ข้อบ่งใช้
ยา พราดาซา® (ดาบิกาแทรน) ใช้สำหรับ
ยา พราดาซา® (Pradaxa®) ประกอบด้วยตัวยาดาบิกาแทรน (Dabigatran) เป็นยาต้านการแข็งตัวของเลือด (anticoagulant) หรือยายับยั้งทรอมบิน (Thrombin inhibitor) ที่ช่วยป้องกันการก่อตัวของลิ่มเลือด
ยาพราดาซา® ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและลิ่มเลือด ในผู้ที่มีภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (atrial fibrillation)
ยาพราดาซา® ยังใช้เพื่อช่วยรักษาลิ่มเลือดภายในหลอดเลือดที่ขา อย่างภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน (Deep vein thrombosis) หรือบริเวณปอด อย่างโรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด (Pulmonary embolism) และลดความเสี่ยงการกลับมาเป็นโรคเหล่านี้อีกครั้ง
วิธีการใช้ยาพราดาซา® (ดาบิกาแทรน)
รับประทานยาพราดาซา® ตามที่แพทย์กำหนดอย่างเคร่งครัด ควรทำตามวิธีการใช้ยาทั้งหมดบนฉลากยา อย่าใช้ยาในขนาดที่มากกว่า น้อยกว่า หรือนานกว่าที่แนะนำ
รับประทานยานี้พร้อมกับดื่มน้ำเต็มแก้ว คุณสามารถรับประทานยาพราดาซา® พร้อมกับอาหารหรือรับประทานแยกต่างหากก็ได้
อย่าบด เคี้ยว หัก หรือแกะเปิดยาแคปซูล ควรกลืนยาแคปซูลลงไปทั้งเม็ด
เนื่องจากยาพราดาซา® จะทำให้เลือดของคุณไม่แข็งตัว เพื่อป้องกันลิ่มเลือดที่ไม่ต้องการ ยานี้สามารถทำให้คุณเลือดไหลได้ง่ายขึ้น แม้จะเป็นเพียงแค่การบาดเจ็บเล็กน้อย เช่น หกล้มหรือหัวโขก โปรดติดต่อแพทย์หรือรับการรักษาฉุกเฉินทันที หากคุณหกล้มหรือหัวโขก หรือหากคุณมีอาการเลือดไหลไม่หยุด
หากคุณต้องรับการผ่าตัด ทำฟัน หรือรับการตรวจหรือการรักษาใดๆ โปรดแจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบล่วงหน้าว่า คุณใช้ยาพราดาซา® ภายใน 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา คุณอาจจำเป็นต้องหยุดใช้ยานี้เป็นเวลาสั้นๆ ก่อนรับการผ่าตัดหรือกระบวนการทางการแพทย์อื่นๆ
อย่าหยุดใช้ยาพราดาซา® โดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ การหยุดใช้ยานี้ อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้ แพทย์อาจจะแนะนำยาอื่น เพื่อป้องกันลิ่มเลือด หากคุณหยุดใช้ยาพราดาซา®
คุณอาจจำเป็นต้องรับการตรวจสมรรถภาพของไตและการตรวจเลือด ก่อนและระหว่างการใช้ยาพราดาซา®
เก็บยาแคปซูลไว้ในบรรจุภัณฑ์หรือแผงยาเดิม อย่าเก็บยาพราดาซา® ไว้ในกล่องใส่ยาประจำวันหรือตลับยา
หากคุณได้รับยาในปริมาณมากกว่าปริมาณสำหรับ 30 วัน อย่าเปิดขวดยามากกว่าครั้งละหนึ่งขวด ควรเปิดขวดยาใหม่หลังยาในขวดเก่าหมดแล้วเท่านั้น
ทิ้งยาแคปซูลที่ไม่ได้ใช้ไปหากผ่านไปนานกว่า 4 เดือน หลังจากเปิดขวดครั้งแรก ยาพราดาซา® ที่เก็บไว้ในแผงยา ควรทิ้งไปหลังจากเลยวันหมดอายุ
การเก็บรักษายาพราดาซา® (ดาบิกาแทรน)
ยาพราดาซา® ควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาพราดาซา® บางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยาพราดาซา® ลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้ยา พราดาซา® (ดาบิกาแทรน)
ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์ทราบหาก
- คุณกำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร เนื่องจากในช่วงที่คุณตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร ควรใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำเท่านั้น
- หากคุณกำลังใช้ยาอื่นอยู่ รวมทั้งยาที่หาซื้อได้เอง เช่น สมุนไพรหรือยาทางเลือกอื่นๆ
- หากคุณแพ้สารออกฤทธิ์หรือไม่มีฤทธิ์ในการรักษาของยาพราดาซา® หรือยาอื่นๆ
- หากคุณมีอาการป่วย มีความผิดปกติ หรือมีสภาวะทางการแพทย์อื่นๆ
คุณไม่ควรใช้ยาพราดาซา® หากคุณแพ้ต่อยาดาบิกาแทรน (dabigatran) หรือหากคุณมี
- ลิ้นหัวใจเทียม
