ลูก ๆ อาจมีพฤติกรรมบางอย่างที่ชวนให้พ่อแม่สงสัย บางครั้งอาจเป็นการกระทำที่ดูน่ารำคาญ ขัดหูขัดตา หรือแปลกเกินไป แต่เราขอแนะนำว่าคุณพ่อคุณแม่อย่าเพิ่งใจร้อน เพราะพฤติกรรมดังกล่าว อาจเป็นการกระทำที่ช่วย พัฒนาทักษะของลูก ได้
[embed-health-tool-vaccination-tool]
ทักษะที่สำคัญสำหรับเด็ก มีอะไรบ้าง
การพัฒนาทักษะของลูก สามารถทำได้ในหลายกรณี ผู้ปกครองไม่ควรบังคับ หรือกดดันให้ลูกทำในสิ่งที่คุณต้องการ แต่ควรให้คำแนะนำ หรือเลือกกิจกรรมที่จะช่วยเสริมสร้างทักษะสำคัญที่จะเป็นประโยชน์สำหรับการใช้ชีวิต ดังนี้
ทักษะการแก้ไขปัญหา
การสอนให้ลูกรู้จักกับชีวิตย่อมเป็นสิ่งที่ดี คุณไม่ควรปกป้องหรือโอ๋ลูกมากจนเกินไป ควรปล่อยให้ลูกได้เผชิญกับปัญหาและแก้ไขปัญหาเล็กน้อยด้วยตัวเองบ้าง เขาจะได้เรียนรู้และปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ ได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม หากคุณเห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นยากเกินความสามารถในการตัดสินใจของเด็ก ก็ควรแนะนำและช่วยเหลือเขาบ้าง อย่าปล่อยให้เขาแก้ปัญหาเองทุกเรื่อง
การได้ทำในสิ่งที่ชอบ
บางครั้งผู้ปกครองมักจะเข้มงวดกับกิจกรรมที่ลูก ๆ ชอบทำ และหากกิจกรรมดังกล่าวไม่ตรงตามความต้องการของตัวเอง พ่อแม่หลายคนก็อาจจะไม่ยอมให้ลูกได้ทำกิจกรรมนั้น ๆ คุณควรระลึกไว้ว่า ต่อให้เป็นกิจกรรมที่คุณไม่ชอบ แต่หากเป็นกิจกรรมโปรดของลูก และคุณดูแล้วไม่ได้ก่อผลเสียอะไร คุณก็ควรสนับสนุนเขาบ้าง เพราะการได้ทำกิจกรรมที่ชอบอาจส่งผลให้ลูกได้ใช้พรสวรรค์ของตัวเอง และพัฒนาต่อไปจนกลายเป็นความสามารถพิเศษของเขาต่อไปในอนาคต
ความเห็นอกเห็นใจ
การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เป็นอีกหนึ่งทักษะที่สำคัญของมนุษย์ พ่อแม่ควรเป็นแบบอย่างเรื่องการแบ่งปัน สอนให้ลูกรู้จักช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอกว่า และต้องการความช่วยเหลือ
ความอดทน
พ่อแม่ควรสอนให้ลูกรู้จักอดทน เช่น เวลาซื้อขนม ก็ควรรู้จักรอคิว และอดทนรอจนกว่าจะถึงคิวของตัวเอง เด็กจะได้เรียนรู้ว่า ไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ แต่ละอย่างต้องใช้เวลา เราจำเป็นที่จะต้องรู้จักรอคอยและอดทนบ้างในบางครั้ง โดยเฉพาะเมื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่น หรือใช้ชีวิตในสังคม
มนุษยสัมพันธ์
เด็กจำเป็นที่จะต้องมีเพื่อน และหากอยากมีเพื่อนเราก็ต้องมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ทักษะด้านนี้จะช่วยให้ลูกสามารถเข้าสังคม และใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้เป็นอย่างดี ผู้ปกครองสามารถพัฒนาทักษะนี้ให้กับลูกได้ ด้วยการพาลูกออกไปทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นบ้าง เช่น ไปเล่นนอกบ้าน ไปสนามเด็กเล่น ร่วมงานกิจกรรมสำหรับเด็ก หรือกิจกรรมออกค่ายต่าง ๆ
พฤติกรรมแปลก แต่ช่วย พัฒนาทักษะของลูก ได้
กิจกรรมต่าง ๆ สามารถช่วยพัฒนาทักษะจำเป็นต่อการใช้ชีวิตของเด็กได้ แต่ถ้าลูกเกิดมีพฤติกรรมแปลก ๆ ล่ะ นั่นจะเป็นสัญญาณอันตรายหรือเปล่า คุณพ่อคุณแม่คนไหนที่กังวลเรื่องนี้อยู่ ลองมาดูสิว่า ลูกคุณมีพฤติกรรมแปลก ๆ ดังต่อไปนี้หรือเปล่า แล้วพฤติกรรมที่ว่าช่วยพัฒนาทักษะของลูกได้อย่างไรบ้าง
ทำอะไรเพี้ยน ๆ
เด็กหลายคนมีทักษะในการจดจำใบหน้าได้ดี จากการที่ชอบทำหน้า หรือท่าทางประหลาด ๆ เช่น แลบลิ้น ทำลักษณะท่าทางตลก ๆ ซึ่งเมื่อพิจารณาดูแล้วคุณจะรู้ว่า ที่ลูกแสดงพฤติกรรมเหล่านั้น เพราะเขาพยายามเลียนแบบในสิ่งที่จดจำมา อย่างไรก็ตาม คุณควรสังเกตอย่างใกล้ชิด และคอยให้คำแนะนำหรือตักเตือนด้วย หากลูกแสดงท่าทางไม่เหมาะสม
พูดคุยเรื่อยเปื่อย
นอกจากทักษะในการจดจำใบหน้าหรือท่าทางแล้ว ทักษะในการจดจำเสียงก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งทักษะที่เด็ก ๆ ต้องพัฒนาเช่นกัน ผู้ปกครองอาจสังเกตได้ว่า ลูกมักชอบพูดไปเรื่อย พูดคนเดียว พูดในสิ่งเหนือจินตนาการ หรือเป็นเรื่องราวที่พ่อกับแม่อาจไม่เคยได้ยินมาก่อน นั่นไม่ใช่เรื่องน่าตกใจ เพราะเด็กมีทักษะในการจดจำเสียงต่าง ๆ และนำมาเลียนแบบ สิ่งสำคัญคือ คุณควรสังเกตว่าสิ่งที่ลูกพูดนั้นมีความเหมาะสมหรือไม่ หากเห็นว่าไม่เหมาะสมก็ต้องตักเตือนหรือให้คำแนะนำกับเขา หรืออาจขอให้ลูกช่วยเล่าเรื่องนั้นให้ฟังด้วยก็ได้
เล่นแต่ของเล่น
การเล่นของเล่น อาจดูเป็นการกระทำที่ไร้สาระไม่เหมือนกับการเรียน แต่การเล่นของเล่นสามารถช่วยพัฒนาทักษะของเด็ก ๆ ได้ เช่น การเล่นตัวต่อ ที่เสริมทักษะในเรื่องของจินตนาการ การต่อจิ๊กซอว์ ที่ช่วยเสริมทักษะด้านการแก้ปัญหา การจดจำ คุณพ่อคุณแม่ จึงไม่ควรห้ามหรือต่อว่าเวลาลูกเอาแต่เล่น แต่ควรหาของเล่นที่ช่วยพัฒนาทักษะมาให้ลูกเล่น แต่หากเห็นว่าเขาเล่นของเล่นมากจนเกินพอดี ก็สามารถว่ากล่าวตักเตือนได้
ออกไปเดินเล่น
หากมีเวลาว่าง ครอบครัวควรหาเวลาไปออกกำลังกาย หรือออกไปเดินเล่นข้างนอก เช่น สวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น เพื่อให้ลูกได้พบเจอสิ่งใหม่ ๆ หรือเพื่อนใหม่ ๆ กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้เด็กได้คลายเครียด ทั้งยังเป็นการพัฒนาทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ของเขาด้วย
เมื่อไหร่ควรพาลูกไปปรึกษาคุณหมอ
- ลูกเริ่มขาดวินัยในการเรียน เอาแต่สนใจกิจกรรมบางอย่างมากจนเกินสมควร หากเป็นเช่นนั้น คุณควรพูดคุยกับลูก หรือพาลูกไปพบคุณหมอ
- ซึมเศร้า ซึ่งอาจากการที่เขาชอบแสดงพฤติกรรมแปลก ๆ ที่ผู้ปกครองมองว่าเป็นการพัฒนาทักษะของลูก แต่เมื่ออยู่ที่โรงเรียนอาจโดนเพื่อน ๆ ล้อเลียนจนขาดความมั่นใจ เครียด และวิตกกังวลได้
- มีพฤติกรรมก้าวร้าว
- พูดคำหยาบบ่อยขึ้น
- ข่มขู่ผู้อื่นหรือเพื่อน ๆ ทำลายสิ่งของ ขว้างปาสิ่งของ หรือทำร้ายผู้อื่น
- ขาดความสำนึกผิด หรือขาดความเอาใจใส่ต่อความรู้สึกของคนอื่น
แม้การปล่อยให้ลูกได้ทำกิจกรรมที่เขาต้องการ หรือแสดงพฤติกรรมต่าง ๆ อย่างเป็นอิสระ จะช่วยพัฒนาทักษะของลูกได้ แตผู้ปกครองก็จำเป็นต้องคอยสังเกตและให้คำแนะนำกับเด็ก ๆ อยู่เสมอ เพราะหากปล่อยปละละเลย และไม่มีการให้คำแนะนำที่เหมาะสม สิ่งที่คุณคาดหวังว่าจะช่วยพัฒนาทักษะของลูกได้ อาจกลายเป็นสิ่งที่กำลังทำร้ายลูกในทางอ้อม