เมื่อเราอยากชะล้างความสกปรกที่ติดตัว เราก็สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการอาบน้ำชำระคราบสิ่งสกปรกต่าง ๆ จนสะอาดเอี่ยมทั่วตัว ก่อนจะเช็ดตัวให้แห้งด้วยผ้าเช็ดตัว แต่หลายคนอาจจะไม่ทันได้ฉุกคิดว่า ผ้าเช็ดตัว อาจจะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคใกล้ตัว ที่เราทุกคนมองข้าม และทำให้เชื้อโรคกลับมาสู่ร่างกายของเราที่คิดว่าสะอาดปลอดภัยแล้วก็เป็นได้
ผ้าเช็ดตัว แหล่งสะสมเชื้อโรคใกล้ตัว
ผ้าเช็ดตัวเป็นไอเท็มสำคัญติดบ้านที่ไม่ว่าใครก็ต้องมี เราจะใช้ผ้าเช็ดตัวในการซับน้ำและความชื้นที่หลงเหลืออยู่จากการอาบน้ำชำระคราบสิ่งสกปรกต่าง ๆ แต่ผ้าเช็ดตัวนั้นไม่ได้ซึมซับเพียงแค่น้ำและความชื้น แต่ยังได้เซลล์ผิวหนังชั้นนอกที่ตายแล้ว และเชื้อแบคทีเรียที่ติดอยู่ที่ผิวหนังของเราไปด้วย เมื่อเชื้อแบคทีเรียนั้นได้เกาะอยู่กับผ้าที่มีความชื้นอย่างพอเหมาะ ก็จะยิ่งสามารถบ่มเพาะเชื้อเพิ่มประชากร ให้กลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคไปได้ในที่สุด หรือบางคนอาจจะได้รับเชื้อไวรัสมาจากข้างนอก และมาติดอยู่ที่ผ้าเช็ดตัวในตอนที่เช็ดทำความสะอาดตัว ยิ่งไปกว่านั้น ความอับชื้นยังเป็นปัจจัยชั้นดีในการเจริญเติบโตของเชื้อราต่าง ๆ ดังนั้น ผ้าเช็ดตัว จึงเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคที่อาจจะมีทั้งเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัสนั่นเอง
เชื้อโรคบนผ้าเช็ดตัว แพร่ใส่คนอื่นได้จริงเหรอ
เชื้อโรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัส เชื้อรา และเชื้อแบคทีเรียที่สะสมอยู่บนผ้าเช็ดตัว สามารถแพร่กระจายผู้อื่นที่มาใช้ผ้าเช็ดตัวผืนนั้นได้ และอาจจะทำให้ผิวหนังเกิดความระคายเคือง และเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อบนผิวหนัง โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus ก็มักจะแพร่กระจายผ่านทางผ้าเช็ดตัวด้วยเช่นกัน
วิธีการในการแพร่เชื้อผ่านทางผ้าเช็ดตัวหลัก ๆ มี 3 วิธี คือ
- หากคุณใช้ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้อื่น เชื้อโรคนี้อาจสามารถแพร่ไปสู่อีกคนที่ใช้ผ้าเช็ดตัวร่วมกันกับคุณได้
- ในระหว่างการนำผ้าเช็ดตัวไปซัก อาจทำให้ติดเชื้อโรคที่ผิวหนังได้
- หากคุณซักผ้าเช็ดตัวร่วมกับเสื้อผ้าอื่น เชื้อโรคอาจแพร่กระจายไปสู่เสื้อผ้านั้น ๆ ได้
ทำอย่างไรจึงจะป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคผ่านทางผ้าเช็ดตัวได้
การซักผ้าเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อและลดการสะสมของเชื้อโรคบนผ้าเช็ดตัว แต่อย่างไรก็ตาม การซักผ้าผิดวิธีอาจกลายเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อโรคได้ ดังนั้น จึงมีวิธีในการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคบนผ้าเช็ดตัว ดังต่อไปนี้
- อย่าใช้ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการป่วย หรือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคผิวหนังต่าง ๆ
- ตากผ้าเช็ดตัวให้แห้งทุกครั้งหลังใช้งาน เพื่อป้องกันให้ไม่เกิดความอับชื้นและเพิ่มการเจริญเติบโตของเชื้อโรค
- ซักผ้าเช็ดตัวเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง น้ำยาซักผ้าและผงซักฟอกตามปกติก็เพียงพอที่จะกำจัดเชื้อโรคที่ติดอยู่ในผ้าเช็ดตัวแล้ว
- แยกซักผ้า อย่าซักผ้าเช็ดตัวร่วมกับเสื้อผ้าอื่น ๆ เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค
ปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจทำให้ควรซักผ้าเช็ดตัวบ่อยมากขึ้น
แม้ว่าตามปกติแล้วเราจะควรซักผ้าเช็ดตัวสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง แต่ก็มีบางปัจจัยที่ทำให้เราควรที่จะซักผ้าเช็ดตัวบ่อยมากยิ่งขึ้น เพื่อลดการสะสมและแพร่กระจายของเชื้อโรค ปัจจัยเหล่านั้นคือ
- ผ้าเช็ดตัวที่เปื้อนสารคัดหลั่งจากร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำมูก น้ำลาย หรือหนอง ควรซักหลังจากใช้ทันที
- ผ้าเช็ดตัวที่ใช้ซับเหงื่อหลังออกกำลังกาย หรือผ้าเช็ดตัวที่อับชื้น หมกอยู่ในกระเป๋าเป็นเวลาหลายชั่วโมง ควรซักหลังจากใช้ 1 ครั้ง
- ผ้าเช็ดตัวที่แขวนเก็บไว้ในห้องน้ำ ที่มักจะเปืยกชื้นอยู่ตลอดเวลา และไม่เคยได้ตากให้แห้งสนิท ควรซักหลังจากใช้ 1 ครั้ง
- ผ้าเช็ดตัวของผู้ที่ป่วยเป็นโรคผิวหนัง เช่น ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง หรือผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย ควรซักหลังจากใช้ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวระคายเคือง
[embed-health-tool-bmi]