ฮอร์โมนเอชซีจีที่หลั่งในขณะตั้งครรภ์อาจเพิ่มระดับของเหลวในร่างกายและเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังไต เมื่อไตทำงานมากขึ้น ร่างกายจึงขับของเสียออกมาได้เร็วขึ้น ทำให้คนท้องจำเป็นถ่ายปัสสาวะบ่อยครั้ง นอกจากนี้ เมื่อเวลาผ่านไปมดลูกจะขยายตัวใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนไปกดทับกระเพาะปัสสาวะที่อยู่ใกล้เคียง ทำให้มีพื้นที่เก็บปัสสาวะน้อยลง และกระตุ้นให้ปวดปัสสาวะบ่อยขึ้น โดยคนท้องอาจเริ่มมีอาการถ่ายปัสสาวะบ่อยกว่าปกติภายใน 2-3 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์
วิธีดูแลตัวเองเมื่อตั้งครรภ์ระยะแรก
การดูแลตัวเองขณะตั้งครรภ์ระยะแรก สามารถทำได้ดังนี้
- ออกกำลังกายเบา ๆ คนท้องอ่อน ๆ สามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ โดยเน้นรูปแบบการออกกำลังกายที่เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและข้อต่อที่จำเป็นในการคลอดลูกอย่างสะโพกและกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน เช่น การแอโรบิกในน้ำ การปั่นจักรยานอยู่กับที่ การเดินระยะสั้น โยคะ ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย ปวดหลัง และตะคริวที่ขาได้ด้วย
- ปรึกษาคุณหมอผู้ดูแลก่อนใช้ยา หากคุณแม่ต้องการใช้ยารักษาโรค ควรปรึกษาคุณหมอและทีมแพทย์ผู้ดูแลทุกครั้ง เพื่อตรวจสอบว่ายาที่ต้องการใช้ปลอดภัยสำหรับเด็กในครรภ์หรือไม่ คุณหมออาจให้คำแนะนำในการเปลี่ยนยาหรือการใช้ยาในปริมาณที่เหมาะสม นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ไม่จำเป็นในระหว่างตั้งครรภ์ด้วย
- ลดอาหารและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง ช็อกโกแลต เนื่องจากคาเฟอีนจากคุณแม่สามารถส่งผ่านไปสู่ทารกในครรภ์ได้ผ่านทางรก จึงอาจส่งผลเสียต่อการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดของทารกในครรภ์ และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น ภาวะแท้ง ภาวะตายคลอด คนท้องควรจำกัดการบริโภคคาเฟอีนให้ไม่เกิน 200 มิลลิกรัม/วัน
- งดสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ขณะตั้งครรภ์จะทำให้เด็กได้รับสารเคมี เช่น นิโคติน ทาร์หรือน้ำมันดิน คาร์บอนมอนอกไซด์ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของทั้งคุณแม่และเด็กในครรภ์ จึงควรงดสูบบุหรี่ในช่วงวางแผนตั้งครรภ์ ช่วงตั้งครรภ์ และช่วงให้นมบุตร และควรหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้คนที่สูบบุหรี่ เพื่อลดความเสี่ยงในการรับควันบุหรี่มือสอง
ตรวจครรภ์ได้เร็วที่สุดเมื่อไหร่
ผู้ที่สงสัยว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์สามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้ด้วยการตรวจวัดระดับฮอร์โมนเอชซีจีในปัสสาวะโดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ด้วยตัวเองที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อและร้านขายยา โดยทั่วไป สามารถตรวจครรภ์ได้หลังจากที่พบว่าประจำเดือนขาดหรือไม่มาตามปกติ แต่เพื่อความแน่ใจ ควรรออย่างน้อย 1 สัปดาห์จึงค่อยใช้ที่ตรวจการตั้งครรภ์ และควรตรวจครรภ์ในตอนเช้าหลังตื่นนอน เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ระดับฮอร์โมนเอชซีจีค่อนข้างสูงจึงตรวจจับได้ง่าย ซึ่งจะทำให้ได้ผลทดสอบที่แม่นยำและคลาดเคลื่อนน้อยที่สุด
สัญญาณและอาการระหว่างตั้งครรภ์ที่ควรไปพบคุณหมอ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย