โปลิโอ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไข้ไขสันหลังอักเสบ เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากไวรัสโปลิโอ (Poliovirus) ซึ่งเคยส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพของมนุษย์ในอดีต โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก แม้ว่าในปัจจุบันโรคนี้จะลดลงอย่างมากเนื่องจากการพัฒนาวัคซีน แต่ความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคและการป้องกันยังคงมีความสำคัญ
[embed-health-tool-vaccination-tool]
โปลิโอ คืออะไร
โรคโปลิโอเกิดจากเชื้อไวรัสในตระกูล Picornavirus โดยไวรัสนี้แบ่งเป็น 3 สายพันธุ์หลัก ได้แก่ PV1, PV2 และ PV3 ซึ่งไวรัสสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านการบริโภคน้ำหรืออาหารที่ปนเปื้อน รวมถึงการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโดยตรง
เมื่อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย มันจะแพร่กระจายในลำไส้และระบบประสาทส่วนกลาง ทำลายเซลล์ประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหว ส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรืออัมพาต
การแพร่กระจายของโรค
โรคโปลิโอแพร่กระจายได้ง่ายในพื้นที่ที่มีการสุขาภิบาลไม่ดี โดยเชื้อไวรัสจะถูกขับออกจากร่างกายผู้ติดเชื้อผ่านทางอุจจาระ แล้วปนเปื้อนในน้ำหรืออาหาร นอกจากนี้ การสัมผัสใกล้ชิด เช่น การสัมผัสมือหรือของใช้ส่วนตัวที่มีเชื้อไวรัสอยู่ ก็เป็นอีกเส้นทางที่โรคสามารถแพร่กระจายได้
กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงคือเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบถ้วน
อาการของโรคโปลิโอ
โรคโปลิโอมีลักษณะอาการหลากหลาย ตั้งแต่ไม่มีอาการไปจนถึงอัมพาตรุนแรง
- ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ (70-90%) ไม่มีอาการ แต่สามารถแพร่เชื้อได้
- อาการเบื้องต้น รวมถึงไข้ต่ำ อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ และคลื่นไส้
- อาการรุนแรง ได้แก่ อัมพาตของแขนขา หรือในบางกรณีเชื้อไวรัสอาจทำลายระบบประสาทที่ควบคุมการหายใจ ส่งผลให้เสียชีวิต
สำหรับบางคนที่เคยติดเชื้อ อาจเกิดภาวะ กลุ่มอาการหลังโปลิโอ (Post-Polio Syndrome) ในระยะเวลาหลายปีหลังจากการติดเชื้อ ซึ่งทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและปวดกล้ามเนื้อ
การป้องกันด้วยวัคซีน
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคโปลิโอเฉพาะเจาะจง การป้องกันที่ดีที่สุดคือการรับวัคซีน วัคซีนโปลิโอมี 2 ชนิดหลัก:
- วัคซีนชนิดกิน (Oral Polio Vaccine, OPV) ใช้ในพื้นที่ที่ยังมีการระบาด เนื่องจากสะดวกและมีราคาย่อมเยา
- วัคซีนชนิดฉีด (Inactivated Polio Vaccine, IPV) ใช้ในประเทศที่กำจัดโรคโปลิโอไปแล้ว เน้นความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
การปฏิบัติตามกำหนดการฉีดวัคซีนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะการฉีดวัคซีนไม่ครบถ้วนจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
สถานการณ์โรคโปลิโอในประเทศไทย
ประเทศไทยควบคุมโรคโปลิโอได้สำเร็จตั้งแต่ปี 2540 โดยไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ แต่ยังคงเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด เนื่องจากการระบาดในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อินโดนีเซียและเมียนมา
มาตรการสำคัญประกอบด้วย
- ปรับสูตรวัคซีนใหม่ (ฉีด 2 หยอด 3): เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงจากเชื้อไวรัสกลายพันธุ์
- รณรงค์ฉีดวัคซีนในพื้นที่เสี่ยง: ครอบคลุม 8 จังหวัดชายแดน
- การเฝ้าระวังโรค: ติดตามประชากรกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กและแรงงานเคลื่อนย้าย
แม้โรคโปลิโอจะลดลงจนเกือบหมด แต่การป้องกันและฉีดวัคซีนยังคงสำคัญในการป้องกันการกลับมาระบาดในอนาคต
การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน รวมถึงประชาชน หน่วยงานสาธารณสุข และรัฐบาล คือหัวใจสำคัญในการป้องกันโรคโปลิโอ เพื่อให้โลกของเราปลอดจากโรคนี้อย่างถาวร