ยา ไนโตรกลีเซอรีน (Nitroglycerin) ใช้รักษาภาวะความดันโลหิตสูงระหว่างการผ่าตัด ควบคุมอาการหัวใจล้มเหลวที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจวาย และรักษาอาการปวดหน้าอก
ข้อบ่งใช้
ยา ไนโตรกลีเซอรีน ใช้สำหรับ
ยาไนโตรกลีเซอรีน (Nitroglycerin) ใช้เพื่อรักษาภาวะความดันโลหิตสูงระหว่างการผ่าตัด ควบคุมอาการหัวใจล้มเหลวที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจวาย รักษาอาการปวดหน้าอกในผู้ป่วยบางราย และลดความดันโลหิตระหว่างการผ่าตัด
ยาไนโตรกลีเซอรีนเป็นไนเตรท (nitrate) ทำงานโดยการผ่อนคลายและช่วยขยายหลอดเลือด เนื่องจากอาการปวดหน้าอกจะเกิดขึ้นเมื่อหัวใจได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ การผ่อนคลายหลอดเลือดจะทำให้เลือดไหลเวียนได้ง่ายขึ้น ช่วยไม่ให้หัวใจต้องทำงานหนักเกินไป และช่วยลดปริมาณออกซิเจนที่ร่างกายต้องการด้วย
วิธีการใช้ยา ไนโตรกลีเซอรีน
ใช้ยาไนโตรกลีเซอรีนตามที่แพทย์สั่ง โดยต้องไม่ลืมอ่านฉลากยาเพื่อรับทราบวิธีการใช้ยาที่ถูกต้อง
คุณสามารถให้ยาไนโตรกลีเซอรีนได้ด้วยการฉีดยาที่ห้องทำงานของแพทย์ โรงพยาบาล หรือคลินิก หากคุณมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดปรึกษาแพทย์
การเก็บรักษายาไนโตรกลีเซอรีน
ควรเก็บยาไนโตรกลีเซอรีนที่อุณหภูมิห้อง ให้พ้นแสงและความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเสื่อมสภาพ ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาไนโตรกลีเซอรีนบางยี่ห้ออาจมีวิธีเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรอ่านคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์หรือสอบถามเภสัชกรเสมอ และโปรดเก็บยาให้พ้นจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยงเพื่อความปลอดภัย
ไม่ควรทิ้งยาไนโตรกลีเซอรีนลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น หากยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยา ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้อง โดยสามารถสอบถามข้อมูลวิธีกำจัดยาที่ถูกต้องได้จากเภสัชกร
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้ยาไนโตรกลีเซอรีน
ก่อนรับประทานยานี้ โปรดแจ้งกับแพทย์หรือเภสัชกรหาก
- คุณแพ้ต่อยานี้หรือส่วมผสมอื่นๆ ของยานี้ หรือคุณแพ้ต่อยาอื่น หรือเป็นภูมิแพ้อื่นๆ ยานี้อาจมีผสมไม่ออกฤทธิ์ในการรักษาบางอย่างที่ทำให้เกิดการแพ้ได้
- คุณกำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร เนื่องจากในช่วงที่วางแผนตั้งครรภ์ กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร ควรใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำเท่านั้น
- คุณกำลังใช้ยาอื่นอยู่ รวมทั้งยาที่หาซื้อได้เอง เช่น สมุนไพร ยาทางเลือกอื่นๆ
- คุณมีอาการป่วย มีความผิดปกติ หรือมีสภาวะทางการแพทย์อื่นๆ โดยเฉพาะ
- ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจอื่นๆ เช่น หัวใจล้มเหลว หัวใจโต หัวใจวาย ถุงรอบหัวใจบวม มีการรบกวนของเลือดที่กลับสู่หัวใจ ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน โรคหลอดเลือดสมอง อาการเลือดออกในสมองอื่นๆ อาการบาดเจ็บที่ศีรษะเมื่อไม่นานมานี้
- ภาวะโลหิตจาง ความดันโลหิตต่ำ ภาวะขาดน้ำ หรือปริมาณเลือดต่ำ
- คุณดื่มสุรา
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
ยาซิมวาสแตตินจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
- A = ไม่มีความเสี่ยง
- B = ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
- C = อาจจะมีความเสี่ยง
- D = มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
- X = ห้ามใช้
- N = ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้ยาไนโตรกลีเซอรีน
ยาไนโตรกลีเซอรีนอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบหากผลข้างเคียงเหล่านี้ไม่หายไป หรือรุนแรงขึ้น
- วิงเวียนหรือหน้ามืด
- ปวดศีรษะ
- ระคายเคืองตรงบริเวณที่ฉีดยา
หากคุณเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงเหล่านี้ โปรดติดต่อแพทย์หรือเข้ารับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินทันที
- อาการแพ้ที่รุนแรง (ผดผื่น ลมพิษ หายใจติดขัด แน่นหน้าอก อาการบวมที่ปาก ใบหน้า ริมฝีปาก หรือลิ้น)
- มองเห็นไม่ชัด
- ปากแห้ง
- หมดสติ
- หัวใจเต้นเร็วหรือผิดปกติ
- หน้าแดง
- เหงื่อออกมาก
- ผิวซีด
- กระสับกระส่าย
- วิงเวียนหรือปวดหัวอย่างรุนแรงหรือไม่หายไป
- คลื่นไส้หรืออาเจียนอย่างรุนแรงหรือไม่หายไป
- เหนื่อยล้าหรืออ่อนแรงผิดปกติ
ผลข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้น อาจไม่ได้เกิดกับทุกคน หรือบางคนอาจมีอาการอื่นนอกเหนือจากนี้ หากคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
ยาไนโตรกลีเซอรีนอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น
คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรด้วยว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง สมุนไพร เป็นต้น และเพื่อความปลอดภัย คุณไม่ควรเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาเองโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ ได้แก่
- ยาอะแวนาฟิล (Avanafil)
- ยาในกลุ่มเบต้าบล็อกเกอร์ (beta-blockers) เช่น ยาโพรพราลอล (propranolol)
- ยาในกลุ่มแคลเซียมชาแนลบล็อกเกอร์ (calcium channel blockers) เช่น ยาดิลไทอาเซม (diltiazem)
- ยาขับปัสสาวะ เช่น ยาฟลูโรเซไมด์ (furosemide) ยาไฮโดรคลอโรไทอาไซด์ (hydrochlorothiazide)
- ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง
- ยาฟีโนไทอาซีน (phenothiazines) เช่น ยาไทโอริดาซีน (thioridazine) ยาไรโอซิกวท (riociguat) ยาซิลเดนาฟิล (sildenafil) ยาทาดาลาฟิล (tadalafil) หรือยาวาร์เดนาฟิล (vardenafil) เนื่องจากความเสี่ยงในการเกิดอาการความดันโลหิตต่ำหรือวิงเวียนขณะยืนอาจจะเพิ่มขึ้น
- ยาซาลิไซเลต (Salicylates) เช่น แอสไพริน เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงของยาไนโตรกลีเซอรีน
- ยาไนเตรทออกฤทธิ์นาน เนื่องจากอาจลดประสิทธิภาพของยาไนโตรกลีเซอรีน
- ยาแอลทีเพลส (Alteplase) เนื่องจากอาจลดประสิทธิภาพของยาไนโตรกลีเซอรีน
- ยาเฮพาริน (Heparin) เนื่องจากประสิทธิภาพของยานี้อาจลดลงเพราะยาไนโตรกลีเซอรีน
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
ยาไนโตรกลีเซอรีนอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
ยาไนโตรกลีเซอรีนอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาไนโตรกลีเซอรีนสำหรับผู้ใหญ่
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาเจ็บหน้าอกจากหัวใจขาดเลือด (Angina Pectoris)
- ยาสารละลายสำหรับฉีดเข้าหลอดเลือดดำ 5 ไมโครกรัม/นาที หยอดยาเข้าหลอดเลือดดำอย่างต่อเนื่องโดยใช้สายยางที่ไม่ดูดซับ (non-absorptive tubing) เพิ่มขนาดยา 5 ไมโครกรัม/นาที ทุกๆ 3-5 นาที เท่าที่จำเป็น จนถึง 20 ไมโครกรัม/นาที แล้วจึงเพิ่มในขนาด 10 หรือ 20 ไมโครกรัม/นาที หากจำเป็น
- สเปรย์พ่นใต้ลิ้น (Lingual spray) พ่นยา 1-2 ครั้ง (0.4-0.8 มก.) ลงใต้ลิ้นทุกๆ 5 นาทีเท่าที่จำเป็น สูงสุด 3 ครั้งภายใน 15 นาที หากยังมีอาการปวดอยู่หลังจากใช้ยาในขนาดสูงสุด ควรไปหาแพทย์ในทันที
- ยาอมใต้ลิ้น 0.3-0.6 มก. อมไว้ใต้ลิ้นหรือในกระพุ้งแก้ม ทุกๆ 5 นาทีเท่าที่จำเป็น สูงสุด 3 ครั้งภายใน 15 นาที หากยังมีอาการปวดอยู่หลังจากใช้ยาในขนาดสูงสุด ควรเข้ารับการรักษาทันที
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อป้องกันเจ็บหน้าอกจากหัวใจขาดเลือด
- สเปรย์พ่นใต้ลิ้น พ่นยา 1-2 ครั้ง (0.4-0.8 มก.) บนลิ้นหรือใต้ลิ้น 5-10 นาทีก่อนทำกิจกรรมที่อาจเร่งให้เกิดอาการกำเริบเฉียบพลัน
- ยาอมใต้ลิ้น 0.3-0.6 มก. อมไว้ใต้ลิ้นหรือในกระพุ้งแก้ม 5-10 นาทีก่อนทำกิจกรรมที่อาจเร่งให้เกิดอาการกำเริบเฉียบพลัน
- ยาขี้ผึ้งเฉพาะที่ ทายา 1/2 นิ้ว (7.5 มก.) ทาเฉพาะที่เมื่อเริ่มมีอาการ และทายา 1/2 นิ้ว (7.5 มก.) 6 ชั่วโมงหลังจากนั้น ปรับขนาดยาตามที่จำเป็นและตามความทนต่อยา
- แผ่นแปะซึมเข้าสู่ผิวหนัง 0.2-0.4 มก./ชั่วโมง แปะเฉพาะที่วันละครั้งเป็นเวลา 12-14 ชั่วโมงต่อวันปรับขนาดยาตามที่จำเป็นและตามความทนต่อยา สูงสุดที่ 0.8 มก./ชั่วโมง
- ยาแคปซูลออกฤทธิ์นาน 2.5-6 มก. รับประทานวันละ 3 ถึง 4 ครั้งปรับขนาดยาตามที่จำเป็นและตามความทนต่อยา
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย (Myocardial Infarction)
- ยาสารละลายสำหรับฉีดเข้าหลอดเลือดดำ 5 ไมโครกรัม/นาที หยอดยาเข้าหลอดเลือดดำอย่างต่อเนื่องโดยใช้สายยางที่ไม่ดูดซับ เพิ่มขนาดยา 5 ไมโครกรัม/นาที ทุกๆ 3-5 นาที เท่าที่จำเป็น จนถึง 20 ไมโครกรัม/นาที แล้วจึงเพิ่มในขนาด 10 หรือ 20 ไมโครกรัม/นาที หากจำเป็น
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคความดันโลหิตสูง
- ยาสารละลายสำหรับฉีดเข้าหลอดเลือดดำ 5 ไมโครกรัม/นาที หยอดยาเข้าหลอดเลือดดำอย่างต่อเนื่องโดยใช้สายยางที่ไม่ดูดซับ เพิ่มขนาดยา 5 ไมโครกรัม/นาที ทุกๆ 3-5 นาที เท่าที่จำเป็น จนถึง 20 ไมโครกรัม/นาที แล้วจึงเพิ่มในขนาด 10 หรือ 20 ไมโครกรัม/นาที หากจำเป็น
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาแผลรอยแยกขอบทวารหนัก (Anal Fissure) และโรคฝีคัณฑสูตร (Fistula)
- ยาขี้ผึ้งทาทวารหนัก ทายา 1 นิ้ว (ขี้ผึ้ง 375 มก. เทียบเท่ากับยาไนโตรกลีเซอรีน 1.5 มก.) ทาในทวารหนักทุกๆ 12 ชั่วโมง เป็นเวลาไม่เกิน 3 สัปดาห์
ขนาดยาไนโตรกลีเซอรีนสำหรับเด็ก
ยังไม่มีการพิสูจน์ความความปลอดภัยและประสิทธิภาพของยานี้สำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้นจึงควรทำความเข้าใจกับความปลอดภัยของยาก่อนการใช้ยา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อกับแพทย์หรือเภสัชกร
รูปแบบของยา
ขนาดและรูปแบบของยามีดังนี้
- ยาเม็ด 0.5 มก.
- ยาขี้ผึ้ง 2%
- สเปรย์
- แผ่นแปะ
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ทันทีที่นึกได้ หรือหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]