เลือดกำเดาไหลบ่อย อาจมีหลายสาเหตุ เช่น หลอดเลือดใกล้โพรงจมูกแตก เนื้องอกหรือริดสีดวงจมูก หรืออาจเป็นอาการที่มาจากโรคอื่น ๆ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการและสาเหตุที่ทำให้เลือดกำเดาไหลบ่อย อาจช่วยให้สามารถสังเกตพบความผิดปกติ และรับการรักษาได้อย่างทันท่วงที
[embed-health-tool-bmr]
เลือดกำเดาไหลบ่อย คืออะไร
เลือดกำเดาไหล คือ เลือดที่ไหลออกมาจากทางรูจมูกข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้าง ซึ่งเลือดอาจไหลออกมาน้อยหรือมากก็ได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยและร่างกายของแต่ละบุคคล เลือดกำเดามักจะไหลในช่วงเวลาสั้น ๆ และหยุดไหลไปเองภายในเวลาไม่กี่นาที แต่ถ้าหากเลือดกำเดายังไม่หยุดไหลเป็นเวลานานกว่า 10 นาที แม้จะทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว ควรไปพบคุณหมอ เพราะหากเลือดไหลออกมามากเกินไป ผู้ป่วยอาจเกิดอาการช็อคได้ นอกจากนี้ หากมีเลือดกำเดาไหลมากกว่า 4 ครั้ง/สัปดาห์ หรือ 2-3 ครั้ง/เดือน ควรไปปรึกษาคุณหมอเพื่อวินิจฉัยอาการของเลือดกำเดาไหลบ่อย เพราะอาจเกิดจากปัญหาสุขภาพร้ายแรง
สาเหตุของเลือดกำเดาไหลบ่อย
เลือดกำเดาไหลอาจเกิดได้จากหลายปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- เส้นเลือดในเยื่อบุโพรงจมูกแตก
- คัดจมูก จามบ่อย
- แคะจมูกบ่อย ๆ
- เป็นหวัด ภูมิแพ้
- สั่งน้ำมูกบ่อย หรือสั่งน้ำมูกแรง
- อากาศหนาว หรืออากาศแห้ง รวมถึงอากาศที่ร้อนก็สามารถก่อให้เกิดเลือดกำเดาไหลได้เช่นกัน
- หกล้มหรือจมูกกระแทกกับบางสิ่ง
- ติดเชื้อที่เยื่อบุโพรงจมูก ไซนัสอักเสบ
- สิ่งแปลกปลอมเข้าไปภายในจมูก
- ภาวะสุขภาพที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือดตามปกติ เช่น โรคฮีโมฟีเลีย (Hemophilia) เป็นโรคทางพันธุกรรม เลือดไหลออกง่ายหยุดยาก
- ผลข้างเคียงของการใช้ยา เช่น ยาแก้คัดจมูก ยาแก้แพ้ ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ( NSAIDs) ยาไอไพริน ยาพ่นจมูก ที่อาจส่งผลให้เนื้อเยื่อโพรงจมูกแห้ง
รวมถึงสาเหตุที่อาจทำให้เกิดเลือดกำเดาไหลบ่อย เช่น
- หลอดเลือดใกล้โพรงจมูกแตก
- หลอดเลือดผิดปกติในจมูก เช่น Osler-Weber-Rendu syndrome เป็นโรคทางพันธุกรรมที่มีลักษณะการก่อตัวของหลอดเลือดที่ผิดปกติ อาจส่งผลทำให้เกิดเลือดกำเดาไหลบ่อยได้
- ภาวะสุขภาพที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- มีติ่งเนื้อ หรือเนื้องอกในจมูก
วิธีหยุดเลือดกำเดาไหล
วิธีหยุดเลือดกำเดาไหล อาจมีขั้นตอนดังนี้
- นั่งอยู่กับที่ เอนตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย
- ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้บีบบริเวณรูจมูก ประมาณ 10-15 นาที โดยใช้ปากหายใจแทนก่อน
- ใช้ผ้าห่อน้ำแข็งหรือผ้าเย็นประคบลงบนสันจมูก
- หลังจากเลือดกำเดาหยุดไหลแล้ว ไม่ควรแคะจมูก หรือสั่งน้ำมูก เพราะอาจทำให้เลือดกำเดาไหลออกมาอีกครั้งได้
ทั้งนี้ เมื่อเลือดกำเดาไหลไม่ควรเงยหน้าขึ้น เพราะอาจทำให้เลือดไหลลงไปในกระเพาะ และอาจส่งผลทำให้รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน นอกจากนี้ หากเลือดกำเดายังไม่หยุดไหลภายใน 10-15 นาที ควรไปพบคุณหมอ
วิธีป้องกันเลือดกำเดาไหล
ไม่มีวิธีการป้องกันเลือดกำเดาไหล แต่อาจมีวิธีบางอย่างที่ช่วยลดโอกาสในการเกิดเลือดกำเดาไหล ดังนี้
- ทำให้จมูกชุ่มชื้น โดยใช้ยาทาปิโตรเลียม (Petroleum Jelly) ในรูจมูกวันละ 3 ครั้ง
- เมื่อออกกำลังกายหรือเล่นกิจกรรมที่อาจได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ควรสวมอุปกรณ์ป้องกันอย่างหมวกกันน็อค
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีสภาพอากาศหนาว และแห้ง หากอยู่ในห้องแอร์เป็นเวลานาน ควรใช้เครื่องทำความชื้น เพื่อให้ห้องมีความชื้นเพิ่มขึ้น ป้องกันโพรงจมูกแห้ง
- หลีกเลี่ยงการแคะจมูกบ่อยครั้ง
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และสถานที่ที่มีควันบุหรี่ เนื่องจากควันบุหรี่อาจทำให้ภายในจมูกระคายเคืองและแห้งได้