คุณพ่อคุณแม่อาจเริ่มฝึกให้เด็กใช้กระโถนในการขับถ่ายแทนการสวมผ้าอ้อม เมื่อเด็กอายุได้ประมาณ 1 ขวบครึ่งไปจนถึง 2 ขวบ เนื่องจากเป็นวัยที่เด็กสามารถทำตามคำสั่งง่าย ๆ ได้แล้ว และอาจแสดงพฤติกรรมว่าพร้อมใช้ กระโถน เด็ก เช่น เด็กไม่ขับถ่ายใส่ผ้าอ้อมหลังนอนกลางวัน เด็กบอกได้ว่าตัวเองกำลังจะถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระ ทั้งนี้โดยคุณพ่อคุณแม่ไม่ควรฝึกให้นั่งกระโถนเร็วเกินไปหรือบังคับให้เด็กใช้กระโถน เพราะอาจทำให้เด็กงอแง และฝึกขับถ่ายด้วยกระโถนได้ล่าช้ากว่าเดิม
[embed-health-tool-baby-poop-tool]
กระโถน เด็ก ควรเริ่มใช้เมื่อไหร่
ในช่วงขวบปีแรก เด็ก ๆ จะยังไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายได้ การขับถ่ายของเด็กในวัยนี้จึงเป็นไปโดยอัตโนมัติและมักไม่เป็นเวลา เด็กมักจะเริ่มควบคุมการขับถ่ายของตัวเองได้มากขึ้นตอนอายุ 1 ขวบครึ่ง และอาจเริ่มแสดงพฤติกรรมที่เป็นสัญญาณว่าสามารถควบคุมระบบขับถ่ายได้ดีขึ้น เช่น ขับถ่ายเป็นเวลา ไม่ขับถ่ายหลังงีบหลับ
ในช่วงที่เด็กอายุได้ประมาณ 1 ขวบครึ่งถึง 2 ขวบ จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มฝึกให้เด็กนั่งกระโถนเพื่อขับถ่าย และช่วยให้เด็กได้เรียนรู้การรักษาสุขอนามัย หากเริ่มช้าหรือเร็วกว่านี้อาจทำให้เด็กมีปัญหาในการขับถ่ายอย่างเป็นที่ด้วยตัวเอง ส่งผลให้พัฒนาการไม่เป็นไปตามวัย ทั้งนี้ พัฒนาการของเด็กแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน เด็กบางคนก็อาจเริ่มใช้กระโถนเด็กในการขับถ่ายได้ในช่วงอายุ 3 ขวบ ซึ่งก็ไม่ถือว่าผิดปกติแต่อย่างใด
สัญญาณว่าเด็กพร้อมใช้กระโถน เด็ก
พฤติกรรมที่อาจแสดงว่าเด็กพร้อมเปลี่ยนจากขับถ่ายในผ้าอ้อมไปใช้กระโถน อาจมีดังนี้
- เด็กไม่ขับถ่ายอย่างน้อย 2 ชั่วโมงในช่วงกลางวัน
- เด็กไม่ขับถ่ายใส่ผ้าอ้อมหลังนอนกลางวัน
- เด็กขับถ่ายเป็นเวลาและสม่ำเสมอ เช่น ถ่ายอุจจาระในช่วงเช้า
- เด็กแสดงสีหน้า ท่าทาง หรือคำพูด ที่บ่งบอกว่ากำลังจะถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระ
- เด็กสามารถปฏิบัติตามคำสั่งง่าย ๆ ของคุณพ่อคุณแม่ได้แล้ว
- เด็กสามารถเดินไปกลับห้องน้ำได้เอง และช่วยคุณพ่อคุณแม่ถอดเสื้อผ้าของตัวเองได้
- เด็กมีท่าทางอึดอัด ไม่สบายตัว ขณะสวมผ้าอ้อมที่เปื้อนอุจจาระหรือปัสสาวะแล้วยังไม่ได้เปลี่ยนใหม่
- เด็กแสดงออกว่าต้องการไปถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระ เช่น ทำตัวอยู่ไม่สุข หลบไปอยู่ที่เงียบ ๆ หรือห่างจากคนอื่น
- เด็กแสดงความสนใจในการใช้ห้องน้ำหรือกระโถนในการขับถ่าย และสนใจที่จะสวมกางเกงชั้นในเหมือนเด็กโต
เทคนิคในการฝึกให้เด็กใช้ กระโถน เด็ก
