หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน (Acute bronchitis) เป็นการอักเสบของเยื่อบุผิวภายในหลอดลม ทำให้ต่อมเมือกโตขึ้นและหลั่งเมือกออกมา หากมีอาการนานกว่า 10 วัน จะเรียกว่า หลอดลมอักเสบเรื้อรัง
คำจำกัดความ
หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน คืออะไร
หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน (Acute bronchitis) เป็นการอักเสบของเยื่อบุผิวภายในหลอดลม ทำให้ต่อมเมือกโตขึ้นและหลั่งเมือกออกมา ซึ่งการติดเชื้อที่หน้าอกนี้ หากมีอาการน้อยกว่า 10 วัน ก็จะเป็นภาวะหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน หากมีอาการติดต่อกันหลายสัปดาห์ ก็จะเป็นโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังและอาจจะกำเริบได้อีก ภาวะหลอดลมอักเสบเฉียบพลันนี้อาจจะมีอาการแย่ลงแล้วกลายเป็นโรคปอดบวมได้
หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน พบได้บ่อยแค่ไหน
หลอดลมอักเสบเฉียบพลันเป็นการติดเชื้อไวรัสที่พบบ่อย มักจะเกิดขึ้นหลังจากเป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ มีแนวโน้มสูงที่จะเกิดในผู้สูงอายุ เด็กทารกและเด็ก
อาการ
อาการของหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน
อาการของ โรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน จะมีความคล้ายคลึงกับโรคไข้หวัด อาการที่อาจจะเกิดขึ้นมีดังนี้
- ไอมีเสมหะ
- เจ็บคอ
- เป็นไข้
- อาการปวดหัว
- ปวดเมื่อย
- หายใจฟึดฟัด
- หายใจถี่
- รู้สึกเจ็บหน้าอกเมื่อหายเข้าใจลึกๆ หรือไอ
อาจจะมีอาการอื่น ๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้ข้างต้น หากคุณมีข้อกังวลโปรดปรึกษาแพทย์
ควรจะไปพบคุณหมอเมื่อไหร่
ควรติดต่อแพทย์หากคุณมีอาการต่อไปนี้
- ไอติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 20 วัน
- นอนไม่หลับ
- น้ำมูกหรือเสมหะเป็นสีเหลืองหรือสีม่วงเข้ม
- มีเลือดปนในน้ำมูกหรือเสมหะ
หากมีอาการปอดบวมดังต่อไปนี้ ควรรับการรักษาโดยเร็วที่สุด
- มีไข้สูงมากกว่า 38 องศา
- หนาวสั่น
- รู้สึกหดหู่หรืออ่อนล้าอย่างรุนแรง
สาเหตุ
สาเหตุของหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน
สาเหตุโดยทั่วไปคือการติดเชื้อไวรัสจากการเป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ นอกจากนี้ยังมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย และการระคายเคืองในเยื่อบุหลอดลมจากสารเคมี ควัน ฝุ่น หรือมลพิษ
การอักเสบและการระคายเคืองของเยื่อบุอาจทำให้เกิดอาการไอ การผลิตเมือกมากเกินไปก็อาจจะทำให้หลอดลมหดตัวลงและทำให้หายใจไม่ออกได้
โรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน อาจมีอาการแย่ลงได้ หากทำสิ่งต่อไปนี้
- สูบบุหรี่
- อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีมลพิษ
- ไม่สนใจอาการหรือความผิดปกติของร่างกาย
- ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน
- การสูบบุหรี่
- ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- อาการวิงเวียนอย่างรุนแรงเนื่องจากกรดไหลย้อนในกระเพาะอาหาร
- ทำงานในสถานที่ที่มีมลพิษหรือเกิดการระคายเคือง
- ปัญหาเกี่ยวกับปอด เช่น โรคหอบหืด
การวินิจฉัยและการรักษา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์ทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัย โรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน
สำหรับการวินิจฉัยโรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลันนั้น แพทย์อาจตรวจต้องร่างกายและฟังเสียงของปอด นอกจากนี้ยังอาจจะต้องมีการเอ็กซเรย์ที่หน้าอก หากแพทย์สงสัยว่าเป็นโรคปอดบวม ซึ่งในกรณีนี้ไม่จำเป็นจะต้องตรวจเลือด
การรักษา โรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน
แพทย์อาจสั่งยาที่ช่วยบรรเทาอาการระคายเคือง หากมีไข้ อาจจะต้องใช้ยาลดไข้เพื่อลดอุณหภูมิของร่างกาย นอกจากนี้ยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล (Paracetamol) และ ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) ก็สามารถช่วยลดความรู้สึกไม่สบายและระคายเคืองของหน้าอกได้
แพทย์อาจใช้ยาลดน้ำมูกเพื่อรักษาอาการอื่นๆ ที่เกิดจากหวัด นอกจากนี้ อาจต้องใช้ยาขยายหลอดลมเพื่อช่วยเปิดทางเดินหายใจ ทำให้หายใจได้สะดวกมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์และการป้องกัน
การเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์และการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิด โรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน มีอะไรบ้าง
ภาวะหลอดลมอักเสบเฉียบพลันนั้นสามารถป้องกันได้ หากเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิตแบบเดิมๆ ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคและรู้วิธีป้องกันอย่างถูกต้อง
- หยุดสูบบุหรี่
- หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีควัน
- ดื่มน้ำเยอะๆ สามารถดื่มน้ำผลไม้ได้เช่นกัน แต่ควรงดคาเฟอีนจนกว่าจะฟื้นตัวเต็มที่
- พักผ่อนเยอะๆ
- ทำให้ห้องชื้นโดยอาจใช้ผ้าเช็ดตัวชุบน้ำหมาดๆ
- ล้างมือบ่อยๆเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจาย
- ไปพบแพทย์ของถ้าอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง
- อย่าตัดสินใจใช้ยาอื่นโดยไม่ได้รับยาจากใบสั่งแพทย์
หากมีคำถามใดๆ โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อทำความเข้าใจและหาทางออกที่ดีที่สุด