backup og meta

เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม สัญญาณเตือนของการตั้งครรภ์

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย Duangkamon Junnet


เขียนโดย ทีม Hello คุณหมอ · แก้ไขล่าสุด 4 สัปดาห์ก่อน

    เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม สัญญาณเตือนของการตั้งครรภ์

    เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม อาจเป็นสัญญาณเตือนของการตั้งครรภ์ในช่วงแรก อย่างไรก็ตาม อาการเหล่านี้อาจมีสาเหตุจากสภาวะอื่น ๆ ได้เช่นกัน เช่น ความดันโลหิตต่ำ ลำไส้อุดตัน ความเครียด ดังนั้น หากสงสัยหรือกังวลใจว่าตนเองตั้งครรภ์ และประจำเดือนขาดนานกว่า 2 เดือน ควรตรวจครรภ์ด้วยตนเองหรือเข้าพบคุณหมอเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุที่ชัดเจนของอาการดังกล่าว

    สัญญาณเตือนของการตั้งครรภ์

    สัญญาณเตือนของการตั้งครรภ์แรกเริ่ม อาจสังเกตได้จากอาการ เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม อาเจียน ประจำเดือนขาดนานกว่า 2 เดือน หรือบางคนอาจมีเลือดออกจากช่องคลอดกะปริบกะปรอย ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการฝังตัวของตัวอ่อน และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนการตั้งครรภ์ (Human Chorionic Gonadotropin: HCG) อย่างไรก็ตาม การที่ประจำเดือนขาดอาจไม่ได้หมายความว่าตั้งครรภ์เสมอไป เพราะอาจมีสาเหตุอื่น ๆ เช่น ความเครียด ความเหนื่อยล้า ยาคุมกำเนิด ดังนั้น จึงควรตรวจการตั้งครรภ์เพื่อให้ทราบแน่ชัดว่าตั้งครรภ์หรือไม่

    สัญญาณเตือนของการตั้งครรภ์อื่น ๆ มีดังนี้

    • ไวต่อกลิ่น อาการไวต่อกลิ่นอาจส่งผลให้รู้สึกเหม็นสิ่งรอบตัวที่แต่เดิมไม่รู้สึกว่าเหม็น เช่น กลิ่นน้ำหอม กลิ่นอาหาร  อีกทั้งยังอาจส่งผลกระทบต่อความอยากอาหาร อาจรู้สึกอยากรับประทานอาหารแปลก ๆ อาการเหล่านี้อาจบรรเทาลงในช่วงสัปดาห์ที่ 13-14 ของการตั้งครรภ์
    • เต้านมคัด เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนการตั้งครรภ์ เพื่อเตรียมผลิตน้ำนมให้ทารกหลังคลอด ส่งผลให้เต้านมคัด หน้าอกขยาย ไวต่อการสัมผัส และทำให้รู้สึกเจ็บหน้าอก จนอาจรู้สึกไม่สบายตัว แต่อาการนี้จะค่อย ๆ บรรเทาลงภายใน 2-3 สัปดาห์ เนื่องจากร่างกายปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
    • อาการเหนื่อยล้า อาจเกิดขึ้นตลอดเวลาในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ เนื่องจากร่างกายมีการผลิตฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการอผลิตเลือดมาส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารกจึงอาจส่งผลให้รู้สึกอ่อนเพลีย ง่วงนอน
    • ปัสสาวะบ่อย เนื่องจากมดลูกขยายตัวกดทับกระเพาะปัสสาวะ จึงทำให้อาจปัสสาวะบ่อยขึ้นตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ ปริมาณของเลือดที่เพิ่มขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์อาจทำให้ไตทำงานหนักเพื่อคัดกรองของเหลว จึงอาจส่งผลให้มีอาการปัสสาวะบ่อยขึ้นได้เช่นกัน
    • อารมณ์แปรปรวน ฮอร์โมนการตั้งครรภ์ที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้อารมณ์แปรปรวน ขึ้น ๆ ลง ๆ เช่น จากมีความสุข ดีใจ อาจเปลี่ยนเป็นร้องไห้ หงุดหงิดกะทันหัน 
    • อาการท้องผูก การตั้งครรภ์อาจทำให้ระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การเคลื่อนอาหารผ่านลำไส้ช้าลง จนนำไปสู่อาการท้องผูก

    วิธีการตรวจครรภ์ด้วยตัวเอง

    นอกเหนือจากอาการเวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม ควรตรวจครรภ์ด้วยตัวเองหากประจำเดือนขาดนานกว่า 2 เดือน หรือ 21 วันหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันครั้งสุดท้าย เนื่องจากเป็นช่วงที่ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนการตั้งครรภ์มากขึ้นทำให้ผลตรวจอาจแม่นยำ อีกทั้งยังควรตรวจในช่วงเช้าหรือปัสสาวะแรก เพราะเป็นช่วงเวลาที่ฮอร์โมนการตั้งครรภ์อยู่ในระดับสูง

    วิธีการตรวจครรภ์ด้วยตัวเองแบ่งเป็น 2 รูปแบบได้แก่

    1. ชุดทดสอบตั้งครรภ์แบบหยด 

    วิธีใช้

    • ปัสสาวะลงในถ้วยเก็บตัวอย่างปัสสาวะ
    • ดูดน้ำปัสสาวะมาหยดลงบนตลับทดสอบที่มีตัวอักษร S ประมาณ 3 หยด สูงสุดไม่เกิน 6 หยด เพื่อเพิ่มความไวในการอ่านค่าของตลับทดสอบ
    • วางทิ้งไว้ประมาณ 3 นาที หรือตามคำแนะนำที่ระบุข้างผลิตภัณฑ์ เพื่อรอผลทดสอบ

    เมื่อครบ 3 นาที แล้วพบว่ามีขีดสีแดงขึ้นขีดเดียวที่ตัวอักษร C คือไม่ตั้งครรภ์ แต่หากมีเส้นขีดสีแดงขึ้น 2 ขีด ที่ตรงกับตัวอักษร C และ T อาจหมายความว่ากำลังตั้งครรภ์ หากมีเส้นขีดสีแดงไม่ชัเจน ควรตรวจใหม่อีกครั้ง

    2. ชุดทดสอบการตั้งครรภ์แบบจุ่ม 

    วิธีใช้

    • ปัสสาวะลงในถ้วยเก็บตัวอย่างปัสสาวะ
    • นำกระดาษทดสอบจุ่มในปัสสาวะไม่เกินเส้นที่กำหนด หรือถอดฝาอุปกรณ์ทดสอบการตั้งครรภ์ แล้วนำส่วนปลายของอุปกรณ์จุ่มลงในปัสสาวะประมาณ 7-10 วินาที
    • ปิดฝาอุปกรณ์หรือวางกระดาษบนพื้นที่สะอาด และรอ 5 นาที เพื่อรอผลทดสอบ

    เมื่อครบเวลาที่กำหนด หากพบว่ามีขีดสีแดงขึ้นขีดเดียวที่อักษร C หมายความว่าไม่ตั้งครรภ์ แต่หากมีเส้นขีดสีแดงขึ้น 2 ขีด ที่ตรงกับตัวอักษร C และ T อาจหมายความว่ากำลังตั้งครรภ์ ในกรณีที่เส้นสีแดงขึ้นเป็นขีดจาง ๆ ที่ตัว T ไม่ชัดเจน อาจจำเป็นต้องตรวจใหม่ หรือรับการตรวจครรภ์จากคุณหมอโดยตรง

    สาเหตุอื่นที่ทำให้ เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม

    หากตรวจครรภ์แล้วพบว่าตนเองไม่ตั้งครรภ์ อาจเป็นไปได้ว่าอาการเวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม เกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ดังต่อไปนี้

    • ความเครียด ความวิตกกังวลหรือสภาวะอื่นที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์และ จิตใจ เช่น โรคแพนิค โรคกลัวต่าง ๆ 
    • อาหารเป็นพิษ
    • การรับประทานอาหารมากเกินไป
    • ไมเกรน
    • ลำไส้อุดตัน 
    • ร่างกายขาดน้ำ และอยู่ในสภาพอากาศร้อนจัด หรือมีคนแออัดการระบายอากาศไม่ดี
    • ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ มักเกิดขึ้นกับผู้ป่วยเบาหวานที่ใช้อินซูลิน
    • ไส้ติ่งอักเสบ
    • การติดเชื้อไวรัสในกระเพาะอาหาร
    • หัวใจวาย หัวใจเต้นผิดจังหวะ อาจทำให้ความดันโลหิตต่ำ ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ในร่างกายไม่เพียงพอ และทำให้เกิดอาการเวียนหัว
    • ร่างกายได้รับสารพิษมากเกินไป เช่น คาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon Monoxide)
    • การบาดเจ็บที่สมอง เนื้องอกในสมอง
    • การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
    • ยารักษาโรคบางชนิด เช่น ยาต้านอาการชัก ยากล่อมประสาท ยาลดความดันโลหิต
    • โรคมะเร็งบางชนิด

    เพื่อความปลอดภัยควรเข้าพบคุณหมอทันทีที่มีอาการผิดปกติและควรตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อให้ตรวจพบโรคและทำการรักษาได้ทันท่วงที

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    Duangkamon Junnet


    เขียนโดย ทีม Hello คุณหมอ · แก้ไขล่าสุด 4 สัปดาห์ก่อน

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา