โรคทางเดินหายใจ

ระบบทางเดินหายใจ มีส่วนสำคัญในการทำงานตามปกติของร่างกาย ดังนั้น คุณจึงควรเรียนรู้วิธีการรักษาสุขภาพของระบบทางเดินหายใจของคุณให้แข็งแรง ห่างไกลจากความเจ็บป่วย เรียนรู้เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ รวมถึง โรคทางเดินหายใจ ได้ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

โรคทางเดินหายใจ

เช็กอาการ ไวรัส RSV อันตรายอย่างไร ใครบ้างที่ควรระวัง

ไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) เป็นไวรัสที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจที่พบได้บ่อยชนิดหนึ่ง และสามารถแพร่กระจายได้อย่างง่ายดายผ่านการไอหรือจาม โดยปกติแล้ว อาการ RSV มักจะไม่รุนแรงและมีอาการคล้ายกับไข้หวัด เช่น น้ำมูกไหล ไอ จาม แต่บางกลุ่มอาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นปอดอักเสบได้เช่นกัน  เช็ก อาการ RSV อาการในทารก RSV เป็นไวรัสที่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก โดยเด็กส่วนใหญ่ติด RSV อย่างน้อยหนึ่งครั้งก่อนอายุ 2 ปี โดยเฉพาะในเด็กที่อยู่ในศูนย์ดูแลเด็ก หรืออาจติดจากพี่น้องที่ไปโรงเรียนหรืออยู่ในศูนย์ดูแลเด็ก อาการ RSV ในเด็กทารก มีดังนี้ การหายใจเปลี่ยนแปลงไป หายใจไม่สะดวก หงุดหงิดง่าย งอแง เคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมลดลง อาการ RSV ที่รุนแรงในเด็กทารก มีดังนี้ ไอ งอแงบ่อย อ่อนเพลียอย่างรุนแรง กินนมน้อยลง หรือไม่ยอมกินนม หายใจถี่ หายใจสั้น หายใจลำบากจนกล้ามเนื้อหน้าอกและผิวหนังยุบตัวขณะหายใจ อาการในผู้ใหญ่ อาการมักคล้ายหวัดทั่วไป โดยส่วนใหญ่เป็นอาการไม่รุนแรงและหายได้เอง อาการที่พบได้ทั่วไป ได้แก่ ไอแห้ง ๆ คัดจมูก น้ำมูกไหล มีไข้ต่ำ ปวดหัว เจ็บคอ อ่อนเพลีย อาการในผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุมักจะมีความเสี่ยงจากการติดเชื้อ […]

หมวดหมู่ โรคทางเดินหายใจ เพิ่มเติม

สำรวจ โรคทางเดินหายใจ

โรคทางเดินหายใจ

น้ำมูกไหลเป็นน้ำใสๆ ไม่หยุด ทำอย่างไรจึงจะหาย

น้ำมูกไหลเป็นน้ำใส ๆ ไม่หยุด เป็นอาการที่ร่างกายมีของเหลวเป็นน้ำใส ๆ ไหลออกมาทางจมูกตลอดเวลา เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น โรคภูมิแพ้อากาศ ไข้หวัด รักษาให้หายได้โดยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้หรือบางรายอาจต้องรับประทานยาเพื่อรักษาอาการ หาก น้ำมูกไหลเป็นน้ำใสๆ ไม่หยุด เป็นระยะเวลานาน อาจเป็นสัญญาณเตือนภาวะสุขภาพที่ต้องระวัง เช่น โรคริดสีดวงจมูก โรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง ควรไปพบคุณหมอเพื่อรับการรักษา [embed-health-tool-bmi] น้ำมูกไหลเป็นน้ำใสๆ ไม่หยุด เกิดจากอะไร อาการน้ำมูกไหลเป็นน้ำใสๆ ไม่หยุดเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังต่อไปนี้ สาเหตุจากโรคภูมิแพ้ (Allergy) เป็นโรคที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้มากกว่าปกติ เป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ที่ทำให้เกิดอาการน้ำมูกไหลเป็นน้ำใส ๆ ไม่หยุด นอกจากนี้ ยังอาจก่อให้เกิดอาการร่วมอื่น ๆ เช่น จาม ไอเรื้อรัง คันและระคายเคืองบริเวณตาหรือคอ สาเหตุจากโรคอื่น ๆ ยกตัวอย่าง เช่น โรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง เกิดจากการติดเชื้อต่าง ๆ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส หรือมีอาการแพ้อย่างรุนแรง จนทำให้มีอาการปวด คัดจมูก น้ำมูกไหล หายใจติดขัด มีเสมหะข้นเหนียว ปวดใบหน้าบริเวณหน้าผาก หัวตา หู […]


โรคทางเดินหายใจ

5 โรคที่มากับหน้าฝน วิธีรักษาและการป้องกัน

โรคที่มากับหน้าฝน มักเป็นโรคในกลุ่มทางเดินหายใจ เนื่องจากความชื้นในหน้าฝนทำให้เชื้อแพร่กระจายได้ง่ายและรวดเร็ว เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้เลือดออก โรคฉี่หนู โรคต่อมทอนซิลอักเสบ และโรคติดต่อจากการสัมผัสเชื้อโดยตรงอย่างโรคตาแดง อย่างไรก็ตาม โรคเหล่านี้อาจป้องกันได้ เช่น ล้างมือบ่อย ๆ อยู่ห่างจากผู้ป่วย ฉีดวัคซีนป้องกันโรค [embed-health-tool-bmi] โรคที่มากับหน้าฝน มีอะไรบ้าง โรคที่มากับหน้าฝน ที่มักพบได้บ่อยมีดังนี้ โรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้หวัดใหญ่เป็นการติดเชื้อบริเวณระบบทางเดินหายใจ ตั้งแต่จมูก คอ ปอด โดยส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ มักระบาดเป็นช่วง ๆ โดยเฉพาะหน้าฝนและหน้าหนาว อาการเริ่มต้นคล้ายกับไข้หวัดธรรมดา แต่อาจรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น ปวดเมื่อยเนื้อตัว หนาวสั่น ปวดศีรษะ เจ็บคอ ไอเรื้อรัง อ่อนเพลีย อ่อนใจถี่รัว อาเจียน และเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น โรคปอดอักเสบ โรคหลอดลมอักเสบ ซึ่งอาจเสี่ยงเป็นอันตรายต่อชีวิตได้มากกว่าไข้หวัดธรรมดา วิธีรักษา โรคไข้หวัดใหญ่มักรักษาด้วยการใช้ยาต้านไวรัส เช่น โอเซลทามิเวียร์ (Oseltamivir) ซานามิเวียร์ (Zanamivir) หากให้ยาภายใน 48 ชั่วโมงแรกก็จะช่วยให้หายได้เร็วมากขึ้นและลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ วัคซีนป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ควรฉีดอย่างน้อยปีละ 1 เข็ม […]


โรคทางเดินหายใจ

เสมหะมีเลือดปน เกิดจากอะไร อันตรายไหม

อาการไอแล้ว เสมหะมีเลือดปน หรือเสมหะเป็นสีแดง อาจเกิดจากเส้นเลือดฝอยในลำคอแตกหลังไออย่างรุนแรง ซึ่งพบได้ในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ การอักเสบเรื้อรังในปอด โดยส่วนใหญ่ ไอแล้วมีเสมหะปนเลือดมักไม่ได้เกิดจากภาวะสุขภาพที่เป็นอันตราย อย่างไรก็ตาม หากอาการไอแล้วเสมหะมีเลือดปนเป็นเวลานานกว่า 1 สัปดาห์ ร่วมกับมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ควรไปพบคุณหมอเพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างเหมาะสม [embed-health-tool-bmi] เสมหะมีเลือดปน คืออะไร เสมหะมีเลือดปนเป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อไอแล้วพบว่าเสมหะหรือน้ำลายมีเลือดปนออกมา เลือดอาจเป็นสีชมพู สีแดง หรือสีสนิม มักออกในปริมาณน้อยและเป็นฟอง เกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่มักไม่ใช่อาการรุนแรงหรือเป็นอันตราย เช่น มีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ในทางเดินหายใจ ทางเดินหายใจระคายเคืองจากการสูบบุหรี่ ผลข้างเคียงจากการใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด แต่หากเป็นเรื้อรัง อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพ ควรไปหาคุณหมอเพื่อตรวจวินิจฉัยต่อไป เสมหะมีเลือดปน ต่างจาก อาเจียนเป็นเลือด อย่างไร เสมหะมีเลือดปนแตกต่างไปจากการอาเจียนเป็นเลือด (Hematemesis) ตรงที่อาการไอแล้วพบว่าเสมหะมีเลือดปนเล็กน้อย มักเป็นเลือดที่มาจากเส้นเลือดฝอยแตกภายในปากหรือลำคอหลังจากมีอาการไอเรื้อรัง ส่วนอาการอาเจียนเป็นเลือด มักเกี่ยวข้องกับอาการเลือดออกภายในที่อาจเกิดจากหลอดเลือดของอวัยวะในร่างกายบริเวณระบบทางเดินอาหารส่วนบนเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กส่วนต้นที่เรียกว่าดูโอดีนัม (Duodenum) ซึ่งควรไปพบคุณหมอเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุและรักษาอย่างตรงจุด เสมหะมีเลือดปน เกิดจากอะไร โดยทั่วไปแล้ว อาการไอแล้วพบว่าเสมหะมีเลือดปน มักสัมพันธ์กับการติดเชื้อบางอย่าง หรือภาวะสุขภาพที่พบได้บ่อย เช่น โรคหลอดลมอักเสบ (Bronchitis) เกิดจากเยื่อบุหลอดลมซึ่งเป็นส่วนที่นำอากาศเข้าและออกจากปอดอักเสบ ทำให้หลอดลมบวมและตีบ ส่งผลให้อากาศไหลผ่านได้ยากขึ้น […]


โรคทางเดินหายใจ

แพทย์แนะสร้างภูมิด้วยวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เกราะป้องกันโรคปอดอักเสบ!

แพทย์เตือนเร่งสร้างภูมิด้วยวัคซีนไข้หวัดใหญ่ หนึ่งในเกราะป้องกันโรคปอดอักเสบ ลดอาการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิต    ด้วยสถานการณ์โรคปอดอักเสบ ถือเป็นโรคติดเชื้อที่มีอุบัติการณ์การเสียชีวิตทั่วโลกกว่า 2.5 ล้านคน ในปี 2562 โดยในจำนวนนี้เป็นเด็กกว่า 672,000 คน และในสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้มีจำนวนผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกกว่า 2 ล้านคน ในปี 2563 รวมเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งสิ้นกว่า 4 ล้านคน ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี ซึ่งสูงกว่าจำนวนการเสียชีวิตจากโรคติดเชื้ออื่นๆ ศ. นพ. ธีระพงษ์ ตัณฑวิเชียร อาจารย์ประจำหน่วยโรคติดเชื้อ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้ช่วยผู้อำนวยการและรักษาการหัวหน้าฝ่ายวิจัยและบริการคลินิก สถานเสาวภา สภากาชาดไทย เปิดเผยถึงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อหลักๆ ในปัจจุบันที่จะนำไปสู่ภาวะของ ‘โรคปอดอักเสบ’ หรือที่รู้จักกันดีว่า ‘โรคปอดบวม’ ซึ่งหมายถึงการอักเสบที่เนื้อปอด ประกอบด้วยถุงลมปอดและเนื้อเยื่อโดยรอบ ทำให้ปอดทำหน้าที่ได้น้อยลง เกิดอาการหายใจหอบเหนื่อย หายใจลำบาก ซึ่งผู้ป่วยอาจมีอาการรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้  พบว่าโรคปอดอักเสบมีสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อ โดยหลักๆ เกิดจากเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเชื้อไวรัสที่พบได้บ่อย มีอยู่ 3 ตัวหลักๆ ได้แก่ ไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza Virus), ไวรัสโควิด-19 […]