- กำลังมีอาการเลือดออกทั้งจากการผ่าตัด การบาดเจ็บ หรือสาเหตุอื่นๆ
ยา พราดาซา® อาจทำให้เกิดอาการเลือดออกได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะ
- หากคุณมีแผลในกระเพาะอาหาร
- หากคุณเพิ่งมีอาการเลือดออกที่กระเพาะอาหารหรือลำไส้ หรืออาการกำเริบอีกครั้ง
- หากคุณเป็นโรคไต โดยเฉพาะหากคุณกำลังใช้ยาโดรเนดาโรน (dronedarone) หรือยาคีโตโคนาโซล (ketoconazole)
- หากคุณกำลังใช้ยาที่สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอาการเลือดออก เช่น ยาแอสไพริน (aspirin) ยาโคลพิโดเกรล (clopidogrel) อย่าง พลาวิกซ์ (Plavix) ยาเฮพาริน (heparin) ยาพราซูเกรล (prasugrel) ยาวาฟาริน (warfarin) อย่างคูมาดิน (Coumadin) หรือแจนโทแวน (Jantoven)
- หากคุณกำลังใช้ยาแก้อักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID) เป็นประจำ เช่น ยาไอบูโพรเฟน (ibuprofen) อย่าง แอดวิล (Advil) หรือมอทริน (Motrin) ยานาพรอกเซน (naproxen) อย่างอะลีฟ (Aleve) ยาไดโคลเฟแนค (diclofenac) ยาอินโดเมทาซิน (indomethacin) ยาเมลอกซิแคม (meloxicam) และอื่น ๆ
- หากคุณอายุมากกว่า 75 ปี
ยาพราดาซา® สามารถทำให้เกิดอาการลิ่มเลือดที่รุนแรงบริเวณกระดูกสันหลัง หากคุณทำการเจาะน้ำไขสันหลัง (spinal tap) หรือให้ระงับความรู้สึกทางไขสันหลัง (Epidural) ลื่มเลือดประเภทนี้สามารถทำให้เกิดอาการอัมพาตระยะยาว และมักจะเกิดขึ้นหาก
- คุณมีข้อบกพร่องทางพันธุกรรมที่กระดูกสันหลัง
- หากคุณมีสายสวนเสียบเข้าทางไขสันหลัง (spinal catheter)
- หากคุณเคยรับการผ่าตัดที่กระดูกสันหลังหรือเจาะน้ำไขสันหลังซ้ำ
- หากคุณทำการเจาะน้ำไขสันหลัง หรือได้รับยาระงับความรู้สึกทางไขสันหลัง
- หากคุณกำลังใช้ยาแก้อักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ — แอดวิล มอทริน และอื่นๆ
- หากคุณกำลังใช้ยาอื่นเพื่อรักษา หรือป้องกันลิ่มเลือด
เพื่อให้แน่ใจว่ายาพราดาซา® นั้นปลอดภัยสำหรับคุณ โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณมี
- โรคไต
- เคยมีแผลหรือเลือดออกในกระเพาะอาหาร
- หากคุณอายุมากกว่า 75 ปี
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
ยาพราดาซา® จัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
- A= ไม่มีความเสี่ยง
- B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
- C= อาจจะมีความเสี่ยง
- D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
- X= ห้ามใช้
- N= ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้ยาพราดาซา® (ดาบิกาแทรน)
รับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินทันที หากคุณมีสัญญาณของอาการแพ้ ได้แก่ ลมพิษ ปวดหรือแน่นหน้าอก หายใจมีเสียงหวีด หายใจติดขัด บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ
รับการรักษาฉุกเฉินทันที หากคุณมีอากรลิ่มเลือดในกระดูกสันหลัง อย่างปวดหลัง ชา หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงในช่วงล่างของร่างกาย หรือสูญเสียการควบคุมกระเพาะปัสสาวะหรือลำไส้
โปรดติดต่อแพทย์ในทันที หากคุณมีอาการ
- อาการเลือดไหลไม่หยุด
- ปวดหัว อ่อนแรง วิงเวียน รู้สึกคล้ายจะหมดสติ
- มีรอยช้ำง่าย เลือดออกผิดปกติ (ที่จมูก ปาก ช่องคลอด หรือทวารหนัก) มีจุดสีม่วงหรือสีแดงใต้ผิวหนัง
- มีเลือดในปัสสาวะหรืออุจจาระ อุจจาระสีดำหรือคล้ายยางมะตอย
- ไอเป็นเลือดหรืออาดเจียนคล้ายกากกาแฟ
- ปัสสาวะสีชมพูหรือสีน้ำตาล
- มีอาการปวดหรือบวมที่ข้อต่อ
- ประจำเดือนมาหนักมาก
ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปมีดังนี้
- ปวดท้องหรือรู้สึกไม่สบายที่ท้อง
- อาหารไม่ย่อย
- แสบร้อนกลางอก
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ หรืออาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
