ROP (Retinopathy Of Prematurity) หรือ โรคจอประสาทตาผิดปกติในทารกเกิดก่อนกำหนด คือ ความผิดปกติของหลอดเลือดบริเวณจอตาที่ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้จอตาเกิดความเสียหาย หากปล่อยไว้ไม่ทำการรักษาอาจทำให้ทารกมีอาการดวงตาเคลื่อนไหวผิดปกติ ตาไม่สามารถมองตามวัตถุ รูม่านตามีสีขาว และอาจรุนแรงถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นได้
[embed-health-tool-vaccination-tool]
คำจำกัดความ
ROP คือ อะไร
ROP คือ ความผิดปกติของจอประสาทตาที่พบในทารกเกิดก่อนกำหนด เนื่องจากความผิดปกติของหลอดเลือดบริเวณจอตาที่พัฒนายังไม่เต็มที่ ทำให้เนื้อเยื่อแผลเป็นก่อตัวขึ้นภายในดวงตา ส่งผลให้จอตาเกิดความเสียหายและหากปล่อยไว้ไม่รักษาอาจทำให้ทารกสูญเสียการมองเห็นได้
อาการ
อาการของ ROP
โรคจอประสาทตาผิดปกติในทารกเกิดก่อนกำหนดอาจไม่มีสัญญาณเตือนของโรค แต่อาจทำให้มีอาการต่าง ๆ ดังนี้
- ดวงตาของทารกเคลื่อนไหวผิดปกติ
- ตาไม่สามารถมองตามวัตถุได้
- รูม่านตามีสีขาว
- ทารกมีปัญหาในการจดจำใบหน้า
โดยโรคจอประสาทตาผิดปกติในทารกเกิดก่อนกำหนดสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ระยะ ซึ่งมีอาการตั้งแต่ไม่รุนแรงไปจนถึงรุนแรงมาก ดังนี้
- ระยะที่ 1 และ 2 โรคจอประสาทตาผิดปกติในทารกเกิดก่อนกำหนดในระยะนี้อาจหายเองได้โดยไม่ต้องรักษา และไม่แสดงอาการที่รุนแรง แต่ควรอยู่ในความดูแลของคุณหมอเพื่อป้องกันอาการที่อาจแย่ลง
- ระยะที่ 3 ทารกบางคนอาจมีอาการดีขึ้นโดยไม่ต้องรักษา แต่บางคนอาจจำเป็นต้องได้รับการรักษาความผิดปกติของหลอดเลือด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อจอตา (Retina) ที่อาจทำให้จอประสาทตาหลุด
- ระยะที่ 4 ทารกบางคนอาจมีจอประสาทตาหลุดออกมาบางส่วน ซึ่งต้องได้รับการรักษาเร่งด่วน เพื่อป้องกันปัญหาสายตาที่อาจทำให้สูญเสียการมองเห็น
- ระยะที่ 5 จอตาหลุดออกอย่างสมบูรณ์ แม้ว่าจะได้รับการรักษาแล้วก็อาจสูญเสียการมองเห็นหรือตาบอดได้
สาเหตุ
สาเหตุของ ROP
สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคจอประสาทตาผิดปกติในทารกเกิดก่อนกำหนดอาจมีความสัมพันธ์กับการได้รับออกซิเจนผ่านช่องทางต่างๆ ทำให้เส้นเลือดฝอยในจอตาได้รับออกซิเจนสูงขึ้นจนเกิดความเสียหาย ซึ่งส่วนใหญ่ปัญหาของระดับออกซิเจนที่เพิ่มสูงขึ้นมักเกิดในทารกที่เกิดก่อนกำหนดและปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาของจอตาและหลอดเลือดในดวงตาที่ไม่สมบูรณ์
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยเสี่ยงของ ROP
ปัจจัยที่อาจทำให้ทารกเสี่ยงเป็นโรคจอประสาทตาผิดปกติในทารกเกิดก่อนกำหนด อาจมีดังนี้
- ทารกที่มีน้ำหนักแรกเกิดต่ำ
- ทารกที่คลอดก่อนกำหนด
- ความผันผวนของออกซิเจนในร่างกายตั้งแต่แรกเกิด
- ทารกที่มีการเจริญเติบโตไม่ดีหลังคลอด
- ปัจจัยที่เกิดจากการตั้งครรภ์ เช่น การตกเลือดในหลอดเลือด กลุ่มอาการหายใจลำบาก ภาวะติดเชื้อ การถ่ายเลือด การคลอดบุตรหลายครั้ง การใช้สเตียรอยด์ก่อนคลอด
ภาวะแทรกซ้อนของ ROP
ทารกที่เป็นโรคจอประสาทตาผิดปกติในทารกเกิดก่อนกำหนดมีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับปัญหาสายตาในอนาคต ดังนี้
- จอตาลอกหรือจอประสาทตาลอก
- โรคสายตาสั้น
- โรคสายตาขี้เกียจ
- ตาเหล่
การวินิจฉัยและการรักษา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ใด ๆ ควรปรึกษาคุณหมอทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพื่อเติม
การวินิจฉัย ROP
หากพบว่าทารกมีความเสี่ยงเป็นโรคจอประสาทตาผิดปกติในทารกเกิดก่อนกำหนด ทารกจะได้รับการตรวจสุขภาพตาภายใน 2-3 สัปดาห์หลังคลอด โดยคุณหมอจะทำการหยอดยาเข้าลูกตาเพื่อขยายรูม่านตา จากนั้นจะตรวจทุกส่วนภายในตาโดยเฉพาะจอตา เพื่อหาความผิดปกติที่อาจเกี่ยวข้องกับโรคจอประสาทตาผิดปกติในทารกเกิดก่อนกำหนด และหากพบความผิดปกติคุณหมออาจนัดหมายเพื่อตรวจตาของทารกอีกครั้ง โดยความถี่ในการตรวจจะขึ้นกับความรุนแรงของโรคที่ตรวจพบในครั้งแรก ติดตามจนกว่าอาการจะกลับมาเป็นปกติ
การรักษา ROP
โรคจอประสาทตาผิดปกติในทารกเกิดก่อนกำหนดหากอยู่ในระยะไม่รุนแรง อาการอาจดีขึ้นเองโดยไม่ต้องรักษา แต่สำหรับทารกที่มีอาการของโรคจอประสาทตาผิดปกติในทารกเกิดก่อนกำหนดที่รุนแรง คุณหมออาจแนะนำการรักษา ดังนี้
- การทำเลเซอร์ บริเวณด้านข้างจอตา ซึ่งการรักษาด้วยวิธีนี้อาจช่วยป้องกันไม่ให้อาการของโรคจอประสาทตาผิดปกติในทารกเกิดก่อนกำหนดแย่ลง และอาจช่วยให้การมองเห็นของทารกดีขึ้น
- ฉีดยาเข้าลูกตา (Intravitreous) โดยการฉีดยาระงับการเจริญเติบโตของเยื่อบุผนังหลอดเลือด (Vascular Endothelial Growth Factor หรือ VEGF) เพื่อหยุดการเจริญเติบโตของหลอดเลือดใหม่ในดวงตา
- ศัลยกรรมตา เป็นการผ่าตัดจอประสาทตาบางส่วนหรือทั้งหมด สามารถแบ่งได้ 2 ประเภท คือ การผ่าตัดจอประสาทตา (Scleral Buckle) ด้วยการที่ใช้วัสดุหนุนตาขาวเพื่อดันจอประสาทตาให้กลับติดเข้าที่ การทำผ่าตัดน้ำวุ้นตา (Vitrectomy) บางส่วนออกและแทนที่ด้วยน้ำเกลือ เพื่อกำจัดเนื้อเยื่อแผลเป็นบนจอตา
การปรับไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเอง
การปรับไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเองเพื่อจัดการกับ ROP
เพื่อป้องกันไม่ให้โรคจอประสาทตาผิดปกติในทารกเกิดก่อนกำหนดรุนแรงขึ้น คุณพ่อคุณแม่ควรให้ทารกแรกเกิดตรวจคัดกรองสุขภาพตา โดยเฉพาะทารกแรกเกิดที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น น้ำหนักแรกเกิดต่ำ คลอดก่อนกำหนด และควรเข้ารับการตรวจตาตามนัดหมายอย่างสม่ำเสมอ