โรคทางเดินหายใจ

ฝุ่น มลพิษ PM 2.5 กลับมาอีกครั้ง รับมืออย่างไรให้ห่างไกลโรค

ฝุ่น มลพิษ PM 2.5 เป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ส่วนใหญ่ในประเทศไทยและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ รวมทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ว่าฝุ่นพีเอ็มเกิดขึ้นได้อย่างไร กระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้อย่างไร และควรดูแลตัวเองอย่างไร อาจช่วยให้สามารถรับมือกับฝุ่นและป้องกันโรคต่าง ๆ ที่เกิดจากฝุ่นและมลพิษทางอากาศได้ดีขึ้น [embed-health-tool-bmi] ฝุ่นและมลพิษในอากาศเกิดจากอะไร ฝุ่นและมลพิษทางอากาศ อาจแบ่งออกเป็นมลภาวะที่เกิดได้จากแหล่งธรรมชาติและแหล่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ได้แก่ มลพิษจากแหล่งธรรมชาติ จะปล่อยสารอันตรายสู่อากาศ เช่น ควันจากไฟป่า (เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติหรือเกิดจากฝีมือมนุษย์ เช่น การเผาป่า) เถ้าและก๊าซจากการปะทุของภูเขาไฟ ก๊าซมีเทนที่เกิดจากการย่อยสลายอินทรียวัตถุในดิน มลพิษที่มนุษย์สร้างขึ้น ชนิดที่พบได้บ่อย อาจมีดังนี้ มลพิษทางอากาศที่เกี่ยวข้องกับการจราจร เป็นมลภาวะที่มีองค์ประกอบของมลพิษทางอากาศที่มนุษย์สร้างขึ้นรวมอยู่ด้วยกันมากที่สุด เช่น ไนโตรเจนออกไซด์ (Nitrogen oxides) ซัลเฟอร์ออกไซด์ (Sulfur oxides) หมอกปนควัน (Smog) เป็นโอโซนที่อยู่ระดับพื้นดิน เกิดขึ้นเมื่อมลพิษที่ปล่อยออกมาจากรถยนต์ โรงไฟฟ้า หม้อไอน้ำที่ใช้ในอุตสาหกรรม โรงกลั่น และแหล่งอื่น ๆ ทำปฏิกิริยาทางเคมีกับแสงแดด ก๊าซพิษ (Noxious gases) ที่เกิดขึ้นจากการปล่อยมลพิษของยานยนต์และกระบวนการทางอุตสาหกรรม เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon dioxide) คาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon monoxide) ไนโตรเจนออกไซด์ […]


โรคทางเดินหายใจ

ไอ เกิดจากอะไร และควรรักษาอย่างไร

ไอ เป็นอาการที่ร่างกายตอบสนองต่อการระคายเคืองของสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ซึ่งอาจทำให้ทราบถึงอาการป่วยในระยะแรกและสัญญาณเตือนของโรคต่าง ๆ เช่น โรคไข้หวัดธรรมดา โรคไข้หวัดใหญ่ โรคโควิด-19 เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยหรือรักษาได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องรอให้อาการหนักรุนแรง [embed-health-tool-bmi] ไอ คืออะไร  ไอ คือ กระบวนการตอบสนองของร่างกาย เมื่อมีสิ่งระคายเคืองหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ เช่น ฝุ่น น้ำมูก ละอองน้ำหอม เชื้อแบคทีเรีย โดยการระคายเคืองนั้นจะกระตุ้นเส้นประสาทที่ส่งไปยังสมองสั่งให้เกิดอาการไอ เพื่อช่วยขับสิ่งแปลกปลอมที่ส่งผลให้ระคายเคืองออกมา อาการไอแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน ดังนี้ อาการไอแห้ง เป็นอาการไอที่ไม่มีเสมหะ เนื่องจากไม่มีเสมหะ หรือน้ำมูกอุดตันอยู่ในปอดหรือทางเดินหายใจ แต่อาจส่งผลให้มีอาการคอแห้ง ระคายเคืองภายในลำคอ และเจ็บคอ โดยอาการไอแห้งอาจเกิดขึ้นเมื่อเป็นกรดไหลย้อน การเจ็บป่วย สำลักอาหาร สูบบุหรี่ และผลข้างเคียไองจากยาบางชนิด  อาการไอแบบมีเสมหะ เป็นอาการไอที่มาพร้อมกับเสมหะในลำคอ มีลักษณะเป็นเมือกสีขาวใส สีขาวขุ่น สีเขียว สีเหลือง ที่อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย การติดเชื้อไวรัส เป็นสัญญาณเตือนแรกของอาการเจ็บป่วย ที่ควรเข้ารับการรักษาหรือรับประทานยาแก้ไอและลายเสมหะ เพราะหากภายในปอดมีเสมหะมากเกินไปอาจนำไปสู่การหายใจลำบากได้ อาการไอดังกล่าว อาจเกิดขึ้นได้แบบเฉียบพลันหรืออาจเรื้อรังเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ดังนั้น จึงควรสังเกตอาการอื่น ๆ ร่วม เพื่อเช็กตนเองว่ากำลังเจ็บป่วยอยู่หรือไม่ เช่น มีไข้สูง […]


ปัญหาระบบทางเดินหายใจแบบอื่น

แน่นหน้าอก หายใจลำบาก สาเหตุและการดูแลตัวเอง

แน่นหน้าอก หายใจลำบาก เป็นอาการป่วยที่มักมีสาเหตุหลักมาจากปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับหัวใจและปอด เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ โรคหลอดเลือดหัวใจ วัณโรค โรคโควิด-19 ทั้งนี้ เมื่อพบอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก ควรไปพบคุณหมอ เพราอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพซึ่งหากปล่อยไว้จะยิ่งแย่ลงหรืออาจเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตได้ [embed-health-tool-bmr] แน่นหน้าอก หายใจลำบากเกิดจากสาเหตุใดบ้าง แน่นหน้าอก หายใจลำบาก เป็นอาการป่วยที่มักเกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน และมีสาเหตุหลัก ๆ มาจากปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวกับหัวใจและปอด เนื่องจากอวัยวะทั้ง 2 อย่างนี้ สัมพันธ์กับการหายใจ หรือการแลกเปลี่ยนออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ภายในร่างกาย สำหรับปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับหัวใจและปอด หมายถึงโรคต่างๆดังนี้ ปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับหัวใจ โรคกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ โรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน โรคหลอดเลือดหัวใจ หัวใจล้มเหลว หัวใจเต้นผิดจังหวะ ปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับปอด โรคครูป โรคซาร์คอยโดซิส โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคมะเร็งปอด เยื่อหุ้มปอดอักเสบ น้ำท่วมปอด พังผืดที่ปอด ปอดรั่ว ความดันเลือดปอดสูง วัณโรค โรคโควิด-19 นอกจากปัญหาสุขภาพข้างต้น อาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ยังอาจเกิดขึ้นจากสาเหตุอื่น ๆ ดังต่อไปนี้ โรคหอบหืด ความเครียด โรควิตกกังวล โรคอ้วน โรคกรดไหลย้อน ซี่โครงหัก […]


โรคทางเดินหายใจ

แสบจมูก เกิดจากอะไร และวิธีบรรเทาอาการแสบจมูกที่เหมาะสม

แสบจมูก เป็นอาการที่พบได้ทั่วไป เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้หรือภูมิแพ้อากาศ โรคจมูกอักเสบชนิดไม่แพ้ โรคไซนัสอักเสบ อุณหภูมิและความชื้นในอากาศเปลี่ยนแปลงกะทันหัน และการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคโควิด-19 โรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้หวัด ก็อาจทำให้แสบจมูกได้เช่นกัน โดยทั่วไปอาการแสบจมูกอาจบรรเทาได้ด้วยการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ การกินยารักษาตามอาการ การใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ การพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นต้น แต่หากดูแลตัวเองเบื้องต้นแล้วอาการไม่ดีขึ้น หรืออาการที่เป็นอยู่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันและการนอนหลับ ควรไปพบคุณหมอเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม [embed-health-tool-bmi] แสบจมูก เกิดได้จากสาเหตุใดบ้าง อาการ แสบจมูก อาจเกิดได้จากสาเหตุต่อไปนี้ โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ (Allergic Rhinitis) หรือภูมิแพ้อากาศ เป็นโรคที่พบได้บ่อย เกิดจากการตอบสนองที่ผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันต่อสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น รา ละอองเกสรดอกไม้ ขนสัตว์ หรือเมื่อสัมผัสกับการเปลี่ยนแปลงของอากาศ ความชื้นในอากาศ ทำให้เนื้อเยื่อจมูกอักเสบ ส่งผลให้มีอาการคัดจมูก แสบจมูก จมูกบวมแดง ไอ มีสารคัดหลั่งปริมาณมากสะสมอยู่ในโพรงจมูก น้ำมูกไหลลงคอ ทั้งยังทำให้คันตา ตาแดงได้ด้วย โดยผู้ที่มีคนในครอบครัวเป็นภูมิแพ้อากาศจะเสี่ยงเกิดโรคนี้ได้มากกว่าคนทั่วไป วิธีรักษา หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้หรือสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ให้ได้มากที่สุด อาจช่วยให้อาการบรรเทาได้ ใช้ยาแก้แพ้กลุ่มที่ไม่กดประสาท (Non-sedating antihistamines) เช่น เฟกโซเฟนาดีน (Fexofenadine) เลโวเซทิริซีน (Levocetirizine) […]


โรคทางเดินหายใจ

ระบบหายใจ คืออะไร มีกระบวนการทำงานอย่างไร

ระบบหายใจ หรือระบบทางเดินหายใจเป็นระบบการทำงานในร่างกายที่เกี่ยวข้องการหายใจเข้าออกเพื่อแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ในกระแสเลือด โดยประกอบไปด้วยอวัยวะต่าง ๆ ทำงานร่วมกัน เช่น จมูก ปาก หลอดลม ปอด หากเกิดความผิดปกติกับระบบทางเดินหายใจ เช่น ติดเชื้อไวรัส ติดเชื้อแบคทีเรีย ติดเชื้อรา ก็อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของร่างกายได้ ดังนั้น จึงควรสังเกตอาการผิดปกติและควรดูแลตัวเองให้ดี เพราะบางโรคอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างรุนแรงเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ [embed-health-tool-heart-rate] ระบบหายใจ คืออะไร ระบบหายใจ หรือระบบทางเดินหายใจ คือ ระบบการทำงานในร่างกายที่ช่วยแลกเปลี่ยนออกซิเจนเมื่อหายใจเข้าและปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เมื่อหายใจออก ซึ่งเมื่อออกซิเจนเข้าสู่กระแสเลือดจะถูกส่งต่อไปยังเซลล์ในร่างกายเพื่อช่วยให้อวัยวะส่วนต่าง ๆ มีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น อีกทั้งระบบหายใจยังช่วยให้รับรู้กลิ่นได้อีกด้วย กระบวนการทำงานของ ระบบหายใจ กระบวนการทำงานของระบบหายใจเกิดขึ้นจากการทำงานร่วมกันกับอวัยวะส่วนต่าง ๆ ได้แก่ ปาก จมูก ไซนัส คอหอย กล่องเสียง หลอดลม หลอดลมฝอย ปอด เส้นเลือดฝอย เยื่อหุ้มปอด ถุงลม ที่แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ดังนี้ กระบวนการทำงานเมื่อหายใจเข้า กระบวนการหายใจเข้าเริ่มต้นจากกะบังลมหดตัวและเลื่อนต่ำลง ทำให้เกิดช่องว่างในปอด ให้อากาศสามารถไหลผ่านจมูกและปากเข้ามา โดยอากาศจะผ่านไซนัสที่มีส่วนช่วยควบคุมอุณหภูมิของอากาศและผ่านคอหอย กล่องเสียงที่จะนำส่งอากาศไปยังหลอดลมหลักซึ่งเชื่อมอยู่ระหว่างคอและปอด ก่อนจะลงไปยังหลอดลมฝอยที่เชื่อมกับปอดด้านซ้ายและด้านขวา จากนั้นอากาศจะเข้าสู่กระแสเลือดแล้วถูกส่งไปยังหัวใจ จากนั้นหัวใจจะทำหน้าที่ต่อด้วยการสูบฉีดเม็ดเลือดแดงที่เต็มไปด้วยออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงเนื้อเยื่อและเซลล์ของอวัยวะในร่างกาย กระบวนการทำงานเมื่อหายใจออก ในระหว่างที่สูดอากาศเพื่อนำออกซิเจนเข้า หลอดลมฝอยในถุงลมจะมีการแลกเปลี่ยนก๊าซขึ้น โดยจะนำออกซิเจนเข้าและกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ออกผ่านการหายใจออก โดยกะบังลมจะคลายตัวและช่วยดันอากาศออกผ่านทางหลอดลมที่ออกมาทางจมูกหรือปาก [embed-health-tool-heart-rate] โรคทางเดินหายใจ […]


ปัญหาระบบทางเดินหายใจแบบอื่น

มีเสมหะในคอ ควรดูแลตัวเองอย่างไรให้อาการดีขึ้น

เสมหะ เป็นสารคัดหลั่งจากปาก จมูก หรือลำคอ มีหน้าที่ ดักจับฝุ่นละออง สารก่อภูมิแพ้ หรือเชื้อโรคที่อาจเข้าสู่ร่างกายและทำให้ระบบหายใจมีปัญหา หาก มีเสมหะในคอ มากกว่าปกติ มักเป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายกำลังป่วย ควรดูแลตัวเองด้วยการดื่มน้ำปริมาณมาก งดการสูบบุหรี่ หรือรับประทานยาละลายเสมหะ [embed-health-tool-bmr] เสมหะ คืออะไร เสมหะหรือเสลด เป็นสารคัดหลั่งที่เหนียวและข้นซึ่งผลิตจากเยื่อเมือกบริเวณจมูก ปาก ลำคอ หรือปอด มีหน้าที่ดักจับฝุ่นละออง สารก่อภูมิแพ้ หรือเชื้อโรค ซึ่งหากเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมากอาจทำให้ระบบหายใจแย่ลงได้ โดยทั่วไป เสมหะจะมีปริมาณน้อยและไม่ทำให้รู้สึกรำคาญ อย่างไรก็ตาม หากปริมาณของเสมหะมากขึ้นจนผิดสังเกต หรือต้องบ้วนออกบ่อย ๆ จะหมายความว่าร่างกายได้รับฝุ่นละอองหรือเชื้อโรคในระดับที่มากกว่าปกติ หรือกำลังป่วยอยู่ เช่น เป็นไข้หวัด หลอดลมอักเสบ ไซนัสอักเสบ วัณโรค มีเสมหะในคอ ควรดูแลตัวเองอย่างไรให้เสมหะลดลง เมื่อมีเสมหะในลำคอมากผิดปกติ ควรดูแลตัวเองด้วยวิธีการต่อไปนี้เพื่อบรรเทาอาการ เปิดเครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ (Humidifier) เนื่องจากอากาศที่แห้งมักทำให้จมูกหรือลำคอระคายเคือง และส่งผลให้ร่างกายต้องผลิตเสมหะมากขึ้น ดื่มน้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มอื่น ๆ เพื่อเจือจางเสมหะในลำคอ และทำให้เสมหะถูกขับออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้น กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ เป็นเวลา 30-60 วินาทีแล้วบ้วนออก สูดดมน้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัส เนื่องจากมีสารยูคาลิปทอล (Eucalyptol) ซึ่งมีคุณสมบัติส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อสูดดมแล้วอาจช่วยบรรเทาอาการของโรคหวัดหรือหลอดลมอักเสบซึ่งเป็นสาเหตุให้มีเสมหะในลำคอมากขึ้นได้ […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน