ถุงตั้งครรภ์หลุดเกิดจากการแท้งบุตร และร่างกายจะขับถุงตั้งครรภ์ออกมาเองตามธรรมชาติ ซึ่งไม่มีอาการที่เป็นสัญญาณอันตราย โดย ลักษณะถุงตั้งครรภ์หลุด อาจทำให้พบชิ้นเนื้อลักษณะคล้ายพุงปลา สีแดงหรือสีน้ำตาลหลุดออกมาจากช่องคลอด จึงควรเข้าพบคุณหมอเพื่อประเมินอาการทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติขณะตั้งครรภ์หรือการแท้งบุตรได้
[embed-health-tool-ovulation]
ถุงตั้งครรภ์หลุด คืออะไร
ถุงตั้งครรภ์ (Gestational Sac) คือ เป็นโครงสร้างที่เต็มไปด้วยของเหลวล้อมรอบตัวอ่อน เริ่มพบในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกของการพัฒนาของตัวอ่อน ซึ่งเป็นสัญญาณแรกของการตั้งครรภ์ โดยสามารถตรวจพบได้จากการอัลตราซาวน์ เมื่ออายุครรภ์ประมาณ 4-5 สัปดาห์ อาจสามารถวัดขนาดค่าเฉลี่ยเส้นผ่าศูนย์กลางของถุงตั้งครรภ์ได้ประมาณ 2-3 มิลลิเมตร
โดยคุณหมอจะใช้ถุงตั้งครรภ์ในการวินิจฉัยความผิดปกติขณะตั้งครรภ์ เช่น การตั้งครรภ์ในมดลูก การตั้งครรภ์โดยไม่ทราบตำแหน่ง การตั้งครรภ์นอกมดลูก ตลอดจนประเมินความสามารถในการตั้งครรภ์
สาเหตุของถุงตั้งครรภ์หลุด
ถุงตั้งครรภ์หลุดอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยสาเหตุที่พบบ่อย มีดังนี้
- ภาวะทารกในครรภ์หยุดการเจริญเติบโต เป็นสาเหตุที่พบบ่อย เนื่องจากเมื่อไม่พบการมีชีวิตอยู่ของทารกในครรภ์ ฮอร์โมนเอชซีจี (HCG) ก็จะลดลง จากนั้นถุงตั้งครรภ์จะหลุดเองตามธรรมชาติ
- ภาวะท้องลม (Blighted Ovum) เป็นการตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นจริง แต่ตัวอ่อนไม่แข็งแรงจนเกิดภาวะไข่ฝ่อ ทำให้ไม่มีทารกอยู่ในครรภ์อีกต่อไป เหลือเพียงถุงตั้งครรภ์ที่ว่างเปล่าและถุงตั้งครรภ์จะหลุดออกมาเองตามธรรมชาติ
นอกจากนี้ ยังมีบางกรณีที่คุณหมอตรวจไม่พบถุงตั้งครรภ์ ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุ ดังนี้
- อัลตราซาวน์เร็วเกินไป การคำนวณอายุครรภ์ผิดอาจทำให้ไม่สามารถตรวจเจอถุงตั้งครรภ์ได้ จึงต้องกลับมาตรวจซ้ำอีกครั้ง
- การตั้งครรภ์นอกมดลูก หากฮอร์โมนเอชซีจีอยู่ในระดับปกติ แต่อัลตราซาวน์แล้วไม่พบถุงตั้งครรภ์อาจเป็นไปได้ว่ามีการตั้งครรภ์นอกมดลูก
ลักษณะถุงตั้งครรภ์หลุด เป็นอย่างไร
เมื่อถุงตั้งครรภ์หลุดอาจไม่มีอาการแสดงที่ชัดเจน และไม่มีอาการแทรกซ้อนที่เป็นอันตราย โดยลักษณะถุงตั้งครรภ์หลุดอาจเป็น ดังนี้
- พบชิ้นเนื้อลักษณะคล้ายพุงปลา สีแดงหรือสีน้ำตาล หลุดออกมาจากจากช่องคลอด
- อาจมีลิ่มเลือดและเลือดไหลออกมาจากช่องคลอดเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ถุงตั้งครรภ์สามารถหลุดออกมาเองได้ทั้งหมด เมื่อไม่มีสัญญาณชีวิตของตัวอ่อนอยู่ในครรภ์อีกต่อไป ซึ่งร่างกายจะขับถุงตั้งครรภ์ออกมาเองโดยไม่ต้องเข้ารับการรักษาด้วยการขูดมดลูก
ยกเว้นในบางกรณีที่ร่างกายไม่สามารถขับถุงตั้งครรภ์ออกมาได้เองจนหมด และตรวจพบเนื้อเยื่อตกค้าง คุณหมออาจพิจารณารักษาด้วยการขูดมดลูกเพื่อป้องกันการติดเชื้อเข้าไปภายในโพรงมดลูก และป้องกันการเสียเลือดจากภาวะแท้งที่ไม่สมบูรณ์นี้ได้
เมื่อไหร่ควรพบคุณหมอ
หากพบว่าตัวเองตั้งครรภ์ควรตรวจอาการความผิดปกติอยู่เสมอ หากพบอาการต่อไปนี้เกิดขึ้น ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อตรวจสุขภาพครรภ์ เพราะอาจเป็นสัญญาณของการแท้งบุตร
- ปวดท้องรุนแรงโดยเฉพาะบริเวณท้องส่วนล่าง
- มีเลือดและลิ่มเลือดออกทางช่องคลอดปริมาณมาก
- มีชิ้นเนื้อหลุดออกมาทางช่องคลอด
- มดลูกบีบตัวอย่างรุนแรง
- ปวดหลังรุนแรง
- อ่อนล้า อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
- มีไข้
การดูแลตัวเองหลังถุงตั้งครรภ์หลุด
หลังถุงตั้งครรภ์หลุดควรเข้าพบคุณหมอเพื่อตรวจการตั้งครรภ์และสุขภาพโดยรวม นอกจากนี้ ควรดูแลตัวเองเพิ่มเติม ดังนี้
- เข้าพบคุณหมอเพื่อตรวจสุขภาพและรับคำปรึกษา โดยคุณหมออาจแนะนำให้ตรวจร่างกายและเจาะเลือด เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการตั้งครรภ์ครั้งต่อไป และคุณหมออาจให้คำแนะนำเกี่ยวกับการตั้งครรภ์อื่น ๆ เพิ่มเติม
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ หลังจากถุงตั้งครรภ์หลุด
- หากติดเชื้อในโพรงมดลูกให้งดมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 4 สัปดาห์ หรือจนกว่าจะหายเป็นปกติ
- ฟื้นฟูสภาพจิตใจและหลีกเลี่ยงสิ่งที่ก่อให้เกิดความเครียด โดยควรหากิจกรรมเพื่อผ่อนคลายความเครียด เช่น นอนพักผ่อน อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย พูดคุยกับเพื่อน รวมทั้งควรหลีกเลี่ยงการทำงานหนักติดต่อกัน