ระวัง!!! กินเนื้อดิบ เสี่ยง โรคแอนแทรกซ์ อันตรายถึงชีวิต
“เนื้อดิบที่คุณโปรดปราน อาจเป็นภัยร้ายที่คุณมองข้าม” เนื้อดิบและอาหารดิบต่าง ๆ อาจเป็นเมนูโปรดของใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นลาบดิบ ซาซิมิเนื้อ หรือซอยจุ๊ แต่รู้หรือไม่ว่าความอร่อยเหล่านี้อาจแฝงไว้ด้วยอันตรายที่มองไม่เห็น โรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) คือหนึ่งในภัยร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้จากการบริโภคเนื้อดิบ หรือเนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุก ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที [embed-health-tool-bmi] โรคแอนแทรกซ์คืออะไร โรคแอนแทรกซ์เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Bacillus anthracis ซึ่งสร้างสปอร์ที่สามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้เป็นเวลานานหลายสิบปี เชื้อนี้มักพบในดินและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น โค กระบือ แพะ และแกะ สัตว์ที่ติดเชื้อมักได้รับแบคทีเรียจากการกินหญ้าหรืออาหารที่ปนเปื้อนสปอร์ มนุษย์สามารถติดเชื้อได้จากการสัมผัสสัตว์หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่ติดเชื้อ รวมถึงการบริโภคเนื้อสัตว์ดิบที่ไม่ผ่านการปรุงสุกอย่างเพียงพอ อาการของโรคแอนแทรกซ์ อาการทั่วไป เมื่อบริโภคเนื้อดิบที่ปนเปื้อนเชื้อแอนแทรกซ์ เชื้อจะเข้าสู่ระบบทางเดินอาหารและก่อให้เกิดอาการหลากหลาย ได้แก่ ไข้สูง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องและท้องเสีย (บางครั้งอาจมีเลือดปน) การอักเสบรุนแรงในลำไส้ ในกรณีที่ไม่ได้รับการรักษา อาการอาจรุนแรงจนเกิดภาวะโลหิตเป็นพิษและเสียชีวิตได้ อาการเหล่านี้อาจเริ่มต้นภายใน 1-7 วันหลังการบริโภคเนื้อสัตว์ที่ติดเชื้อ อาการภายนอก ในบางกรณี หากเชื้อเข้าสู่ร่างกายผ่านการสัมผัสผิวหนังที่มีแผล อาจทำให้เกิดแอนแทรกซ์ชนิดผิวหนัง (Cutaneous anthrax) ซึ่งมีลักษณะอาการดังนี้: ตุ่มนูนแดงหรือดำคล้ำบนผิวหนัง (คล้ายแผลพุพอง) อาการบวมรอบตุ่มแผล ต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียงบวม แอนแทรกซ์ชนิดนี้เป็นรูปแบบที่พบได้บ่อยที่สุด และมักรักษาได้หากได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที ทำไมการกินเนื้อดิบจึงเสี่ยง? ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า การระบาดของโรคแอนแทรกซ์ในประเทศไทยมักเกี่ยวข้องกับการบริโภคเนื้อดิบหรือเนื้อสัตว์จากสัตว์ที่ตายผิดธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น กรณีชาวบ้านในภาคอีสานที่ติดเชื้อจากการกินลาบดิบที่ทำจากเนื้อวัวซึ่งไม่ได้ผ่านการตรวจสอบ สปอร์ของเชื้อแอนแทรกซ์ทนต่อสภาพแวดล้อมและความร้อนได้สูง หากเนื้อสัตว์ไม่ได้รับการปรุงสุกถึงอุณหภูมิที่เหมาะสม สปอร์เหล่านี้จะไม่ถูกทำลาย นอกจากนี้ […]