ในปัจจุบัน อาหารเสริม เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเสริม วิตามินและแร่ธาตุ ที่ร่างกายขาดไป เช่น อาหารเสริมแคลเซียม อาหารเสริมวิตามินซี อย่างไรก็ตาม ความต้องการในการรับประทานอาหารเสริมอาจจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละคน ดังนั้น จึงควรปรึกษาคุณหมอหรือเภสัชกรก่อนรับประทานอาหารเสริม
[embed-health-tool-bmi]
อาหารเสริม วิตามินและแร่ธาตุ จำเป็นหรือไม่
โดยทั่วไปแล้วคนเราไม่จำเป็นที่จะต้องรับประทานวิตามินและแร่ธาตุผ่านการรับประทานอาหารเสริม เพราะร่างกายของเราสามารถที่จะได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่างๆ เช่น วิตามินซี วิตามินเอ แคลเซียม ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม แมกนีเซียม หรือสารต้านอนุมูลอิสระชนิดต่างๆ ผ่านการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว
ตัวอย่างเช่นการรับประทาน ผัก ผลไม้ ปลา เนื้อสัตว์ต่างๆ ผลิตภัณฑ์จากนม ธัญพืช หรือขนมปังอาหารที่มีประโยชน์เหล่านี้ หากรับประทานอย่างเหมาะสม และเพียงพอ ก็จะให้สารอาหารที่มีประโยชน์ทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายในระดับที่เพียงพออยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเสริมด้วยการรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมเพิ่มปริมาณของสารอาหารอีก
ใครบ้างที่ควรได้รับ อาหารเสริม
แม้ปกติแล้วการรับประทานวิตามินและอาหารเสริมจะเป็นเรื่องที่จัดว่าไม่มีความจำเป็นสักเท่าใดนัก แต่…ยังมีคนบางกลุ่มที่จำเป็นจะต้องได้รับวิตามินและแร่ธาตุในรูปแบบของอาหารเสริม เนื่องจากมีอาการทางสุขภาพในกลุ่มของโรคที่เกี่ยวกับ โรคขาดสารอาหาร (Undernutrition) เช่น
- ภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ (Hyponatremia)
- ภาวะโพแทสเซียมต่ำ (Hypokalemia)
- โรคคอพอก (Goiter)
- ภาวะขาดวิตามินดี (Vitamin D insufficiency)
- ภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำกว่าปกติ (Hypocalcemia)
ทั้งนี้ภาวะที่ร่างกายมีสารอาหารบางชนิดต่ำกว่าที่ควรจะเป็นนั้น แพทย์หรือเภสัชกรอาจมีความจำเป็นต้องวินิจฉัยให้มีการรับประทานอาหารเสริมวิตามินและแร่ธาตุ ที่ช่วยเสริมสารอาหารที่ร่างกายขาดหรือมีน้อยเกินไป เพื่อให้สารอาหารในร่างกายเกิดความสมดุล
นอกจากนี้ยังอาจร่วมถึงผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ที่จำเป็นต้องได้รับวิตามินและแร่ธาตุเสริมบางประเภท เช่น ไอโอดีน กรดโฟลิก วิตามินต่างๆ หรือธาตุเหล็ก เพื่อสุขภาพของทารกในครรภ์ รวมถึงผู้สูงอายุก็อาจจำเป็นที่จะต้องรับประทานวิตามินบางชนิดเสริมเพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ เช่น ผู้สูงอายุอาจต้องรับประทานวิตามินดีในรูปแบบของอาหารเสริมประมาณ 800 หน่อยต่อวัน
วิตามินและแร่ธาตุแบบอาหารเสริม กับวิตามินจากการรับประทานอาหาร เลือกอะไรดี
อาหารเสริมไม่ได้ถูกผลิตขึ้นมาทดแทนการมีอยู่ของสารอาหารในอาหารต่างๆ ดังนั้นสารอาหารที่ได้จากการรับประทานอาหารเสริมจึงให้ประโยชน์ที่ไม่เท่ากับวิตามินและแร่ธาตุที่ได้จากอาหารธรรมชาติ นอกจากนี้สารอาหารที่ได้จากการกินอาหารก็ยังให้ความเสี่ยงต่อสุขภาพน้อยกว่าอาหารเสริมด้วย เพราะอาหารเสริมบางชนิดหากรับประทานในปริมาณที่มากจนเกินไป ก็เสี่ยงที่จะมีผลต่ออาการทางสุขภาพได้
อย่างไรก็ตาม มีอยู่ 3 ข้อหลักๆ ที่แสดงให้เห็นว่าวิตามินและแร่ธาตุ ที่ได้จากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์นั้นดีกว่าการรับประทานอาหารเสริม ได้แก่
- อาหารจากธรรมชาติให้สารอาหารที่หลากหลายกว่า อาหารหนึ่งชนิดสามารถให้วิตามินและแร่ธาตุมากกว่า 1 ชนิดขึ้นไป ในขณะที่วิตามินและอาหารเสริมแต่ละชนิดก็มักจะให้สารอาหารแค่เพียงแค่ชนิดเดียวหรือจำเพาะเป็นชนิดๆ ไป ไม่หลากหลายเท่ากับสารอาหารที่ได้จากอาหารธรรมชาติ
- อาหารจากธรรมชาติเช่นผักและผลไม้จะมีใยอาหาร หรือไฟเบอร์ ซึ่งอาหารเสริมมักจะไม่มี โดยไฟเบอร์มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ช่วยในการย่อยอาหาร ดีต่อระบบขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก ช่วยในการลดน้ำหนัก ป้องกันโรคหัวใจ และโรคเบาหวาน
- อาหารที่ได้จากธรรมชาติจะให้สารอาหารที่มีส่วนช่วยในการป้องกันการสึกหรอของร่างกาย นั่นคือ สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) ซึ่งไม่ค่อยพบในกลุ่มอาหารเสริมวิตามินและแร่ธาตุ โดยสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์ในร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง
อาหารเสริมวิตามินและแร่ธาตุ ควรรับประทานในปริมาณเท่าใด
การรับประทานอาหารเสริมเพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์อย่างเพียงพอนั้น ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของปริมาณในการรับประทาน ซึ่งหากรับประทานในระดับที่เหมาะสม ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และเภสัชกร ก็จะได้รับประโยชน์จากอาหารเสริมอย่างเต็มที่ แต่โดยทั่วไปแล้วควรจะต้องได้รับในปริมาณที่จำกัดเพื่อความปลอดภัยต่อร่างกาย ดังนี้
วิตามินและแร่ธาตุ | ปริมาณที่ควรได้รับ | ปริมาณจำกัด(ไม่ควรเกิน) | ||
แคลเซียม | 1,000-1,200 มิลลิกรัม | 2,000 มิลลิกรัม | ||
โฟเลต | 400 ไมโครกรัม | 1,000 ไมโครกรัม | ||
ธาตุเหล็ก | 8 มิลลิกรัม | 45 มิลลิกรัม | ||
วิตามินเอ | 700 ไมโครกรัม อาร์เออี | 3,000 ไมโครกรัม อาร์เออี | ||
วิตามินบี6 | 1.5 มิลลิกรัม | 100 มิลลิกรัม | ||
วิตามินบี12 | 2.4 ไมโครกรัม | ไม่มีการระบุปริมาณจำกัด | ||
วิตามินซี | 75 มิลลิกรัม | 2,000 มิลลิกรัม | ||
วิตามินดี | 600-800 หน่วย (IU) | 4,000 หน่วย (IU) | ||
วิตามินอี | 15 มิลลิกรัม | 1,000 มิลลิกรัม |
ข้อแนะนำก่อนการรับประทานอาหารเสริมวิตามินและแร่ธาตุ
- ปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนรับประทานวิตามินและอาหารเสริมเสมอ
- ตรวจสอบฉลากก่อนรับประทานเสมอ เพื่อดูส่วนประกอบ ปริมาณสารอาหาร วันที่ผลิตและวันหมดอายุ
- รับประทานในปริมาณที่เหมาะสม การรับประทานวิตามินและอาหารเสริมมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้
- สังเกตวิถีการรับประทานอาหารของตนเอง เพราะวิตามินและแร่ธาตุที่ได้จากการรับประทานอาหารอาจเพียงพออยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องได้รับจากอาหารเสริมอีก