ยาพราดาซา® อาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ได้แก่
- แอ็บซิกซิแม็บ (Abciximab) โคลพิโดเกรล (clopidogrel) ไดไพริดาโมล (dipyridamole) เอปทิฟิบาไทด์ (eptifibatide) ทิโคลพิดีน (ticlopidine) ไทโรไฟแบน (tirofiban)
- อัลเทเพลส (Alteplase) เรเทเพลส (reteplase) เทเนคเทเพลส (tenecteplase) ยูโรไคเนส (urokinase)
- อะพิซาแบน (Apixaban) อาร์กาโทแบน (argatroban) ไบวาลิรูดิน (bivalirudin) เดซิรูดิน (desirudin) เลพิรูดิน (lepirudin) ริวาโรซาแบน (rivaroxaban)
- ดาลเทพาริน (Dalteparin) อีนอกซาพาริน (enoxaparin) เฮพาริน (heparin) ทินเซพริน (tinzaparin)
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
ยาพราดาซา® อาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
ยาพราดาซา® อาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาพราดาซา® (ดาบิกาแทรน) สำหรับผู้ใหญ่
ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและภาวะลิ่มเลือดอุดตัน (Systemic Embolism) ในผู้ที่ไม่ได้มีภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้วที่เกี่ยวกับลิ้นหัวใจ (Non-valvular AF)
- ค่าครีอะตินีนเคลียรานซ์ (CrCl) มากกว่า 30 มล./นาที 150 มก. วันละ 2 ครั้ง
- ค่าครีอะตินีนเคลียรานซ์ 15-30 มล./นาที 75 มก. วันละสองครั้ง
- ค่าครีอะตินีนเคลียรานซ์น้อยกว่า 15 มล./นาที หรือกำลังอยู่ในกระบวนการทำไดอะไลซิส (Dialysis) ไม่สามารถให้คำแนะนำการใช้ยาได้
- ค่าครีอะตินีนเคลียรานซ์ 30-50 มล./นาที โดยใช้ร่วมกับยายับยั้งพี-ไกลโคโปรตีน (P-gp inhibitors) ลดขนาดยาลงมาที่ 75 มก. วันละ 2 ครั้ง หากใช้ร่วมกับยายับยั้งพี-ไกลโคโปรตีนโดรเนดาโรนหรือยาคีโตโคนาโซลออกฤทธิ์ทั่วร่างกาย
- ค่าครีอะตินีนเคลียรานซ์น้อยกว่า 30 มล./นาที โดยใช้ร่วมกับยายับยั้งพี-ไกลโคโปรตีน ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
เพื่อรักษาภาวะหลอดเลือดดำอุดตันและลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด
- ค่าครีอะตินีนเคลียรานซ์มากกว่า 30 มล./นาที 150 มก. วันละ 2 ครั้ง
เพื่อลดความเสี่ยงในการกำเริบของภาวะหลอดเลือดดำอุดตันและลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด
- ค่าครีอะตินีนเคลียรานซ์น้อยกว่าหรือเท่ากับ 30 มล./นาที หรือกำลังอยู่ในกระบวนการทำไดอะไลซิส ไม่สามารถให้คำแนะนำการใช้ยาได้
- ค่าครีอะตินีนเคลียรานซ์น้อยกว่า 50 มล./นาที โดยใช้ร่วมกับยายับยั้งพี-ไกลโคโปรตีน ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
เพื่อป้องกันภาวะหลอดเลือดดำอุดตันและลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด หลังจากการผ่าตัดข้อสะโพกเทียม
- ค่าครีอะตินีนเคลียรานซ์มากกว่า 30 มล./นาที 110 มก. ในวันแรก แล้วตามด้วย 220 มก. วันละครั้ง
- ค่าครีอะตินีนเคลียรานซ์น้อยกว่าหรือเท่ากัน 30 มล./นาที หรือกำลังอยู่ในกระบวนการทำไดอะไลซิส ไม่สามารถให้คำแนะนำการใช้ยาได้
- ค่าครีอะตินีนเคลียรานซ์น้อยกว่า 50 มล./นาที โดยใช้ร่วมกับยายับยั้งพี-ไกลโคโปรตีน ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
ขนาดยาพราดาซา® (ดาบิกาแทรน) สำหรับเด็ก
ยังไม่มีการพิสูจน์ความความปลอดภัยและประสิทธิภาพของขนาดยานี้สำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้น จึงควรทำความเข้าใจกับความปลอดภัยของยาก่อนการใช้ยา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อกับแพทย์หรือเภสัชกร
รูปแบบของยา
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
- ยาแคปซูลดาบิกาแทรน อิเท็กซิเลต เมซีเลต (dabigatran etexilate mesylate) 75 มก.
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]