเกินและทำให้ผมสะอาดหมดจดอีกด้วย โดยวิธีการทำก็แสนง่าย เพียงแค่นำดินเบนโทไนท์ผสมกับน้ำส้มสายชูที่หมักด้วยแอปเปิลสด (Apple Cider Vinegar) และน้ำมันหอมระเหย เช่น โรสแมรี่ ลาเวนเดอร์ เป็นต้น คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันจนข้น จากนั้นแบ่งผสมออกเป็นส่วนๆ และทาส่วนผสมทั้งหมดลงไปบนเส้นผมให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด เพียงเท่านี้ผมของคุณก็จะสะอาดหมดจดแล้ว

    บรรเทาอาหารท้องผูก

    เนื่อจากดินเบนโทไนท์สามารถดูดซับสารพิษได้ ดังนั้นจึงอาจเป็นประโยชน์ในการควบคุมระบบทางเดินอาหารได้ จากการศึกษาหนึ่งถึงประโยชน์ของดินเบนโทไนท์ พบว่า บางคนที่มีอาการลำไส้แปรปรวนด้วยอาการท้องผูก การใช้ดินเบนโทไนท์จะช่วยทำให้อาการดีขึ้น

    รักษาอาการท้องร่วง

    งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าดินเบนโทไนท์อาจช่วยบรรเทาปัญหาทางเดินอาหารที่เกิดจากไวรัส เช่น อาการท้องร่วง ได้ ยกตัวอย่างเช่น อาการท้องเสียอย่างรุนแรงจากการติดเชื้อ ไวรัสโรต้า (Rotavirus) ซึ่งกระจายได้ง่ายจากคนสู่คน โดยจากการศึกษาหนึ่งพบว่า ดินเบนโทไนท์สามารถช่วยดูดซับไวรัสโรต้าในร่างกาย และจากการศึกษาอื่นยังพบอีกว่าดินเบนโทไนท์สามารถดูดซับไวรัสโรต้าในวัวได้ด้วย แต่หากอาการท้องร่วงยังไม่หายดีแม้จะรักษาด้วยดินเบนโทไนท์แล้ว การไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุด

    ช่วยดับกลิ่น

    หากคุณกำลังมองหาวิธีการดับกลิ่นด้วยวิธีธรรมชาติอยู่ล่ะก็ ลองใช้ดินเบนโทไนท์  น้ำมันมะพร้าว ว่านหางจระเข้ เบกกิ้งโซดา แป้งเท้ายายม่อม (Arrowroot Flour) และน้ำมันหอมระเหย มาผสมเข้าด้วยกันแล้วใช้ทาบริเวณที่ต้องการดับกลิ่น อย่างใต้วงแขน ดินเบนโทไนท์สามารถช่วยดูดซับความชื้นและกำจัดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่น น้ำมันมะพร้าวช่วยบำรุงผิวใต้วงแขนที่บอบบาง ในขณะที่แป้งเท้ายายม่อม ช่วยควบคุมเหงื่อ เบกกิ้งโซดาปรับค่าความเป็นกรดเป็นด่าง นั่นเอง

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย · แก้ไขล่าสุด 11/08/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา