ยา acyclovir หรือยาอะไซโคลเวียร์ เป็นยาต้านไวรัส ยานี้จะชะลอการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ (herpes virus) ภายในร่างกาย ยานี้ไม่สามารถรักษาเชื้อเฮอร์พีส์ให้หายขาดได้ แต่สามารถลดอาการของการติดเชื้อได้
ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
ยา acyclovir หรือยาอะไซโคลเวียร์ เป็นยาต้านไวรัส ยานี้จะชะลอการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ (herpes virus) ภายในร่างกาย ยานี้ไม่สามารถรักษาเชื้อเฮอร์พีส์ให้หายขาดได้ แต่สามารถลดอาการของการติดเชื้อได้
acyclovir หรือยาอะไซโคลเวียร์ เป็นยาต้านไวรัส ยานี้จะชะลอการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ (herpes virus) ภายในร่างกาย ยานี้ไม่สามารถรักษาเชื้อเฮอร์พีส์ให้หายขาดได้ แต่สามารถลดอาการของการติดเชื้อได้
ยาอะไซโคลเวียร์ใช้เพื่อรักษาการติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ เช่น โรคเริมที่อวัยวะเพศ โรคเริมที่ริมฝีปาก โรคงูสวัด และโรคอีสุกอีใส
ใช้ยา acyclovir หรือยาอะไซโคลเวียร์ตามที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ควรทำตามวิธีการใช้ยาทั้งหมดบนฉลากยา อย่าใช้ยาในขนาดที่มากกว่า น้อยกว่า หรือนานกว่าที่แนะนำ
ควรเริ่มต้นการรักษาด้วยยาอะไซโคลเวียร์ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หลังจากเริ่มมีอาการ (เช่น แสบร้อน แผลพุพอง)
ควรเขย่าขวดยาน้ำแขวนตะกอนสำหรับรับประทาน (ยาน้ำ) ให้ดีก่อนตวงยา ควรตวงยาด้วยกระบอกที่แถมมา หรือช้อนหรือถ้วยสำหรับตวงยา หากไม่มีอุปกรณ์สำหรับตวงยา โปรดขอจากเภสัชกร
วิธีการใช้ยาอม อะไซโคลเวียร์
โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ หาก มีความเปลี่ยนแปลงทางด้านน้ำหนัก ขนาดของยาอะไซโคลเวียร์นั้นจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว (โดยเฉพาะในเด็กและวัยรุ่น) และความเปลี่ยนแปลงนี้อาจจะส่งผลต่อขนาดยาได้
ควรดื่มน้ำให้มากๆ ขณะที่กำลังใช้ยาอะไซโคลเวียร์ เพื่อให้ไตสามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง
ใช้ยานี้จนครบระยะเวลาตามกำหนด อาการอาจจะดีขึ้นก่อนที่การติดเชื้อจะหายไปอย่างสมบูรณ์ ยาอะไซโคลเวียร์นั้นไม่สามารถรักษาการติดเชื้อไวรัส อย่างโรคไข้หวัดใหญ่หรือโรคหวัดได้
ควรรักษาความสะอาดแผลที่เกิดจากเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ และทำให้แห้งที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ การสวมเสื้อผ้าหลวมๆ อาจจะช่วยป้องกันอาการระคายเคืองที่แผลได้
ยาอะไซโคลเวียร์ควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาอะไซโคลเวียร์บางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยาอะไซโคลเวียร์ลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์ทราบหาก
ไม่ควรใช้ยานี้ หากแพ้ยาอะไซโคลเวียร์ หรือยาวาลาไซโคลเวียร์ (valacyclovir) อย่างวาลเทร็กซ์ (Valtrex) ไม่ควรใช้ยาอมอะไซโคลเวียร์ หากแพ้ต่อโปรตีนนม
เพื่อให้แน่ใจว่า ยาอะไซโคลเวียร์นั้นปลอดภัยโปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ หากเป็นโรคดังนี้
เชื้อเฮอร์พีส์นั้นสามารถติดต่อสู่ทารกได้ขณะคลอดบุตร หากมีแผลเริมที่อวัยวะเพศขณะที่คลอดทารก หากเป็นโรคเริมที่อวัยวะเพศ ควรจะป้องกันแผลเริมขณะตั้งครรภ์ ควรใช้ยาตามที่กำหนดเพื่อควบคุมการติดเชื้อให้ดีที่สุด
ยาอะไซโคลเวียร์สามารถผ่านเข้าสู่น้ำนมแม่ และเป็นอันตรายต่อทารก อย่าใช้ยานี้โดยไม่ปรึกษาแพทย์หากกำลังให้นมบุตร
อย่าใช้ยาอมอะไซโคลเวียร์กับเด็กเล็ก เพราะอาจทำให้สำลักได้
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
ยาอะไซโคลเวียร์จัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท B โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
รับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินทันที หากมีสัญญาณของอาการแพ้ ได้แก่ ลมพิษ หายใจติดขัด บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ
โปรดติดต่อแพทย์ในทันทีหากมีอาการดังนี้
ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปมีดังนี้
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ หรืออาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้ามีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ยาอะไซโคลเวียร์อาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่กำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น
ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรว่ากำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยาอะไซโคลเวียร์อาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์โดยทำให้การทำงานของยามีความเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับโอกาสในการเกิดปฏิกิริยาใดๆ ที่อาจเกิดกับอาหารหรือแอลกอฮอล์ก่อนใช้ยานี้
ยาอะไซโคลเวียร์อาจส่งผลให้อาการโรคแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคก่อนใช้ยาเสมอ
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาการติดเชื้อเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ (Herpes Simplex) – เยื่อเมือก (Mucocutaneous) / ผู้ป่วยที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน (Immunocompetent Host)
การรักษาโรคเริมที่อวัยวะเพศช่วงระยะแรก
โรคระดับรุนแรงหรือภาวะแทรกซ้อนที่ต้องรับการรักษาภายในโรงพยาบาล
การรักษาเป็นระยะๆ การรักษาที่มีประสิทธิภาพนั้นจะต้องเริ่มต้นการรักษาภายใน 1 วันเมื่อเริ่มมีแผล หรือขณะที่มีอาการบอกเหตุก่อนเกิดระยะโรคหรืออาการกำเริบ
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาการติดเชื้อเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ – เยื่อเมือก/ ผู้ป่วยที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน
ร่วมกับการติดเชื้อเอชไอวี
การรักษาโรคเริมที่อวัยวะเพศช่วงระยะแรก
โรคระดับรุนแรง
การรักษาเป็นระยะๆ การรักษาที่มีประสิทธิภาพนั้น จะต้องเริ่มต้นการรักษาภายใน 1 วันเมื่อเริ่มมีแผล หรือขณะที่มีอาการบอกเหตุ ก่อนเกิดระยะโรคหรืออาการกำเริบ
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาภาวะสมองอักเสบจากการติดเชื้อเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ (Herpes Simplex Encephalitis)
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาการติดเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ ซอสเตอร์ (Herpes Zoster)
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาการติดเชื้อไวรัสวาริเซลลา ซอสเตอร์ (Varicella-Zoster)
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาการติดเชื้อเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ที่ปาก (Herpes Simplex Labialis)
ผู้ป่วยที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาการติดเชื้อเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ – การระงับอาการ (Suppression)
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ ซอสเตอร์
ผู้ใหญ่ที่ติดเชื้อเอชไอวี (แนวทางการใช้ยา)
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสวาริเซลลา ซอสเตอร์
ผู้ใหญ่ที่ติดเชื้อเอชไอวี (แนวทางการใช้ยา)
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาการติดเชื้อเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ – โรคแต่กำเนิด
โรคเริมในเด็กทารกแรกเกิด
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาการติดเชื้อเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ – เยื่อเมือก/ผู้ป่วยที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน
การรักษาโรคเริมที่อวัยวะเพศช่วงระยะแรก
โรคระดับรุนแรงหรือภาวะแทรกซ้อนที่ต้องรับการรักษาภายในโรงพยาบาล
การติดเชื้อเริมที่อวัยวะเพศกำเริบ
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาภาวะสมองอักเสบจากการติดเชื้อเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาการติดเชื้อเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ – เยื่อเมือก/ผู้ป่วยที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน
ร่วมกับการติดเชื้อเอชไอวี (แนวทางที่แนะนำ)
เหงือกและปากอักเสบ (Gingivostomatitis) แบบมีอาการระดับเบา
เหงือกและปากอักเสบระดับปานกลางถึงรุนแรง
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาการติดเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ ซอสเตอร์
ผู้ป่วยที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน
การให้ยาโดยการฉีดยา
ยาแบบรับประทาน
ผู้ป่วยที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน
เด็กที่เปิดรับเชื้อเอชไอวีและเด็กที่ติดเชื้อเอชไอวี
เชื้อซอสเตอร์ที่ไม่ซับซ้อน
การกดภูมิคุ้มกันอย่างรุนแรง (Severe immunosuppression) (หมวดหมู่ภูมิคุ้มกันของศูนย์ควบคุมโรคติดต่อแห่งหสรัฐฯ หมวดหมู่ที่ 3) มีความเกี่ยวข้องกับเส้นประสาทใบหน้า (trigeminal) หรือเส้นประสาทกระเบนเหน็บ (sacral) เกิดแผลบนผิวหนังหลายแห่งบริเวณกว้าง (extensive multidermatomal) หรือโรคงูสวัดแบบแพร่กระจาย (disseminated zoster)
วัยรุ่นที่ติดเชื้อเอชไอวี
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาการติดเชื้อไวรัสวาริเซลลา ซอสเตอร์
ผู้ป่วยที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน
ผู้ป่วยที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน
เด็กที่เปิดรับเชื้อเอชไอวีและติดเชื้อเอชไอวี
การกดภูมิคุ้มกันอย่างรุนแรง (หมวดหมู่ภูมิคุ้มกันของศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ หมวดหมู่ที่ 3)
วัยรุ่นที่ติดเชื้อเอชไอวี
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาการติดเชื้อเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ – การระงับอาการ
ช่วงแรกเกิด (อายุน้อยกว่า 1 ปี)
การป้องกันแบบทุติยภูมิสำหรับเด็กที่เปิดรับเชื้อเอชไอวีและติดเชื้อเอชไอวี
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาการติดเชื้อเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ที่ปาก
ร่วมกับการติดเชื้อเอชไอวี
วัยรุ่น 400 มก. รับประทานวันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 5 ถึง 10 วัน
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ ซอสเตอร์
เด็กหรือวัยรุ่นที่ติดเชื้อเอชไอวี (คำแนะนำการใช้ยา)
การป้องกันหลังจากเปิดรับเชื้อไปแล้วสำหรับเด็กหรือวัยรุ่นที่ติดเชื้อเอชไอวี
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสวาริเซลลา ซอสเตอร์
เด็กหรือวัยรุ่นที่ติดเชื้อเอชไอวี (คำแนะนำการใช้ยา)
การป้องกันหลังจากเปิดรับเชื้อไปแล้วสำหรับเด็กหรือวัยรุ่นที่ติดเชื้อเอชไอวี
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
หากลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย