อาหารเสริมสำหรับคนเป็นเบาหวาน มีอะไรบ้าง

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย พลอย วงษ์วิไล


เขียนโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย · แก้ไขล่าสุด 3 สัปดาห์ก่อน

    อาหารเสริมสำหรับคนเป็นเบาหวาน มีอะไรบ้าง

    อาหารเสริมสำหรับคนเป็นเบาหวาน อาจมีส่วนช่วยในการปรับปรุงระดับน้ำตาลในเลือด และภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเบาหวาน ทั้งยังอาจช่วยป้องกันและรักษาเบาหวานได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรรับประทานอาหารเสริมเพื่อทดแทนการรักษาเบาหวาน เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะสุขภาพบางประการ

    อาหารเสริม คืออะไร

    อาหารเสริม คือ วิตามินและแร่ธาตุ กรดอะมิโน รวมถึงส่วนประกอบทางโภชนาการอื่น ๆ เช่น สมุนไพร ซึ่งอาจเหมาะสำหรับผู้ที่ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นเบาหวาน โดยอาหารเสริมอาจให้คุณค่าทางโภชนาการเพิ่มเติมแก่ร่างกายได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยเบาหวานจำเป็นต้องรับประทานยารักษาเบาหวานตามคำสั่งของคุณหมออย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

    อาหารเสริมสำหรับคนเป็นเบาหวาน มีอะไรบ้าง

    โดยส่วนใหญ่แล้ว อาหารเสริมสําหรับคนเป็นเบาหวานอาจมีหน้าที่ในการช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิต ปรับปรุงระดับคอเลสเตอรอล ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลิน ช่วยป้องกันโรคระบบประสาท และอาจช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเบาหวานได้ ซึ่งอาหารเสริมสำหรับเบาหวาน อาจมีดังนี้

    กรดอัลฟาไลโปอิก (Alpha Lipoic Acid หรือ ALA)

    กรดอัลฟาไลโปอิก เป็นสารต้านอนุมูลสระที่ช่วยให้ร่างกายเปลี่ยนพลังงานเป็นอาหาร ซึ่งอาจช่วยลดอาการปวดจากโรคเส้นประสาทจากเบาหวาน และปรับปรุงอาการที่เกี่ยวข้องกับโรคเส้นประสาทจากเบาหวาน ทั้งยังอาจช่วยลดอาการบวมน้ำที่จอประสาทตาจากเบาหวาน ที่อาจทำให้สูญเสียการมองเห็น และอาจช่วยปรับปรุงการมองเห็นได้อีกด้วย นอกจากนี้ กรดอัลฟาไลโปอิกยังอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร (FPG) และลดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันได้อีกด้วย

    อบเชย

    เป็นเครื่องเทศที่อาจช่วยเพิ่มความไวของอินซูลิน ลดระดับน้ำตาลในเลือด และลดระดับคอเลสเตอรอลในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrients เมื่อ พ.ศ. 2555 ศึกษาเกี่ยวกับอบเชยเป็นแนวทางการรักษาเสริมสำหรับภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำและการควบคุมภาวะไขมันในเลือดผิดปกติในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 และกลไกการออกฤทธิ์ระดับโมเลกุล พบว่า อบเชยอาจมีประโยชน์ต่อเบาหวานชนิดที่ 2 ในการช่วยปรับปรุงตัวบ่งชี้ระดับน้ำตาลในเลือดและไขมันในเลือด ช่วยกระตุ้นการควบคุมการเผาผลาญกลูโคสในเนื้อเยื่อ ทั้งยังช่วยลดคอเลสเตอรอลและการดูดซึมกรดไขมันในลำไส้ได้อีกด้วย

    โครเมียม

    การขาดโครเมียมอาจทำให้ระดับดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ดังนั้น การรับประทานอาหารเสริมโครเมียมจึงอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหารในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 และยังอาจช่วยเพิ่มความทนทานต่อกลูโคสในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2 รวมถึงอาจช่วยลดระดับอินซูลิน และลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ได้อีกด้วย

    แมกนีเซียม

    แมกนีเซียมเป็นสารอาหารจำเป็นที่พบได้ในอาหารหลายชนิด การขาดแมกนีเซียมอาจส่งผลโดยตรงต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ทั้งยังขัดขวางกระบวนการหลั่งอินซูลิน ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่า แมกนีเซียมจำเป็นต่อการช่วยให้ร่างกายใช้กลูโคสได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    การรับประทานอาหารเสริมแมกนีเซียมอาจช่วยลดปริมาณอินซูลินในผู้ป่วยเบาหวาน ทั้งยังอาจช่วยบรรเทาหรือลดปัญหาเกี่ยวกับการหลั่งอินซูลินในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีภาวะแทรกซ้อนได้ นอกจากนี้ ยังอาจควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ช่วยเพิ่มระดับน้ำตาล และยังอาจช่วยเพิ่มความไวของอินซูลินในผู้ที่มีความเสี่ยงได้อีกด้วย

    วิตามินดี

    วิตามินดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ซึ่งการขาดวิตามินดีในผู้ป่วยเบาหวานอาจทำให้ความไวต่ออินซูลินลดลง นอกจากนี้ การมีระดับวิตามินดีต่ำยังมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการเกิดความผิดปกติของระบบเผาผลาญ เช่น เบาหวานชนิดที่ 2 กลุ่มอาการเมตาบอลิซึม ภาวะดื้อต่ออินซูลิน ดังนั้น การรับประทานอาหารเสริมวิตามินดีจึงอาจช่วยเพิ่มความไวของอินซูลิน ซึ่งมีความสำคัญต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ทั้งยังช่วยลดการดื้อต่ออินซูลินและเพิ่มการหลั่งอินซูลิน รวมถึงอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเบาหวานชนิดที่ 2 ได้อีกด้วย

    วิตามินอี

    วิตามินอีอาจช่วยเพิ่มออกซิเจนในเลือด ต่อสู้กับสารพิษ และอาจช่วยปรับปรุงการทำงานของอินซูลินในร่างกาย หากร่างกายได้รับวิตามินอีไม่เพียงพออาจทำให้โครงสร้างภายในร่างกายถูกทำลายจากสารอนุมูลอิสระที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น การรับประทานอาหารเสริมวิตามินอีอาจช่วยลดโอกาสในการเกิดเบาหวานชนิดที่ 2 อาจเพิ่มความทนทานต่อกลุโคสในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 และสารต้านอนุมูลอิสระในวิตามินอียังอาจช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานได้อีกด้วย

    ข้อควรระวังในการบริโภค อาหารเสริมสำหรับคนเป็นเบาหวาน

    แม้อาหารเสริมสำหรับคนเป็นเบาหวานจะมีประโยชน์ในการช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิต และอาจช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเบาหวานได้ แต่ก็มีข้อควรระวังในการบริโภค ดังนี้

    • ผู้ป่วยเบาหวานที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคไตไม่ควรรับประทานอาหารเสริมโครเมียม และอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของอบเชย เพราะอาจทำลายไต และทำให้อาการของโรคที่เป็นอยู่แย่ลงได้
    • การรับประทานอาหารเสริมแมกนีเซียมมากเกินไป อาจเป็นอันตรายและอาจส่งผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ ท้องเสีย เป็นตะคริวในช่องท้อง นอกจากนี้ การรับประทานอาหารเสริมแมกนีเซียมมากกว่า 5,000 มิลลิกรัม/วัน อาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
    • การรับประทานอาหารเสริมวิตามินดีมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ท้องผูก ไตเสียหาย อ่อนเพลีย สับสน และอาจมีปัญหาเกี่ยวกับจังหวะการเต้นของหัวใจ
    • การรับประทานอาหารเสริมกรดอัลฟาไลโปอิกในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร

    สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ก่อนรับประทานนอาหารเสริมควรปรึกษาคุณหมอก่อนเสมอ เพราะอาหารเสริมบางชนิดอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของยารักษาเบาหวานได้ รวมถึงอาจทำให้โรคที่เป็นอยู่มีอาการแย่ลงได้ด้วย

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    พลอย วงษ์วิไล


    เขียนโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย · แก้ไขล่าสุด 3 สัปดาห์ก่อน

    โฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    โฆษณา
    โฆษณา
    โฆษณา