ทารกเสียงแหบ อาจเกี่ยวข้องกับอาการโคลิก (Colic) ซึ่งเป็นอาการที่ทารกร้องไห้ โวยวาย กรีดร้องบ่อย ๆ มักพบในเด็กอายุ 6 สัปดาห์ อาจมีสาเหตุมาจากความไม่สบายตัวจนทำให้ทารกร้องไห้มากขึ้น จนอาจส่งผลให้กล่องเสียงอักเสบและทำให้ทารกเสียงแหบตามมา เสียงแหบที่เกิดขึ้นในทารกอาจหายได้เอง แต่ถ้าสังเกตพบว่าเสียงยังแหบเรื้อรังหลายวัน สัปดาห์ หรือเป็นเดือน อาจต้องพาทารกเข้าพบคุณหมอ เพื่อตรวจอาการที่เกิดขึ้นและรับการรักษา
[embed-health-tool-baby-poop-tool]
โคลิก คืออะไร
โคลิก คือ อาการของทารกที่ร้องไห้งอแงมากและบ่อยครั้ง อาจพบบ่อยในเด็กทารกอายุประมาณ 6 สัปดาห์ และอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อเด็กอายุ 3-4 เดือนขึ้นไป โดยทารกจะร้องไห้ งอแง โวยวายมากขึ้นและบ่อยครั้ง การปลอบโยนหรือการกล่อมให้นอนอาจไม่ช่วยให้อาการร้องไห้งอแงดีขึ้น ส่วนใหญ่อาการมักเกิดขึ้นในเวลากลางคืน ส่งผลทำให้พ่อแม่เกิดความเครียด เหนื่อยล้า และกังวลในการดูแลทารก
โคลิกเกิดขึ้นได้อย่างไร
ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของอาการโคลิก แต่อาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ได้แก่
- การให้ทารกกินอาหารมากเกินไป น้อยเกินไป หรือทารกไม่ได้เรอหลังกินอาหาร อาจทำให้ทารกรู้สึกอึดอัดท้อง ไม่สบายตัว หรือหากกินน้อยเกินไปก็อาจทำให้ทารกรู้สึกหิวและร้องไห้งอแงมากขึ้นได้
- ความไม่สมดุลของแบคทีเรียในระบบทางเดินอาหาร ระบบย่อยอาหารที่ยังไม่สมบูรณ์ของทารกอาจเกี่ยวข้องกับความสมดุลของแบคทีเรียที่ช่วยย่อยอาหาร หากทารกกินอาหารที่ย่อยยาก เช่น นมผงบางชนิด อาจทำให้ทารกท้องอืด อาหารไม่ย่อยและร้องไห้มากจนเสียงแหบได้
- ระบบย่อยอาหารยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทารกอาจมีระบบย่อยอาหารที่ยังไม่สมบูรณ์ การให้ทารกกินอาหารที่ย่อยยากอาจทำให้ทารกท้องอืด อาหารไม่ย่อย อึดอัด ไม่สบายตัว ทำให้ร้องไห้มากขึ้นจนเสียงแหบได้
- การแพ้อาหารบางชนิด เช่น นม ถั่ว ไข่ ข้าว อาหารเหล่านี้อาจเป็นสารก่อภูมิแพ้ในทารกซึ่งทำให้ทารกไม่สบายตัว มีผื่นแดง คัน อาจร้องไห้ กรีดร้องมากขึ้นจนเสียงแหบ
- ความเครียดหรือความวิตกกังวลของเด็กต่อครอบครัว อารมณ์ในครอบครัว เช่น ความเครียด การทะเลาะกัน อาจส่งผลต่ออารมณ์ของทารกได้เช่นกัน เนื่องจากทารกจะซึมซับอารมณ์ พฤติกรรมและความรู้สึกจากคนรอบข้าง อาจส่งผลให้ทารกเกิดความทุกข์ทางอารมณ์และร้องไห้มากจนเสียงแหบ
- การเป็นไมเกรนในวัยเด็ก ทารกบางคนอาจเป็นไมเกรนได้แต่อาจเกิดขึ้นได้น้อย ซึ่งอาการปวดหัวไมเกรนอาจทำให้เด็กร้องไห้มาก กรีดร้องมากขึ้น จึงควรเข้าพบคุณหมอเพื่อทำการรักษาอาการไมเกรนในเด็ก
ปัจจัยเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กรู้สึกไม่สบายตัวจนมีอาการร้องไห้งอแง โวยวาย กรีดร้องมากขึ้นและเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จนอาจทำให้กล่องเสียงอักเสบและส่งผลให้ทารกเสียงแหบ เมื่อพยายามเปล่งเสียงทารกอาจไม่มีเสียงหรือมีเสียงเล็กแหลมออกมา นอกจากนี้ ทารกอาจมีอาการไม่สบายคอ คันคอ ไอร่วมด้วย ซึ่งอาการเสียงแหบอาจค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน แต่หากทารกเสียงแหบนานกว่านั้นอาจต้องเข้าพบคุณหมอเพื่อทำการรักษา
วิธีดูแลทารกเสียงแหบ
การรักษาทารกเสียงแหบที่มีสาเหตุมาจากอาการโคลิก คุณหมออาจพิจารณารักษาอาการโคลิกก่อนเพื่อช่วยให้ทารกร้องไห้ งอแง โวยวายและกรีดร้องลดลง ซึ่งจะช่วยให้กล่องเสียงได้พักและอาการเสียงแหบของทารกจะค่อย ๆ ดีขึ้น สำหรับการดูแลทารกที่มีอาการเสียงแหบ อาจทำได้ดังนี้
การทำให้ทารกผ่อนคลาย
วิธีนี้จะช่วยให้ทารกรู้สึกสบายและสงบลงได้ เช่น
- ลูบหน้าท้องทารกหรืออุ้มทารกพาดบ่า จะทำให้ทารกรู้สึกได้รับความรัก ความอบอุ่น ผ่อนคลายเมื่อโดนอุ้มและโดนลูบ การอุ้มพาดบ่าหลังดื่มนมจะช่วยให้ทารกเรอ และช่วยคลายความอึดอัดได้เช่นกัน
- การให้จุกนมหลอก บางครั้งเด็กอาจร้องไห้จะกินนม หรือต้องการเอาสิ่งของเข้าปาก การให้จุกนมหลอกอาจช่วยลดอาการร้องไห้งอแงของเด็ก
- พาทารกไปนั่งรถเล่น อาจจะเป็นรถยนต์หรือรถเข็นเด็ก จะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจ ช่วยให้เด็กเพลิดเพลิน ผ่อนคลาย ลดอาการร้องไห้ของเด็กได้
- อุ้มทารกแล้วเดินไปรอบ ๆ จะทำให้เด็กรู้สึกโดนปลอมประโลม ผ่อนคลาย ได้รับความรักความอบอุ่นจนหยุดร้องไห้ลง
- ห่อตัวทารก จะช่วยให้เด็กรู้สึกเหมือนอยู่ในท้องแม่ ทารกจะรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลายมากขึ้น
- อาบน้ำอุ่น เด็กร้องไห้มากอาจเพราะรู้สึกร้อน ไม่สบายตัว การอาบน้ำจะช่วยให้เด็กสบายตัวมากขึ้น
- เปิดเพลง เปิดเสียงการเต้นของหัวใจเบา ๆ เพื่อให้ทารกรู้สึกเหมือนอยู่ในท้องแม่และผ่อนคลาย
- จัดบรรยากาศในห้องให้เหมาะกับการนอน ไม่มีแสงหรือเสียงดังรบกวนจะช่วยเพิ่มการนอนหลับที่ดีในเด็กทารกมากขึ้น
การป้อนอาหารทารก
หลีกเลี่ยงการป้อนอาหารทารกที่มากเกินไป ควรเว้นระยะการป้อนอาหารอย่างน้อย 2 ถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง/ครั้ง เพื่อให้ทารกไม่รู้สึกอึดอัดท้องมากเกินไป และควรป้อนนมทารกในท่าตั้งตรงเพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปในปากมากเกินไป หลังจากกินนมเสร็จควรอุ้มทารกพาดไหล่ให้ทารกเรอออกมา เพื่อช่วยระบายลมและความอึดอัดหลังกินนม
การเปลี่ยนแปลงอาหาร
ทารกร้องไห้หนักอาจเกิดจากการแพ้อาหาร หากสังเกตเห็นผื่นแดง อาการอาเจียน หายใจมีเสียงหวีด ท้องเสีย อาจเป็นสัญญาณของการแพ้อาหาร นอกจากนี้ อาจมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนนมผงสำหรับทารก หรือคุณแม่ที่กำลังให้นมบุตรมีการเปลี่ยนแปลงอาหารที่กินเข้าไป ดังนั้น จึงควรเลือกนมผงที่เหมาะสมสำหรับทารก รวมถึงการหลีกเลี่ยงการกินอาหารบางชนิดสำหรับคุณแม่ ดังนี้
- การเปลี่ยนนมผง ควรพิจารณานมผงสูตรที่เหมาะกับวัยและสุขภาพของทารก อาจขอคำแนะนำจากคุณหมอก่อนซื้อนมผง เพื่อช่วยให้ย่อยง่ายและไม่ทำให้ทารกอึดอัดท้อง เช่น นมผงสูตรไฮโดรไลเสต (Hydrolysate) ประกอบไปด้วยโปรตีนขนาดเล็ก ทำให้ย่อยง่ายและช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาทางเดินอาหาร เช่น อาการจุกเสียดและท้องผูก
- แม่ให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารก่อภูมิแพ้ เช่น ผลิตภัณฑ์จากนม ไข่ ถั่ว ข้าวสาลี และหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหารของทารก เช่น อาหารที่มีรสเปรี้ยว เผ็ด คาเฟอีน