backup og meta

กรดเอธาครีนิก (Ethacrynic Acid)

ข้อบ่งใช้ข้อควรระวังและคำเตือนผลข้างเคียงปฏิกิริยาของยาขนาดยา

ข้อบ่งใช้

กรดเอธาครีนิก ใช้สำหรับ

กรดเอธาครีนิก (Ethacrynic Acid) เป็นยาขับน้ำหรือยาขับปัสสาวะ (diuretic) ทำงานที่ไตโดยการเพิ่มปริมาณการผลิตปัสสาวะ ช่วยให้ร่างกายกำจัดน้ำส่วนเกินออกไปได้ ยานี้ใช้เพื่อลดอาการบวมน้ำ (edema) ที่เกิดจากสภาวะต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง หัวใจล้มเหลว โรคตับ และโรคไต ส่งผลให้ไตสามารถทำงานได้ดีขึ้น และลดอาการต่างๆ เช่น อาการหายใจติดขัด อาการบวมที่ข้อเท้า เท้า มือ หรือท้อง

*ไม่ควรใช้ยานี้กับเด็กทารก

วิธีการใช้ กรดเอธาครีนิก

  • ใช้ยาตามที่แพทย์กำหนด โดยปกติคือวันละ 1 หรือ 2 ครั้งหลังมื้ออาหาร ควรรับประทานยานี้อย่างน้อย 4 ชั่วโมง ก่อนเวลานอน หากคุณใช้ยานี้ใกล้กับเวลานอน คุณอาจจำเป็นต้องตื่นขึ้นมาปัสสาวะกลางดึก หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับตารางการใช้ยา โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
  • ขนาดยาขึ้นอยู่กับสภาวะทางการแพทย์ และการตอบสนองต่อการรักษา เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง แพทย์อาจแนะนำให้เริ่มใช้ยาในขนาดต่ำๆ ก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ เพิ่มขนาดยา โดยแพทย์จะปรับขนาดยาตามสภาวะทางการแพทย์ การตอบสนองต่อการรักษา และผลการทดสอบในห้องทดลอง (เช่น ระดับของโซเดียม โพแทสเซียม และคลอไรด์) บางคนอาจต้องใช้ยาวันเว้นวัน หรือใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น และควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
  • หากแพทย์สั่งให้คุณใช้ยานี้เป็นประจำ ควรใช้ยาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ประโยชน์จากยาสุงสุด เพื่อให้จำง่าย ควรรับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวัน
  • หากอาการของคุณยังไม่ดีขึ้น หรือมีอาการแย่ลง ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบทันที

การเก็บรักษา กรดเอธาครีนิก

กรดเอธาครีนิกควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง ให้พ้นจากแสงและความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเสื่อมสภาพ ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง กรดเอธาครีนิกบางยี่ห้อมีวิธีเก็บรักษาที่แตกต่างออกไป จึงควรอ่านคำแนะนำบนฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เสมอ และโปรดเก็บยาให้พ้นจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยงเพื่อความปลอดภัย

ไม่ควรทิ้งกรดเอธาครีนิกลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นเสียแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น  หากยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยา ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้อง โดยสามารถสอบถามวิธีกำจัดยาที่ถูกต้องเพิ่มเติมได้จากเภสัชกร

ข้อควรระวังและคำเตือน

ข้อควรรู้ก่อนใช้ กรดเอธาครีนิก

  • ก่อนใช้ยานี้ ควรแจ้งประวัติทางการแพทย์ของคุณให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ โดยเฉพาะโรคเกาต์ โรคไต โรคตับ
  • ยานี้อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนได้ ฉะนั้นในช่วงที่ใช้ยานี้ คุณไม่ควรประกอบกิจกรรมที่ต้องตื่นตัวอยู่เสมอ เช่น ขับรถ ใช้เครื่องจักร ควรกลับไปทำกิจกรรมดังกล่าว ต่อเมื่อแน่ใจว่าคุณจะสามารถทำได้อย่างปลอดภัย และควรจำกัดปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย
  • ยานี้สามารถลดระดับของเกลือหรือแร่ธาตุภายในเลือดได้ เช่น โซเดียม โพแทสเซียม แพทย์อาจสั่งให้คุณรับประทานเกลือ อาหารที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียม เช่น กล้วย น้ำส้มคั้น มากขึ้น หรือรับประทานอาหารเสริมโพแทสเซียม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดสอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
  • ยานี้อาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดได้ หากคุณเป็นโรคเบาหวาน ควรตรวจระดับน้ำตาลในเลือดตามที่แพทย์สั่งเป็นประจำ และแจ้งผลให้แพทย์ทราบ แพทย์อาจจำเป็นต้องปรับขนาดยาเพื่อให้เหมาะสมกับโรคเบาหวาน โปรแกรมการออกกำลังกาย หรืออาหารที่คุณรับประทาน
  • ก่อนการผ่าตัด ควรแจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบด้วยว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็น ยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่หาซื้อเอง สมุนไพร เป็นต้น
  • ผู้สูงอายุอาจมีปฏิกิริยาไวต่อผลข้างเคียงของยานี้มากกว่า โดยเฉพาะอาการวิงเวียน การสูญเสียน้ำและแร่ธาตุ
  • ในช่วงตั้งครรภ์ควรใช้ยานี้เมื่อจำเป็นเท่านั้น โปรดปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ของการใช้ยา
  • สำหรับสตรีที่ให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา เนื่องจากยังไม่ทราบแน่ชัดว่ายานี้สามารถส่งผ่านน้ำนมแม่ได้หรือไม่ 

ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ยังไม่มีงานวิจัยเกี่ยวกับความปลอดภัยของการใช้ยานี้ขณะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรที่เพียงพอ หากคุณกำลังตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตรโปรดปรึกษากับแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อประเมินประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยา

กรดเอธาครีนิกจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด B โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)

การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้

  • A= ไม่มีความเสี่ยง
  • B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
  • C= อาจจะมีความเสี่ยง
  • D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
  • X= ห้ามใช้
  • N= ไม่ทราบแน่ชัด

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงของการใช้ กรดเอธาครีนิก

  • อาจเกิดอาการวิงเวียน เวียนศีรษะ อ่อนแรง ตะคริว ท้องไส้ปั่นป่วน หรือท้องร่วง หากอาการเหล่านี้ไม่หายไปหรือรุนแรงขึ้น โปรดแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที
  • เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอาการวิงเวียนและเวียนศีรษะ ควรลุกจากท่านั่งหรือท่านอนช้าๆ
  • โปรดจำไว้ว่า การที่แพทย์ให้คุณใช้ยาตัวนี้ เนื่องจากคำนวณแล้วว่ายามีประโยชน์มากกว่าเป็นโทษ และคนที่ใช้ยานี้ส่วนใหญ่ไม่พบผลข้างเคียงที่ร้ายแรงใดๆ
  • ยานี้เป็นยาขับปัสสาวะที่รุนแรง และสามารถทำให้เกิดการสูญเสียน้ำ (ภาวะขาดน้ำ) และเกลือหรือแร่ธาตุภายในร่างกายเป็นปริมาณมาก ขณะใช้ยาจึงควรคอยสังเกตอาการของภาวะขาดน้ำอยู่เสมอ เช่น รู้สึกสับสน ปัสสาวะลดลงผิดปกติ ปากแห้งหรือกระหายน้ำผิดปกติ หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นผิดปกติ วิงเวียนหรือเวียนศีรษะ

หากเกิดผลข้างเคียงรุนแรงต่อไปนี้ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที

การแพ้ยาที่รุนแรงนี้ค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก แต่จำเป็นต้องได้รับการรักษาที่ทันท่วงที อาการของการแพ้รุนแรง ได้แก่ มีผดผื่น คันหรือบวม (โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ลิ้น และลำคอ) เวียนหัวขั้นรุนแรง หายใจติดขัด

ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร

ปฏิกิริยาของยา

ปฏิกิริยากับยาอื่น

  • ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ได้แก่ ฟูโรซีไมด์ (furosemide) ลิเทียม (lithium)
  • ยาบางชนิดอาจจะมีส่วนประกอบที่สามารถเพิ่มระดับความดันโลหิต หรือทำให้อาการบวมรุนแรงขึ้น คุณควรแจ้งให้แพทย์และเภสัชกรทราบว่ากำลังใช้ยาใดอยู่บ้าง และสอบถามวิธีการใช้ยาอย่างปลอดภัย โดยเฉพาะยาแก้ไอแก้หวัด ยาลดความอ้วน หรือยาบรรเทาอาการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID) เช่น ไอบูโพรเฟน (ibuprofen) หรือนาพรอกเซน (naproxen)
  • กรดเอธาครีนิกอาจทำปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ และอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงรุนแรง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อความปลอดภัย คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรด้วยว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง สมุนไพร เป็นต้น และเพื่อความปลอดภัย คุณไม่ควรเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาเองโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์

ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์

กรดเอธาครีนิกอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น

กรดเอธาครีนิกอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ

ขนาดยา

ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม

ขนาดกรดเอธาครีนิกสำหรับผู้ใหญ่

ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาอาการน้ำคั่งในช่องท้อง (Ascites)

รับประทาน

  • 50 ถึง 200 มก. ต่อวันโดยแบ่งใช้ 1-2 ครั้ง เมื่อได้รับผลการขับปัสสาวะ อาจจำเป็นต้องปรับขนาดยาเพิ่มขึ้นอีก 25 ถึง 50 มก. ไปจนได้ขนาดยาต่ำสุดที่ยังคงประสิทธิภาพในการรักษา และให้ยาอย่างต่อเนื่องหรือเป็นช่วงๆ
  • ขนาดยาสำหรับเป็นยาเสริม: เมื่อเพิ่มยานี้ในสูตรยาปัสสาวะที่มีอยู่ ขนาดยาเริ่มต้นและการเปลี่ยนขนาดยาควรเพิ่มขึ้น 25 มก.

คำแนะนำ

  • อาจจำเป็นต้องใช้ยาในขนาดขนาดยาเริ่มต้นและขนาดยาปกติที่สูงถึง 200 มก. วันละ 2 ครั้ง ส่วนใหญ่แล้วจะใช้สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการบวมน้ำขั้นรุนแรงและดื้อยา
  • ขนาดยาและความถี่ในการใช้อาจสามารถลดลงได้เมื่อได้รับน้ำหนักแห้ง (dry weight) ที่ต้องการ
  • ขนาดยาสำหรับให้ยาเป็นช่วงๆ นั้นอาจมีทั้งการให้ยาวันเว้นวันหรือให้ยาเป็นระยะยาวโดยมีช่วงพักไม่ใช้ยา

การใช้งาน เพื่อจัดการอาการบวมน้ำ เมื่อจำเป็นต้องใช้ยาที่มีโอกาสในการขับปัสสาวะได้มากกว่าปกติในระยะสั้น เพื่อจัดการกับอาการบวมน้ำ ที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด (congenital heart disease) โรคตับแข็ง หรือโรคไต รวมทั้งกลุ่มอาการเนฟโฟรติค (nephrotic syndrome) หรือการจัดการอาการท้องมานในระยะสั้น เนื่องจากก้อนเนื้อร้าย อาการบวมน้ำไม่ทราบสาเหตุ หรือภาวะบวมน้ำเหลือง (Lymphedema)

การฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำ

  • 50 มก. (หรือ 0.5 ถึง 1 มก./กก.) ฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำหนึ่งครั้ง ในบางครั้งอาจจำเป็นต้องให้ยาครั้งที่สองฉีดเข้าที่บริเวณฉีดยาแห่งใหม่
  • คำแนะนำ: เคยมีการใช้ยาในขนาดยาไม่เกิน 100 มก. สำหรับฉีดหนึ่งครั้ง สำหรับสถานการณ์ที่สำคัญ
  • การใช้งาน: เมื่อต้องการฤทธิ์ของยาขับปัสสาวะอย่างเร่งด่วน เช่นอาการบวมน้ำที่ปอดอย่างเฉียบพลัน (acute pulmonary edema) หรือการดูดซึมของระบบทางทางเดินอาหารนั้นบกพร่องหรือไม่สามารถใช้ยาแบบรับประทานได้

ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาอาการบวมน้ำ (Edema)

รับประทาน

  • 50 ถึง 200 มก. ต่อวันโดยแบ่งใช้ 1-2 ครั้ง เมื่อได้รับผลการขับปัสสาวะ อาจจำเป็นต้องปรับขนาดยาเพิ่มขึ้นอีก 25 ถึง 50 มก. ไปจนได้ขนาดยาต่ำสุดที่ยังคงประสิทธิภาพในการรักษา และให้ยาอย่างต่อเนื่องหรือเป็นช่วงๆ
  • ขนาดยาสำหรับเป็นยาเสริม: เมื่อเพิ่มยานี้ในสูตรยาปัสสาวะที่มีอยู่ ขนาดยาเริ่มต้นและการเปลี่ยนขนาดยาควรเพิ่มขึ้น 25 มก.

คำแนะนำ

  • อาจจำเป็นต้องใช้ยาในขนาดขนาดยาเริ่มต้น และขนาดยาปกติที่สูงกว่า 200 มก. วันละ 2 ครั้ง ส่วนใหญ่แล้วจะใช้สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการบวมน้ำขั้นรุนแรงและดื้อยา
  • ขนาดยาและความถี่ในการใช้อาจสามารถลดลงได้เมื่อได้รับน้ำหนักแห้ง (dry weight) ที่ต้องการ
  • ขนาดยาสำหรับให้ยาเป็นช่วงๆ นั้นอาจมีทั้งการให้ยาวันเว้นวันหรือให้ยาเป็นระยะยาวโดยมีช่วงพักไม่ใช้ยา

การใช้งาน เพื่อจัดการอาการบวมน้ำ เมื่อจำเป็นต้องใช้ยาที่มีโอกาสในการขับปัสสาวะได้มากกว่าปกติในระยะสั้น เพื่อจัดการกับอาการบวมน้ำที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด (congenital heart disease) โรคตับแข็ง หรือโรคไต รวมทั้งกลุ่มอาการเนฟโฟรติค (nephrotic syndrome) หรือการจัดการอาการน้ำคั่งในท้องในระยะสั้น เนื่องจากก้อนเนื้อร้าย อาการบวมน้ำไม่ทราบสาเหตุ หรือภาวะบวมน้ำเหลือง (Lymphedema)

การฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำ

  • 50 มก. (หรือ 0.5 ถึง 1 มก./กก.) ฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำหนึ่งครั้ง ในบางครั้งอาจจำเป็นต้องให้ยาครั้งที่สอง ฉีดเข้าที่บริเวณฉีดยาแห่งใหม่
  • คำแนะนำ: เคยมีการใช้ยาในขนาดยาไม่เกิน 100 มก. สำหรับฉีดหนึ่งครั้ง สำหรับสถานการณ์สำคัญ
  • การใช้งาน: เมื่อต้องการฤทธิ์ของยาขับปัสสาวะอย่างเร่งด่วน เช่น อาการบวมน้ำที่ปอดอย่างเฉียบพลัน (acute pulmonary edema) หรือการดูดซึมของระบบทางทางเดินอาหารนั้นบกพร่องหรือไม่ สามารถใช้ยาแบบรับประทานได้

การปรับขนาดยาไต

  • ข้อห้ามใช้สำหรับผู้ป่วยภาวะปัสสาวะไม่ออก (anuria)
  • หากเกิดความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลท์ (electrolyte imbalance) ภาวะอะโซทีเมีย (azotemia) ภาวะปัสสาวะน้อย (Oliguria) หนักขึ้นหรือรุนแรงขึ้น ขณะรักษาโรคไต ควรหยุดใช้ยานี้

การปรับขนาดยาสำหรับตับ

  • ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง

การปรับขนาดยา

  • ขนาดยาสำหรับรับประทานสามารถเพิ่มขึ้นได้ 25 ถึง 50 มก./วัน.
  • ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะตอบสนองต่อขนาดยา 50 ถึง 100 มก./วัน.
  • สามารถให้ยาทางหลอดเลือดดำครั้งที่สองได้ภายใน 6 ถึง 8 ชั่วโมง

คำแนะนำอื่นๆ

  • คำแนะนำการให้ยาทางหลอดเลือดดำ: ควรให้ยาอย่างช้าๆ ผ่านทางสายหลอดยาหรือฉีดเข้าหลอดเลือดดำโดยตรง เป็นเวลานานหลายนาที อย่าฉีดยาให้ผิวหนังหรือเข้ากล้ามเนื้อ
  • เทคนิคการคืนรูปยาหรือการเตรียมยาสำหรับฉีดทางหลอดเลือดดำ: การคืนรูปยาแบบแห้ง ผสมสารละลายน้ำเกลือ 50 มก. หรือสารละลายเดกซ์โทรส (dextrose) 5% เข้าในขวดยา ไม่แนะนำสารละลายเดกซ์โทรส 5% ที่มีค่าพีเอช (pH) ต่ำกว่า 5
  • การผสมยาสำหรับฉีดเข้าทางหลอดเลือด (IV compatibility): อย่าผสมยานี้ในรูปแบบสารละลายเข้ากับเลือดรวม (whole blood) หรืออนุพันธ์ของเลือด

การเฝ้าระวัง

กระบวนการเผาผลาญ: ควรทำการตรวจระดับเซรั่มอิเล็กโทรไลท์ (Serum electrolytes) คาร์บอนไดออกไซด์ และตรวจปริมาณไนโตรเจนในกระแสเลือด (BUN) บ่อยครั้งในช่วงช่วงของการรักษาและเป็นระยะๆ หลังจากนั้น ควรมีการวัดน้ำหนักผู้ป่วยก่อนและขณะการรักษาด้วยยานี้

ขนาดกรดเอธาครีนิกสำหรับเด็ก

ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาอาการบวมน้ำ (Edema)

อายุน้อยกว่า 1 ปี: ห้ามใช้

1 ปีขึ้นไป

  • ขนาดยาเริ่มต้น: รับประทาน 25 มก.
  • ขนาดยาปกติ:อาจปรับขนาดยาเพิ่ม 25 มก.
  • การใช้งาน: เพื่อจัดการอาการบวมน้ำ เมื่อจำเป็นต้องใช้ยาที่มีโอกาสในการขับปัสสาวะได้มากกว่าปกติในระยะสั้น เพื่อจัดการกับอาการบวมน้ำที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด (congenital heart disease) หรือกลุ่มอาการเนฟโฟรติค (nephrotic syndrome) สำหรับผู้ป่วยที่พักรักษาตัวภายในโรงพยาบาล

ข้อควรระวัง

  • ยังไม่มีการพิสูจน์ความปลอดภัย และประสิทธิภาพของการใช้ยาแบบรับประทาน และยาสำหรับฉีดในเด็กทารก
  • ยังไม่มีการพิสูจน์ความปลอดภัย และประสิทธิภาพของยาสำหรับฉีดเข้าหลอดเลือดดำ ในผู้ป่วยที่อายุน้อยกว่า 18 ปี

รูปแบบของยา

ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้

  • ยาเม็ดสำหรับรับประทาน
  • ยาผงสำหรับฉีดเข้าหลอดเลือด

กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที

กรณีลืมใช้ยา

หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา

[embed-health-tool-bmi]

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Ethacrynic Acid. https://www.webmd.com/drugs/2/drug-8778/ethacrynic-acid-oral/details. Accessed January 26, 2018

Ethacrynic Acid Dosage. https://www.drugs.com/dosage/ethacrynic-acid.html. Accessed January 26, 2018

Ethacrynic Acid. https://medlineplus.gov/druginfo/meds/a682857.html. Accessed January 26, 2018

เวอร์ชันปัจจุบัน

23/09/2020

เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ

อัปเดตโดย: Nattrakamol Chotevichean


บทความที่เกี่ยวข้อง

ยาแก้เจ็บคอ ควรใช้เมื่อไหร่ดี มีข้อควรระวังอย่างไร

ทำความรู้จัก ยาที่อันตรายต่อไต กินผิดอาจไตพัง ไตมีปัญหา


ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์ โดย เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group · เขียน โดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไข 23/09/2020

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา