อ็อกซิโคนาโซล (Oxiconazole) ใช้ในการรักษาโรคผิวหนัง เช่น น้ำกัดเท้า สังคัง กลาก เกลื้อน การติดเชื้อรา ทำงานโดยป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อรา
ข้อบ่งใช้
ยา อ็อกซิโคนาโซล ใช้สำหรับ
ยา อ็อกซิโคนาโซล (Oxiconazole) ใช้ในการรักษาโรคผิวหนัง เช่น น้ำกัดเท้า โรคสังคัง และโรคกลาก ยานี้ยังใช้เพื่อรักษาโรคเกลื้อน การติดเชื้อราที่ทำให้ผิวบริเวณลำคอ หน้าอก แขนหรือขา กลายเป็นสีอ่อนหรือเข้มขึ้น ยาอ็อกซิโคนาโซลเป็นต้านเชื้อรากลุ่มเอโซล (Azole) ซึ่งทำงานโดยป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อรา
วิธีการใช้ยา อ็อกซิโคนาโซล
ทายาให้ทั่วบริเวณที่มีอาการ และบริเวณโดยรอบ หากใช้โลชั่นให้เขย่าขวดก่อนใช้ ใช้ก้อนสำลีหรือผ้านุ่ม ๆ เพื่อใช้ทาโลชั่น หลังจากทายานี้แล้วให้ล้างมือ ห้ามพันแผลบริเวณนี้ เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำอื่นจากแพทย์
ห้ามให้ยาสัมผัสกับดวงตา จมูก ปาก หรืออวัยวะเพศ
ใช้ยาเป็นประจำเพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุด ควรทายาในเวลาเดียวกันกับทุก ๆ วัน
แม้อาการจะหายไปหลังจากเริ่มใช้ยา ก็ควรใช้ยาอย่างต่อเนื่องจนครบตามกำหนด เพราะการหยุดยาก่อนกำหนดอาจทำให้เชื้อราเติบโตต่อไป จนอาจทำให้อาการกลับมาเป็นซ้ำได้
แจ้งให้แพทย์ทราบ หากอาการไม่หายไปหลังจากรักษาไปแล้ว 2-4 สัปดาห์ หรือหากมีอาการแย่ลง
การเก็บรักษายาอ็อกซิโคนาโซล
ควรเก็บรักษายาอ๊อกซิโคนาโซลที่อุณหภูมิห้อง ให้พ้นแสงและความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเสื่อมสภาพ ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาอ๊อกซิโคนาโซลบางยี่ห้ออาจมีวิธีเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรอ่านคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์หรือสอบถามเภสัชกรเสมอ และโปรดเก็บยาให้พ้นจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยงเพื่อความปลอดภัย
ไม่ควรทิ้งยาอ๊อกซิโคนาโซลลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น หากยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยา ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้อง โดยสามารถสอบถามข้อมูลวิธีกำจัดยาที่ถูกต้องได้จากเภสัชกร
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้ยาอ็อกซิโคนาโซล
ก่อนใช้ยาอ็อกซิโคนาโซล แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากคุณแพ้ยาตัวนี้ หรือแพ้ยาต้านเชื้อรากลุ่มเอโซลอื่นๆ เช่น โคลไทรมาโซล (Clotrimazole) คีโตโคนาโซล (Ketoconazole) ไมโคนาโซล (Miconazole) หรือหากคุณมีอาการแพ้อื่น ๆ ยานี้อาจมีส่วนผสมที่ไม่ได้ออกฤทธิ์ในการรักษาที่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือปัญหาอื่น ๆ ได้ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
แจ้งประวัติทางการแพทย์ให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อนใช้ยานี้
หากตั้งครรภ์ ควรใช้ยานี้เมื่อจำเป็นเท่านั้น โปรดปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงในการใช้ยา
ยานี้อาจส่งต่อผ่านการให้นมบุตร ควรปรึกษากับแพทย์ก่อนให้นมบุตร
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อสอบถามถึงประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
ยาอ็อกซิโคนาโซลจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท B โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
- A = ไม่มีความเสี่ยง
- B = ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
- C = อาจจะมีความเสี่ยง
- D = มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
- X = ห้ามใช้
- N = ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้ยาอ็อกซิโคนาโซล
อาจทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน บวม ระคายเคือง ผื่นแดง หรือผิวหนังส่วนที่รักษาตกสะเก็ด โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบทันที หากอาการใด ๆ เหล่านี้เกิดขึ้นต่อเนื่องหรือแย่ลง
โปรดจำไว้ว่า แพทย์สั่งจ่ายยาตัวนี้ให้คุณ เนื่องจากพิจารณาแล้วว่า มีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง และคนส่วนใหญ่ที่ใช้ยาตัวนี้ไม่เกิดผลข้างเคียงรุนแรงใด ๆ
โปรดแจ้งแพทย์ทันทีหากคุณเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น แผลพุพอง มีน้ำเหลืองเยิ้ม มีแผล
การแพ้ยานี้อย่างรุนแรงค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก แต่จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาการแพ้ยารุนแรง ได้แก่
ผลข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้น อาจไม่ได้เกิดกับทุกคน หรือบางคนอาจมีอาการอื่นนอกเหนือจากนี้ หากคุณมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
ยาอ็อกซิโคนาโซลอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรด้วยว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง สมุนไพร เป็นต้น และเพื่อความปลอดภัย คุณไม่ควรเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาเองโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ปฎิกิริยาต่ออาหารหรือแอลกอฮอล์
ยาอ็อกซิโคนาโซลอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ปฏิกิริยาต่ออาการโรคอื่น
ยาอ็อกซิโคนาโซลอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาอ็อกซิโคนาโซลสำหรับผู้ใหญ่
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อใช้รักษาโรคกลากตามลำตัว
ครีมหรือโลชั่น : ทาที่บริเวณที่มีอาการและบริเวณโดยรอบ ประมาณ 1-2 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 2 สัปดาห์
การใช้งาน : ใช้เพื่อการรักษาเฉพาะที่สำหรับโรคสังคังและโรคกลากจากเชื้อรา Trichophyton rubrum เชื้อรา T mentagrophytes หรือ เชื้อรา Epidermophyton floccosum
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อใช้รักษาโรคสังคัง
ครีมหรือโลชั่น : ทาที่บริเวณที่มีอาการและบริเวณโดยรอบ ประมาณ 1-2 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 2 สัปดาห์
การใช้งาน : ใช้เพื่อการรักษาเฉพาะที่สำหรับโรคสังคังและโรคกลาก จากเชื้อรา Trichophyton rubrum เชื้อรา T mentagrophytes หรือ เชื้อรา Epidermophyton floccosum
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อใช้รักษาเชื้อราที่เท้า
ครีมหรือโลชั่น : ทาที่บริเวณที่มีอาการและบริเวณโดยรอบ ประมาณ 1-2 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 1 เดือน
วิธีการใช้ : ใช้เพื่อการรักษาเฉพาะที่สำหรับโรคโรคน้ำกัดเท้าจากเชื้อรา T rubrum เชื้อรา T mentagrophytes หรือ เชื้อรา E floccosum
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อใช้รักษาโรคเกลื้อน
ครีม : ทาที่บริเวณที่มีอาการและบริเวณโดยรอบ หนึ่งครั้งต่อวัน เป็นเวลา 2 สัปดาห์
คำแนะนำ
- โรคเกลื้อนอาจก่อให้เกิดวงด่างขาวชั่วคราว หรือจุดรอยด่างที่มีต้นกำเนิดบริเวณลำตัวและอาจจะขยายไปถึงลำคอ แขน และต้นขาส่วนบน
- หลังรักษาอาการติดเชื้อ เม็ดสีตรงบริเวณที่มีอาการอาจจะยังไม่ฟื้นกลับมาในทันที โดยปกติแล้วอาจจะต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าที่สีผิวบริเวณนั้นจะกลับมาเป็นปกติ
วิธีการใช้ : ใช้รักษาโรคเกลื้อนที่มาจาก เชื้อ Malassezia furfur
คำแนะนำอื่น ๆ
คำแนะนำการใช้
- ใช้เฉพาะภายนอกเท่านั้น ห้ามทาดวงตาหรือรับประทาน
- ควรใช้ยาอย่างต่อเนื่อง
- เขย่าขวดโลชั่นก่อนใช้งาน
การเก็บรักษา
- เก็บรักษาที่อุณหภูมิระหว่าง 15-30 องศาเซียลเซียส (59-86 องศาฟาเรนไฮต์)
ทั่วไป
- ยานี้แทบจะไม่มีประสิทธิภาพกับเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี
- หากอาการไม่ดีขึ้นหลังจากรักษามาสักพัก ควรวินิจฉัยโรคใหม่
- โรคเกลื้อนสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วย
- ควรล้างมือหลังการใช้ยา
- อย่าให้ยาสัมผัสกับดวงตา ปาก จมูก อวัยวะเพศ และเยื่อเมือกอื่น ๆ
- ใช้ยาจนครบระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- หากผ่านไปแล้ว 2-4 สัปดาห์ อาการยังไม่ดีขึ้นหลัง ควรติดต่อแพทย์
- หากมีอาการระคายเคือง คัน ปวดแสบปวดร้อน พุพอง บวม หรือมีน้ำเหลืองตรงที่บริเวณที่ทายา ควรติดต่อแพทย์
- อย่าพันผ้าพันแผล เว้นแต่แพทย์จะแนะนำให้ทำเช่นนั้น
ขนาดยาอ็อกซิโคนาโซลสำหรับเด็ก
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อใช้รักษาโรคกลากตามลำตัว
ยาครีมหรือโลชั่น : ทาที่บริเวณที่มีอาการและบริเวณโดยรอบ ประมาณ 1-2 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 2 สัปดาห์
วิธีการใช้ : ใช้เพื่อการรักษาเฉพาะที่สำหรับโรคสังคังและโรคกลากจากเชื้อรา Trichophyton rubrum เชื้อรา T mentagrophytes หรือ เชื้อรา Epidermophyton floccosum
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อใช้รักษาโรคสังคัง
ยาครีมหรือโลชั่น : ทาที่บริเวณที่มีอาการและบริเวณโดยรอบ ประมาณ 1-2 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 2 สัปดาห์
วิธีการใช้ : ใช้เพื่อการรักษาเฉพาะที่สำหรับโรคสังคังและโรคกลากจากเชื้อรา Trichophyton rubrum เชื้อรา T mentagrophytes หรือ เชื้อรา Epidermophyton floccosum
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อใช้รักษาโรคเชื้อราที่เท้า
ยาครีมหรือโลชั่น : ทาที่บริเวณที่มีอาการและบริเวณโดยรอบ ประมาณ 1-2 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 1 เดือน
วิธีการใช้ : ใช้เพื่อการรักษาเฉพาะที่สำหรับโรคน้ำกัดเท้าจากเชื้อรา T rubrum เชื้อรา T mentagrophytes หรือ เชื้อรา E floccosum
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อใช้รักษาโรคเกลื้อน
ยาครีม : ทาที่บริเวณที่มีอาการและบริเวณโดยรอบ หนึ่งครั้งต่อวัน เป็นเวลา 2 สัปดาห์
คำแนะนำ
- โรคเกลื้อนอาจก่อให้เกิดวงด่างขาวชั่วคราว หรือจุดรอยด่างที่มีต้นกำเนิดมาจากลำตัวและอาจจะขยายไปถึงลำคอ แขน และต้นขาส่วนบน
- หลังรักษาอาการติดเชื้อ เม็ดสีตรงบริเวณที่มีอาการอาจจะยังไม่ฟื้นกลับมาในทันที โดยปกติแล้วอาจจะต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าที่สีผิวบริเวณนั้นจะกลับมาเป็นปกติ
วิธีการใช้ : ใช้รักษาโรคเกลื้อนที่มาจาก เชื้อ Malassezia furfur
รูปแบบของยา
จุดเด่นและรูปแบบการใช้งานมีดังนี้
- ยาแบบครีมทาเฉพาะที่
- ยาแบบโลชั่นทาเฉพาะที่
กรณีฉุกเฉินหรือการใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติ ไม่ควรเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]