วิธีเหล่านี้อาจช่วยให้เด็กคุ้นเคยกับการใช้ กระ โถนเด็ก ได้
- ซื้อกระโถนเด็กมาวางไว้ในบ้านเพื่อให้เด็กได้ลองฝึกใช้งาน ในช่วงแรกอาจให้เด็กขับถ่ายใส่ผ้าอ้อมขณะนั่งบนกระโถนก่อน เมื่อเริ่มคุ้นเคยแล้วจึงให้ถอดกางเกงรวมถึงผ้าอ้อมและนั่งถ่ายในกระโถน
- วางกระโถนเด็กไว้ในห้องนอนหรือในห้องน้ำที่ใกล้ที่สุด เพื่อให้ใช้งานได้สะดวก โดยเฉพาะในตอนกลางคืนที่เด็กอาจตื่นขึ้นมาเพราะต้องการขับถ่าย
- ใช้คำศัพท์เพื่อสื่อสารถึงประเภทของการใช้ห้องน้ำ เช่น ชิ้งฉ่อง อึอึ๊
- เปลี่ยนผ้าอ้อมขณะที่เด็กนั่งอยู่บนกระโถน
- ปล่อยให้เด็กใช้เวลานั่งเล่นใกล้ ๆ กระโถนโดยไม่สวมผ้าอ้อม และบอกให้เด็กใช้กระโถนเมื่อต้องการขับถ่าย
- สอนให้เด็กบอกคุณพ่อคุณแม่เมื่อต้องการขับถ่าย เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่พาเด็กไปใช้กระโถน
- เปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้ขณะคุณพ่อหรือคุณแม่เข้าไปใช้ชักโครกในห้องน้ำ เพื่อให้เด็กเรียนรู้วิธีการเข้าห้องน้ำของผู้ใหญ่
- ปูผ้ายางสำหรับรองกันเปื้อนบนเตียงหรือที่นอนเด็กเพื่อป้องกันปัสสาวะหรืออุจจาระของเด็กเลอะบนที่นอน และช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น
- ชื่นชมบ่อย ๆ เมื่อเด็กฝึกใช้กระโถนได้สำเร็จ และไม่ควรล้อเลียนหรือพูดถึงความผิดพลาดใด ๆ ที่เคยเกิดขึ้น
- ในช่วงแรกอาจเริ่มหัดให้เด็กผู้ชายถ่ายปัสสาวะด้วยการนั่งบนกระโถนก่อน จากนั้นจึงเริ่มฝึกให้ยืนปัสสาวะใส่กระโถนแบบเก้าอี้ หากเด็กไม่กล้าที่จะยืนบนเก้าอี้เพื่อปัสสาวะบนชักโครก
- ไม่ควรบังคับหรือดุด่าเพราะอาจทำให้เด็กยิ่งงอแงและไม่ยอมทำตาม ควรรออีกสักระยะจึงค่อยให้เด็กลองใช้กระโถนในการขับถ่าย
- ฝึกให้เด็กทำความสะอาดร่างกายหลังขับถ่าย เช่น เช็ดทำความสะอาดก้นจากด้านหน้าไปด้านหลัง ล้างก้นด้วยน้ำสะอาด ล้างมือให้สะอาด
การฝึกให้เด็กเลิกใช้ผ้าอ้อมและหันมาขับถ่ายใส่กระโถนอาจมาพร้อมกับปัญหาปัสสาวะรดที่นอนได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นกับเด็กในวัยนี้ คุณพ่อคุณแม่อาจรับมือด้วยวิธีต่อไปนี้
- โน้มน้าวให้เด็กใช้กระโถนเพื่อขับถ่ายก่อนเข้านอนทุกครั้ง และสอนให้เด็กใช้กระโถนทันทีหลังจากตื่นนอน
- ให้เด็กสวมกางเกงซับฉี่ (Training Pants) ซึ่งเป็นผ้าอ้อมกึ่งกางเกงชั้นใน แทนการสวมผ้าอ้อมทั้งในช่วงนอนกลางวันและตอนกลางคืน
- บอกให้เด็กสบายใจว่าการปัสสาวะรดที่นอนเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ และไม่ต่อว่าหรือล้อเลียนเมื่อเด็กขับถ่ายรดที่นอน
- บอกให้เด็กลุกไปใช้กระโถนในตอนกลางคืนหากรู้สึกอยากขับถ่าย โดยจะไปเองคนเดียวหรือมาปลุกคุณพ่อหรือคุณแม่ให้ลุกขึ้นมาเป็นเพื่อนก็ได้