เส้นเลือดในสมองแตก เป็นโรคเส้นเลือดสมองชนิดหนึ่งเช่นเดียวกับเส้นเลือดในสมองตีบ (Ischemic Stroke) แต่พบค่อนข้างน้อยเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ภาวะความดันโลหิตสูง เนื้องอกในสมอง การบาดเจ็บบริเวณศีรษะ เมื่อมีอาการ เช่น แขนขาอ่อนแรง ปวดหัวรุนแรง ควรไปพบคุณหมอทันที เพราะหากปล่อยไว้อาจทำให้เสียชีวิตได้
[embed-health-tool-bmi]
คำจำกัดความ
เส้นเลือดในสมองแตกคืออะไร
เส้นเลือดในสมองแตก (Hemorrhagic Stroke) เป็นโรคเส้นเลือดสมอง (Stroke) ชนิดหนึ่ง หมายถึง การที่เส้นเลือดในสมองแตกและมีเลือดไหลออกมา ส่งผลให้สมองบางส่วนขาดออกซิเจน หรือเสียหายเนื่องจากปริมาณเลือดในสมองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ เส้นเลือดในสมองแตกอาจเแบ่งได้เป็น 2 ชนิด ดังนี้
- เลือดออกในสมอง (Intracerebral Hemorrhage) หมายถึง เส้นเลือดในสมองแตก ซึ่งส่งผลให้เนื้อเยื่อสมองรอบ ๆ เส้นเลือดที่แตกมีความดันสูงขึ้น
- เลือดออกในเยื่อหุ้มสมอง (Subarachnoid Hemorrhage) หมายถึง การแตกของเส้นเลือดที่ลำเลียงเลือดผ่านเยื่อหุ้มสมองอะแร็กนอยด์แตก (Arachnoid) ทำให้มีเลือดไหลเข้าไปสะสมในช่องว่างระหว่างเยื่อหุ้มสมองและแรงดันภายในกะโหลกเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ เส้นเลือดในสมองแตกพบได้ไม่บ่อย หรือคิดเป็นร้อยละ 13 ของโรคเส้นเลือดสมองทั้งหมด
นอกจากนี้ ผู้ป่วยเส้นเลือดในสมองแตกส่วนใหญ่ มักมีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป
อาการ
อาการของเส้นเลือดในสมองแตก
เมื่อเป็นเส้นเลือดในสมองแตก ผู้ป่วยจะมีอาการเฉียบพลัน ดังนี้
- รู้สึกชาหรืออ่อนแรง บริเวณใบหน้า ขา หรือแขน ของร่างกายซีกใดซีกหนึ่ง
- มีปัญหาในการพูดและไม่เข้าใจสิ่งที่ผู้อื่นพูด
- เดินหรือทรงตัวลำบาก
- ปวดหัวอย่างรุนแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ
- วิงเวียน เป็นลม
- คลื่นไส้ อาเจียน
- มองภาพตรงหน้าไม่ชัดหรือมองไม่เห็นเลย โดยอาการอาจเกิดขึ้นกับดวงตาเพียงข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง
สาเหตุ
สาเหตุของ เส้นเลือดในสมองแตก
เส้นเลือดในสมองแตกมักเกิดจากภาวะความดันโลหิตสูง โดยเฉพาะในกรณีของผู้ที่ความดันโลหิตสูงเป็นเวลานานอาจเสี่ยงสูงต่อการเกิดเส้นเลือดในสมองแตก
นอกจากนี้ เส้นเลือดในสมองแตกอาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- เส้นเลือดสมองโป่งพอง
- เนื้องอกในสมอง
- ความผิดปกติของเส้นเลือด
- การรับประทานยาละลายลิ่มเลือด
- ศีรษะได้รับบาดเจ็บ
- ปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น เช่น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมาก การสูบบุหรี่ โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูง
เมื่อไรควรไปพบคุณหมอ
เมื่อมีอาการเส้นเลือดในสมองแตก ต้องรีบไปพบคุณหมอทันที เพราะอาการมักแย่ลงอย่างรวดเร็ว และอาจทำให้เสียชีวิตได้
ทั้งนี้ อาการของเส้นเลือดในสมองแตก สังเกตได้จากลักษณะท่าทางและพฤติกรรมต่าง ๆ ดังนี้
- ยิ้ม เมื่อยิ้ม มุมปากข้างหนึ่งจะต่ำลงกว่าอีกข้าง
- ยกแขนทั้ง 2 ข้าง ยกแขนได้ไม่เท่ากัน โดยจะยกแขนข้างหนึ่งได้สูงไม่เท่าอีกข้าง หรือในบางกรณีอาจยกแขนข้างหนึ่งไม่ขึ้นเลย เพราะปัญหากล้ามเนื้ออ่อนแรงของร่างกายซีกใดซีกหนึ่ง
- พูดข้อความเดิมซ้ำ ๆ เมื่อขอให้พูดข้อความเดิม จะไม่สามารถพูดได้เหมือนเดิม นอกจากนั้น ยังมีปัญหาในการเลือกใช้คำขณะสนทนาด้วย อาจต้องคิดนาน หรือนึกคำที่ต้องการพูดไม่ออก
การวินิจฉัยและการรักษาโรค
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์ทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัย เส้นเลือดในสมองแตก
ปกติแล้ว คุณหมอจะวินิจฉัยว่าเป็นเส้นเลือดในสมองแตกหรือไม่ ด้วยวิธีการต่อไปนี้
- การตรวจทางประสาท เช่น สังเกตการตอบสนองของดวงตาต่อแสงสว่าง
- ซีที สแกน (Computerized Tomography หรือ CT Scan) เพื่อตรวจหาบริเวณที่เส้นเลือดอุดตันหรือตีบ โดยก่อนตรวจด้วยวิธีนี้ คุณหมออาจฉีดสีเข้าไปในเส้นเลือดเพื่อช่วยให้เห็นรายละเอียดต่าง ๆ ระหว่างการตรวจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
- เอ็มอาร์ไอ (Magnetic Resonance Imaging หรือ MRI) เป็นการตรวจหาความผิดปกติในสมองด้วยการใช้สนามแม่เหล็กความเข้มสูงและคลื่นความถี่ในย่านความถี่วิทยุ
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (Electrocardiogram) เป็นการตรวจสุขภาพหัวใจว่าเป็นสาเหตุของอาการที่ผู้ป่วยกำลังเป็นอยู่หรือไม่
การรักษา เส้นเลือดในสมองแตก
โดยทั่วไป คุณหมอจะรักษาเส้นเลือดในสมองแตก ด้วยวิธีการต่อไปนี้
- ลดความดันโลหิต ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรค ด้วยการให้รับประทานยาลดความดันโลหิต รวมถึงให้ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร โดยให้หลีกเลี่ยงการรับประทานเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน อาหารโซเดียมสูง และอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันอิ่มตัว ซึ่งมักทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นหลังรับประทาน
- ผ่าตัดนำเลือดออก เพื่อลดแรงดันในสมอง
- ผ่าตัดหยุดเลือด หรือผ่าตัดศีรษะ เพื่อนำคลิปขนาดเล็กไปหนีบไว้ที่เส้นเลือดที่กำลังโป่งพอง เพื่อป้องกันเลือดไหลไปยังเส้นเลือด เพราะอาจทำให้เส้นเลือดแตกได้ในภายหลัง โดยทั่วไป วิธีนี้จะใช้กับเส้นเลือดที่มีแนวโน้มจะแตก หรือเคยแตกแล้วและอาจมีเลือดออกซ้ำได้
- ใส่ขดลวด (Endovascular Embolization) เป็นการสวนท่อขนาดเล็กเข้าไปยังเส้นเลือดที่โป่งพอง เพื่อขัดขวางเลือดไม่ให้ไหลไปยังเส้นเลือดดังกล่าวเพราะอาจเป็นอันตรายได้ และป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในเวลาเดียวกัน
- บำบัดทางร่างกาย การพูด หรือความคิด เนื่องจากเส้นเลือดในสมองแตกส่งผลให้สมองเสียหาย จนไม่สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ จำเป็นต้องเข้ารับการบำบัด เพื่อจะได้กลับมาสื่อสารได้ตามปกติ มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง และสามารถคิด จดจำ หรือเพ่งสมาธิได้
การปรับไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเอง
เนื่องจากความดันโลหิตสูงเป็นสาเหตุหลักของเส้นเลือดในสมองแตก จึงอาจป้องกันได้ด้วยการลดความดันโลหิตตามวิธีการต่อไปนี้
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่อาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นหลังรับประทาน เช่น อาหารที่อุดมไปด้วยไขมันอิ่มตัว อย่างของทอดต่าง ๆ เค้ก ชีส เบคอน หรือเนื้อติดมัน
- ควบคุมน้ำหนัก เพราะโรคอ้วนเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น และหากความดันโลหิตสูงอยู่แล้ว โรคอ้วนจะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นกว่าเดิม
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก
- งดสูบบุหรี่ และเลิกใช้ยาเสพติด